ตลอดชีวิต แอนนา ไรอัน มุ่งมั่นกินอาหารไขมันต่ำและออกกำลังกายเป็นประจำ เธอจึงงงมากที่น้ำหนักขึ้นไม่หยุด บางครั้งพึ่งพรวดเดือนเดียว 6 กิโลกรัม จนมาวันหนึ่งสิ่งที่เธอสงสัยก็ได้รับคำตอบ
สองปีที่แล้ว แอนนาได้รับการวินิจฉัยจากผู้เชี่ยวชาญว่าเธอมีอาการผิดปกติในการกินอาหารที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ (SRED) หมายความว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เธอละเมอขึ้นมาค้นตู้เย็นสวาปามอาหารไม่เลือกโดยที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ทำให้ขณะนี้ เธอหนักเกือบ 120 กิโลกรัม
แอนนา วัย 42 ปี ที่มีอาการความดันโลหิตสูงและเบาหวานเป็นผลพวงที่ไม่ได้รับเชิญติดตามมา บอกว่าเธอลองมาแล้วทุกอย่างแต่ไม่ได้ผล
“ฉันเริ่มอ้วนขึ้นตอนอายุ 20 ต้นๆ แต่ก่อนนั้นน้ำหนักฉันคงที่อยู่แถวๆ 60 กิโลกรัม ฉันจึงเริ่มระวังเรื่องอาหารและออกกำลังกายสัปดาห์ละห้าครั้ง แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น
“ฉันเชื่อว่าต้องมีปัญหาบางอย่าง เพราะหลายครั้งฉันตื่นมาแบบอ่อนเพลียและคลื่นไส้ แต่หมอบอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ฉันไม่สบายใจมาก พออายุย่าง 30 ฉันหนัก 84 กิโลกรัมและเริ่มทำใจว่าคงหนักขึ้นเรื่อยๆ”
แต่น้ำหนักตัวของแอนนายังขึ้นไม่หยุด มีช่วงหนึ่งที่ขึ้นถึง 12 กิโลกรัมภายในเวลาแค่สองเดือน
หลายคนคิดว่าแอนนาโกหกเรื่องคุมอาหาร
“ฉันจำกัดปริมาณอาหารไว้ที่วันละ 1,200 แคลอรี่ เช้าเริ่มจากซีเรียล กลางวันกินมิลเชคลดน้ำหนัก และอาหารเย็นปลอดไขมัน แต่น้ำหนักยังขึ้นเอาๆ”
ในที่สุด ปริศนาเรื่องนี้ก็เริ่มคลี่คลายในปี 2007 เมื่อเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งและพบเศษบิสกิตบนเตียงและบนหน้าตัวเอง
“ครัวเหมือนโดนระเบิดลง ฉันรู้เลยว่าตัวเองต้องละเมอกินอาหาร เคนนี่ สามีฉันคิดว่าตลกดี แต่ฉันหัวเราะไม่ออก เพราะฉันจำอะไรไม่ได้เลย!”
