คอลัมน์ ON TRACK โดย เด็กปั๊ม
เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของการปักหลักทำข่าวเวียงจันทน์เกมส์ 2009 ขณะที่ผมนั่งปั่นต้นฉบับอยู่นี้เพิ่งจะซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ฝ่าความหนาวจากสนามกีฬาหลัก 16 หลังจากไปเกะติดกีฬาว่ายน้ำมาสดๆร้อนๆ ซึ่งผมมั่นใจว่าเหรียญทองของ "เจมส์ บอนด์" ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ ฉลามดาวรุ่งวัย 17 ปี จะเป็นทองเดียวของทัพว่ายน้ำไทยในเวียงจันทน์เกมส์ 2009 นึกแล้วก็อดใจหายไม่ได้ เพราะตั้งแต่จำความได้ ชื่อของศรสวรรค์ ภู่วิจิตร และ รัฐพงศ์ ศิริสานนท์ คือชื่อของจ้าวสระซีเกมส์ทั้งนั้น
การมาอยู่ที่ลาวทำให้ผมเองไม่ได้ติดตามข่าวสารในวงการมอเตอร์สปอร์ตมากนัก ซึ่งหลังจากกลับถึงโรงเเรมก็รีบเปิดอินเตอร์เนตเช็คข่าวในวงการมอเตอร์สปอร์ตโลกในทันที จนได้ทราบว่ากระแสข่าวลือที่ มิคาเอล ชูมัคเกอร์ จะกลับมาจับพวงมาลัยรถเอฟวันชักจะกลายเป็นความจริงเสียแล้ว เมื่อสื่อดังของเยอรมนีอย่าง บิลด์ ไซตุง ออกมาคอนเฟิร์มเป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งหากไม่มีอะไรพลิกโผอีกครั้งล่ะก็ ปีหน้าใน F1 2010 คอความเร็วพันธุ์แท้จะได้เห็น "ชูมี" คืนแทร็กสมใจแน่นอน โดยอดีตแชมป์โลก 7 สมัยจะใกล้จะเซ็นสัญญา 1 ปี ร่วมทีมเมอร์เซเดส จีพี เต็มแก่ ซึ่งจะทำให้เขาได้ร่วมทีมกับนิโค รอสเบิร์ก นักซิ่งรุ่นน้องร่วมชาติ และที่สำคัญจะเป็นการร่วมงานของสองผู้ยิ่งใหญ่อย่างรอสส์ บรอว์น และชูมัคเกอร์ เป็นคำรบที่ 3
พูดถึงบรอว์น กับ ชูมี ทั้ง 2 คนนี้ถือเป็นคนคู่ของวงการเอฟวันอย่างแท้จริง เพราะหากย้อนไปในครั้งที่หนุ่มน้อยชูมี คว้าแชมป์โลกได้ในปี 1994 กับทีมเบเนตอง ก็เป็นการคว้าแชมป์โดยมี รอสส์ บรอว์น ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการด้านเทคนิคของทีม และเมื่อนักขับเยอรมัน ย้ายมาเฟอร์ารารี ก็ต้องมีการหนีบบรอว์นมาเป็นแพ็คคู่ จะร่วมกันสร้างตำนานแชมป์โลกได้อีก 5 สมัยติดต่อกัน จนกลายเป็นตำนานนักขับแห่งทีมม้าลำพอง
อย่างไรก็ดีจะเป็นครั้งแรกที่ชูมัคเกอร์ จะได้ขับเอฟวันภายใต้ขุมกำลังเครื่องยนต์จากค่ายรถบ้านเกิดอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นครั้งแรก เพราะนับจากเทิร์นโปรกับทีมจอร์แดน-ฟอร์ด จนมาคว้าแชมป์โลกครั้งแรกกับเบเนตอง-เรโนลต์ และสร้างยุคทองกับเฟอร์รารี เจ้าของตำแหน่งแชมป์กรังด์ปรีซ์ 91 ครั้ง ไม่เคยได้ใช้งานเครื่องยนต์เยอรมันแม้แต่ครั้งเดียว
งานนี้คนที่ได้เฮก็คือแฟนๆเอฟวันทั่วโลก ที่จะได้เห็นยอดนักขับตลอดกาลกลับมาสู่สนามอีกครั้ง หลังจากที่อารมณ์ค้างแบบสุดๆมากแล้ว ในการวืดคัมแบ็คแทนที่เฟลิเป มาสซา เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ประเด็นอื่นๆที่ตามมาก็มีมากมายเช่นกันครับ อาทิ การนำชื่อเสียงมาทิ้งหากผลงานกับเมอร์เซเดส จีพี หรือความกดดันที่จะต้องคว้าชัยชนะกรังด์ปรีซ์ให้ได้
โดยเฉพาะคำท้าทายจากแชมป์โลกคนล่าสุดอย่างเจนสัน บัตตัน ที่มองว่าคุณน้าวัย 41 ปี อาจจะถูกเด็กๆถอนหงอกในฤดูกาลหน้า ซึ่งจะว่าไปแล้วนักขับแฟนสวยคงจะลืมนึกถึงตัวเองว่า อาจจะถูกนักขับรุ่นน้องอย่างลูอิส แฮมิลตัน ลูบคมเช่นกันในทีมแม็คลาเรน
เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของการปักหลักทำข่าวเวียงจันทน์เกมส์ 2009 ขณะที่ผมนั่งปั่นต้นฉบับอยู่นี้เพิ่งจะซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ฝ่าความหนาวจากสนามกีฬาหลัก 16 หลังจากไปเกะติดกีฬาว่ายน้ำมาสดๆร้อนๆ ซึ่งผมมั่นใจว่าเหรียญทองของ "เจมส์ บอนด์" ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ ฉลามดาวรุ่งวัย 17 ปี จะเป็นทองเดียวของทัพว่ายน้ำไทยในเวียงจันทน์เกมส์ 2009 นึกแล้วก็อดใจหายไม่ได้ เพราะตั้งแต่จำความได้ ชื่อของศรสวรรค์ ภู่วิจิตร และ รัฐพงศ์ ศิริสานนท์ คือชื่อของจ้าวสระซีเกมส์ทั้งนั้น
การมาอยู่ที่ลาวทำให้ผมเองไม่ได้ติดตามข่าวสารในวงการมอเตอร์สปอร์ตมากนัก ซึ่งหลังจากกลับถึงโรงเเรมก็รีบเปิดอินเตอร์เนตเช็คข่าวในวงการมอเตอร์สปอร์ตโลกในทันที จนได้ทราบว่ากระแสข่าวลือที่ มิคาเอล ชูมัคเกอร์ จะกลับมาจับพวงมาลัยรถเอฟวันชักจะกลายเป็นความจริงเสียแล้ว เมื่อสื่อดังของเยอรมนีอย่าง บิลด์ ไซตุง ออกมาคอนเฟิร์มเป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งหากไม่มีอะไรพลิกโผอีกครั้งล่ะก็ ปีหน้าใน F1 2010 คอความเร็วพันธุ์แท้จะได้เห็น "ชูมี" คืนแทร็กสมใจแน่นอน โดยอดีตแชมป์โลก 7 สมัยจะใกล้จะเซ็นสัญญา 1 ปี ร่วมทีมเมอร์เซเดส จีพี เต็มแก่ ซึ่งจะทำให้เขาได้ร่วมทีมกับนิโค รอสเบิร์ก นักซิ่งรุ่นน้องร่วมชาติ และที่สำคัญจะเป็นการร่วมงานของสองผู้ยิ่งใหญ่อย่างรอสส์ บรอว์น และชูมัคเกอร์ เป็นคำรบที่ 3
พูดถึงบรอว์น กับ ชูมี ทั้ง 2 คนนี้ถือเป็นคนคู่ของวงการเอฟวันอย่างแท้จริง เพราะหากย้อนไปในครั้งที่หนุ่มน้อยชูมี คว้าแชมป์โลกได้ในปี 1994 กับทีมเบเนตอง ก็เป็นการคว้าแชมป์โดยมี รอสส์ บรอว์น ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการด้านเทคนิคของทีม และเมื่อนักขับเยอรมัน ย้ายมาเฟอร์ารารี ก็ต้องมีการหนีบบรอว์นมาเป็นแพ็คคู่ จะร่วมกันสร้างตำนานแชมป์โลกได้อีก 5 สมัยติดต่อกัน จนกลายเป็นตำนานนักขับแห่งทีมม้าลำพอง
อย่างไรก็ดีจะเป็นครั้งแรกที่ชูมัคเกอร์ จะได้ขับเอฟวันภายใต้ขุมกำลังเครื่องยนต์จากค่ายรถบ้านเกิดอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นครั้งแรก เพราะนับจากเทิร์นโปรกับทีมจอร์แดน-ฟอร์ด จนมาคว้าแชมป์โลกครั้งแรกกับเบเนตอง-เรโนลต์ และสร้างยุคทองกับเฟอร์รารี เจ้าของตำแหน่งแชมป์กรังด์ปรีซ์ 91 ครั้ง ไม่เคยได้ใช้งานเครื่องยนต์เยอรมันแม้แต่ครั้งเดียว
งานนี้คนที่ได้เฮก็คือแฟนๆเอฟวันทั่วโลก ที่จะได้เห็นยอดนักขับตลอดกาลกลับมาสู่สนามอีกครั้ง หลังจากที่อารมณ์ค้างแบบสุดๆมากแล้ว ในการวืดคัมแบ็คแทนที่เฟลิเป มาสซา เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ประเด็นอื่นๆที่ตามมาก็มีมากมายเช่นกันครับ อาทิ การนำชื่อเสียงมาทิ้งหากผลงานกับเมอร์เซเดส จีพี หรือความกดดันที่จะต้องคว้าชัยชนะกรังด์ปรีซ์ให้ได้
โดยเฉพาะคำท้าทายจากแชมป์โลกคนล่าสุดอย่างเจนสัน บัตตัน ที่มองว่าคุณน้าวัย 41 ปี อาจจะถูกเด็กๆถอนหงอกในฤดูกาลหน้า ซึ่งจะว่าไปแล้วนักขับแฟนสวยคงจะลืมนึกถึงตัวเองว่า อาจจะถูกนักขับรุ่นน้องอย่างลูอิส แฮมิลตัน ลูบคมเช่นกันในทีมแม็คลาเรน
