เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีม อาร์เซนอล เปิดเผยว่าการที่นักเตะปืนโตถูก อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส ระเบิดอารมณ์ใส่ระหว่างพักครึ่งเป็นตัวกระตุ้นจนช่วยกันพาทีมพลิกกลับมาเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
อาร์เซนอล เริ่มต้นไม่ดีในเกมที่สนามแอนฟิลด์จนตกเป็นฝ่ายตามหลัง ลิเวอร์พูล ก่อนจากลูกยิงของ เดิร์ก เคาท์ เมื่อจบครึ่งแรก แต่เกมครึ่งหลังเหมือนหนังคนละม้วน หลังได้ประตูตีเสมอแบบโชคช่วยจาก เกล็น จอห์นสัน ที่ทำเข้าประตูตัวเอง อังเดร อาร์ชาวิน ก็มาซัดประตูชัยนาที 58 ให้ "เดอะกันเนอร์ส" พลิกกลับมาเอาชนะไป 2-1
ด้าน เชส ฟาเบรกาส เปิดเผยหลังจบเกมถึงสาเหตุที่ทำให้เหล่านักเตะปืนโตคืนฟอร์มในครึ่งหลังว่าถูก อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมสับแหลกระหว่างอยู่ในห้องแต่งตัว "เจ้านายตะเบ็งเสียงใส่พวกเราด้วยความโกรธ ผมไม่เคยเห็นเขาเป็นเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกผิดหวังอย่างมากกับผลงานในครึ่งแรกจนบอกกับพวกเราว่าหากเล่นได้เพียงแค่นี้ก็ไม่สมควรสวมเสื้ออาร์เซนอล ซึ่งผมคิดว่าเขาพูดถูกและเราเล่นกันดีขึ้นในครึ่งหลัง"
ขณะที่ เวนเกอร์ ยอมรับมีอารมณ์โกรธระหว่างพักครึ่ง แต่ปฏิเสธบอกรายละเอียดที่เกิดขึ้นในห้องแต่งตัว "ผมไม่ต้องการพูดเรื่องนั้นและจะเก็บมันไว้ในห้องแต่งตัวต่อไป พวกเรารู้ดีว่าจำเป็นต้องชนะในเกมนี้ เมื่อคุณแพ้จังหวะ 50-50 คุณไม่มีทางชนะในเกมสำคัญแบบนี้ ผมคิดว่ามันทำให้นักเตะคิดได้ ลิเวอร์พูลเล่นกันได้ดีมาก มันน่าพอใจเสียด้วยซ้ำที่เราตามหลังเพียงลูกเดียวในครึ่งแรก เพราะเราเกือบต้องตามหลัง 2 ลูก หากเป็นเช่นนั้นเกมคงจบ"
"นักเตะไม่ได้ขาดความกระหายที่จะคว้าชัยชนะ แต่พวกเขากลัวความพ่ายแพ้ในเกมใหญ่อย่างที่คุณเห็นการเล่นของทีมในครึ่งแรก และมันได้แสดงให้เห็นการตอบสนองอันยอดเยี่ยมของนักเตะจนกลับมาทำผลงานดีในครึ่งหลัง เกมครึ่งแรกเป็นของลิเวอร์พูล ส่วนครึ่งหลังเป็นของอาร์เซนอล" กุนซือชาวฝรั่งเศสกล่าว