แอนนาจึงไปพบดร.สก็อตต์ เอเวลอฟฟ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ ที่วินิจฉัยว่าเธอเป็นโรคประหลาดที่พบแค่ 3% ของประชากร
“ฉันเบาใจลงหน่อยที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังกลัวอยู่ดีเพราะเรื่องนี้เกินความควบคุมของฉัน”
เธอเล่าว่าตอนเด็กๆ พ่อแม่เคยเห็นเธอละเมอลุกขึ้นมาเดิน 2-3 ครั้ง แต่เธอไม่เคยนำเรื่องนี้มาโยงกับปัญหาน้ำหนักตัวมาก่อน
“ฉันแค่รู้สึกว่าอาหารในบ้านหมดเร็วมาก และคิดเอาเองว่าเคนนีกินไปแต่ไม่เคยถามเขา”
ระดับความรุนแรงของอาการผิดปกติของแอนนาถูกเปิดเผยเป็นครั้งแรกเมื่อมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในบ้าน เพื่อติดตามพฤติกรรมขณะหลับของเธอ
เกือบทุกคืนกล้องจะบันทึกภาพแอนนาเดินเข้า-ออกครัวหลายรอบ และกินอาหารคืนละมากกว่า 2,000 แคลอรี
หลังดูภาพจากกล้อง แอนนาช็อกอีกหน “คืนหนึ่งฉันกินเค้กคนเดียวหมดกล่อง นอกจากนั้น ฉันยังกินหลายอย่างที่ปกติไม่แตะต้องเลย”
แม้ผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุของอาการ SRED ของแอนนา แต่ดร.เอเวลอฟฟ์เชื่อว่า เธอเริ่มมีความผิดปกติตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ
แพทย์แนะนำมาตรการป้องกันหลายอย่าง เช่น ให้กินยากล่อมประสาท ล็อคประตู กินก่อนนอน และไม่ซื้ออาหารมาตุนมากนัก แต่ไม่มีวิธีไหนได้ผล
“คืนหนึ่งฉันตื่นขึ้นมากินเนยราดซอสมะเขือเทศที่ทำให้พะอืดพะอมมาก ขนาดกินยานอนหลับชนิดที่แม้แต่ช้างยังล้ม ฉันยังลุกขึ้นมาหาของกินได้เหมือนเดิม
“ฉันพยายามเปิดล็อกประตูห้องนอนแต่เปิดไม่ได้ หรือไม่ก็พยายามจนตัวเองเจ็บ”
ปีที่แล้ว แอนนาที่สูง 157 เซนติเมตร ลองยาใหม่ที่ช่วยให้เธอไม่ละเมอลุกขึ้นมากินอีก น้ำหนักลดลงไปเกือบ 20 กิโลกรัม แต่แค่ 2-3 เดือนเธอก็ดื้อยาและน้ำหนักที่หายไปกลับมาเหมือนเดิม
แอนนาที่ขณะนี้หนัก 114 กิโลกรัม หวังว่ายาชุดใหม่จะทำให้อาการผิดปกติหายไปเสียที
“ดร.เอเวลอฟให้ยาฉันมาใหม่ สัปดาห์ที่แล้วฉันตื่นขึ้นมาแค่ครั้งเดียว เลยคิดว่ายานี้น่าจะได้ผล เพราะฉันกังวลมากกับปัญหาสุขภาพที่ตามมา นอกจากนั้น ยังทำให้ฉันรู้สึกแย่และอับอาย
“คนอื่นมักไม่เชื่อและเห็นเป็นเรื่องตลก แต่สำหรับฉัน นี่คือฝันร้าย”
สองปีที่แล้ว แอนนาได้รับการวินิจฉัยจากผู้เชี่ยวชาญว่าเธอมีอาการผิดปกติในการกินอาหารที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ (SRED) หมายความว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เธอละเมอขึ้นมาค้นตู้เย็นสวาปามอาหารไม่เลือกโดยที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ทำให้ขณะนี้ เธอหนักเกือบ 120 กิโลกรัม
แอนนา วัย 42 ปี ที่มีอาการความดันโลหิตสูงและเบาหวานเป็นผลพวงที่ไม่ได้รับเชิญติดตามมา บอกว่าเธอลองมาแล้วทุกอย่างแต่ไม่ได้ผล
“ฉันเริ่มอ้วนขึ้นตอนอายุ 20 ต้นๆ แต่ก่อนนั้นน้ำหนักฉันคงที่อยู่แถวๆ 60 กิโลกรัม ฉันจึงเริ่มระวังเรื่องอาหารและออกกำลังกายสัปดาห์ละห้าครั้ง แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น
“ฉันเชื่อว่าต้องมีปัญหาบางอย่าง เพราะหลายครั้งฉันตื่นมาแบบอ่อนเพลียและคลื่นไส้ แต่หมอบอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ฉันไม่สบายใจมาก พออายุย่าง 30 ฉันหนัก 84 กิโลกรัมและเริ่มทำใจว่าคงหนักขึ้นเรื่อยๆ”
แต่น้ำหนักตัวของแอนนายังขึ้นไม่หยุด มีช่วงหนึ่งที่ขึ้นถึง 12 กิโลกรัมภายในเวลาแค่สองเดือน
หลายคนคิดว่าแอนนาโกหกเรื่องคุมอาหาร
“ฉันจำกัดปริมาณอาหารไว้ที่วันละ 1,200 แคลอรี่ เช้าเริ่มจากซีเรียล กลางวันกินมิลเชคลดน้ำหนัก และอาหารเย็นปลอดไขมัน แต่น้ำหนักยังขึ้นเอาๆ”
ในที่สุด ปริศนาเรื่องนี้ก็เริ่มคลี่คลายในปี 2007 เมื่อเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งและพบเศษบิสกิตบนเตียงและบนหน้าตัวเอง
“ครัวเหมือนโดนระเบิดลง ฉันรู้เลยว่าตัวเองต้องละเมอกินอาหาร เคนนี่ สามีฉันคิดว่าตลกดี แต่ฉันหัวเราะไม่ออก เพราะฉันจำอะไรไม่ได้เลย!”
แอนนาจึงไปพบดร.สก็อตต์ เอเวลอฟฟ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ ที่วินิจฉัยว่าเธอเป็นโรคประหลาดที่พบแค่ 3% ของประชากร
“ฉันเบาใจลงหน่อยที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังกลัวอยู่ดีเพราะเรื่องนี้เกินความควบคุมของฉัน”
เธอเล่าว่าตอนเด็กๆ พ่อแม่เคยเห็นเธอละเมอลุกขึ้นมาเดิน 2-3 ครั้ง แต่เธอไม่เคยนำเรื่องนี้มาโยงกับปัญหาน้ำหนักตัวมาก่อน
“ฉันแค่รู้สึกว่าอาหารในบ้านหมดเร็วมาก และคิดเอาเองว่าเคนนีกินไปแต่ไม่เคยถามเขา”
ระดับความรุนแรงของอาการผิดปกติของแอนนาถูกเปิดเผยเป็นครั้งแรกเมื่อมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในบ้าน เพื่อติดตามพฤติกรรมขณะหลับของเธอ
เกือบทุกคืนกล้องจะบันทึกภาพแอนนาเดินเข้า-ออกครัวหลายรอบ และกินอาหารคืนละมากกว่า 2,000 แคลอรี
หลังดูภาพจากกล้อง แอนนาช็อกอีกหน “คืนหนึ่งฉันกินเค้กคนเดียวหมดกล่อง นอกจากนั้น ฉันยังกินหลายอย่างที่ปกติไม่แตะต้องเลย”
แม้ผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุของอาการ SRED ของแอนนา แต่ดร.เอเวลอฟฟ์เชื่อว่า เธอเริ่มมีความผิดปกติตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ
แพทย์แนะนำมาตรการป้องกันหลายอย่าง เช่น ให้กินยากล่อมประสาท ล็อคประตู กินก่อนนอน และไม่ซื้ออาหารมาตุนมากนัก แต่ไม่มีวิธีไหนได้ผล
“คืนหนึ่งฉันตื่นขึ้นมากินเนยราดซอสมะเขือเทศที่ทำให้พะอืดพะอมมาก ขนาดกินยานอนหลับชนิดที่แม้แต่ช้างยังล้ม ฉันยังลุกขึ้นมาหาของกินได้เหมือนเดิม
“ฉันพยายามเปิดล็อกประตูห้องนอนแต่เปิดไม่ได้ หรือไม่ก็พยายามจนตัวเองเจ็บ”
ปีที่แล้ว แอนนาที่สูง 157 เซนติเมตร ลองยาใหม่ที่ช่วยให้เธอไม่ละเมอลุกขึ้นมากินอีก น้ำหนักลดลงไปเกือบ 20 กิโลกรัม แต่แค่ 2-3 เดือนเธอก็ดื้อยาและน้ำหนักที่หายไปกลับมาเหมือนเดิม
แอนนาที่ขณะนี้หนัก 114 กิโลกรัม หวังว่ายาชุดใหม่จะทำให้อาการผิดปกติหายไปเสียที
“ดร.เอเวลอฟให้ยาฉันมาใหม่ สัปดาห์ที่แล้วฉันตื่นขึ้นมาแค่ครั้งเดียว เลยคิดว่ายานี้น่าจะได้ผล เพราะฉันกังวลมากกับปัญหาสุขภาพที่ตามมา นอกจากนั้น ยังทำให้ฉันรู้สึกแย่และอับอาย
“คนอื่นมักไม่เชื่อและเห็นเป็นเรื่องตลก แต่สำหรับฉัน นี่คือฝันร้าย”