ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอมรับการทำเข้าประตูตัวเองของ เกล็น จอห์นสัน ฟูลแบ็กทีมชาติอังกฤษ เป็นจุดเปลี่ยนของเกมจนส่งผลให้ทีมถูก อาร์เซนอล พลิกกลับมาเอาชนะ 2-1 แต่กุนซือชาวสเปนยังมั่นใจ "หงส์แดง" จะสามารถทำผลงานช่วงที่เหลือจนจบฤดูกาลติดท้อปโฟร์ได้
ลิเวอร์พูล ประสบความพ่ายแพ้เป็นนัดที่ 6 ของฤดูกาล หลังถูก อาร์เซนอล บุกมาเอาชนะ 2-1 ทั้งที่ทีมเป็นฝ่ายนำก่อนในครึ่งแรกจาก เดิร์ก เคาท์ ดาวยิงชาวดัตช์ แต่ครึ่งหลัง เกล็น จอห์นสัน สกัดพลาดเข้าประตูตัวเองจนถูกตีเสมอ ก่อนที่ อังเดร อาร์ชาวิน กองหน้าชาวรัสเซียมาซัดประตูชัยให้ "ปืนโต" เก็บชัยชนะไป
โดยหลังจบเกม เบนิเตซ ออกมาเปิดเผยว่า "ช่วงครึ่งแรกเราเล่นกันได้ดีจริงๆ เรารู้สึกพอใจมากและคิดว่าจะดีขึ้นอีกในช่วงครึ่งหลัง แต่เกมเปลี่ยนไปซึ่งผมคิดว่าการทำเข้าประตูตัวเองทำให้ทุกอย่างเปลี่ยน มันทำลายความมั่นใจจนต่อมาเราทำความผิดพลาดหลายครั้ง และมาเสียประตูที่สองเร็วเกินไปด้วย พวกเขาเล่นด้วยความมั่นใจ ส่วนเรายิ่งเล่นความมั่นใจยิ่งน้อยลง"
กุนซือวัย 49 ปีกล่าวแสดงความไม่พอคำตัดสินของกรรมการที่ไม่ยอมเป่าให้ลูกจุดโทษแก่ทีมในนาที 12 จากจังหวะที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมถูก วิลเลียม กัลลาส กองหลังทีมเยือนปะทะล้มลงในเขตโทษ "ผมคิดว่าจังหวะนั้นเป็นจุดโทษ มันไม่สำคัญว่าลูกบอลจะอยู่กับตัวหรือไม่ หากคุณทำฟาวล์ใครก็ตามในเขตโทษ มันย่อมเป็นลูกจุดโทษ"
สำหรับเกมนัดต่อไป ลิเวอร์พูล เตรียมรับมือ วีแกน ในวันพุธนี้ ซึ่ง เบนิเตซ รู้ดีว่าทีมจำเป็นต้องเก็บชัยชนะให้ได้ "เรารู้ดีว่ามีเกมสำคัญรออยู่ในวันพุธ ดังนั้นต้องทำงานอย่างหนักต่อไปเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเกมหน้า"
ลิเวอร์พูล แพ้นัดนี้ทำให้มีคะแนนตามหลัง แอสตัน วิลลา ซึ่งรั้งอันดับ 4 ของตารางห่าง 5 แต้ม แต่กุนซือชาวสเปนมั่นใจทีมจะสามารถจบฤดูกาลใน 4 อันดับแรกและผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ลีกได้ "เป้าหมายของเรายังเหมือนเดิมคือการจบฤดูกาลใน 4 อันดับแรก ตราบใดที่ฤดูกาลยังไม่จบ เราต้องพยายามต่อไปและเก็บชัยชนะให้ได้มากที่สุด"
ลิเวอร์พูล ประสบความพ่ายแพ้เป็นนัดที่ 6 ของฤดูกาล หลังถูก อาร์เซนอล บุกมาเอาชนะ 2-1 ทั้งที่ทีมเป็นฝ่ายนำก่อนในครึ่งแรกจาก เดิร์ก เคาท์ ดาวยิงชาวดัตช์ แต่ครึ่งหลัง เกล็น จอห์นสัน สกัดพลาดเข้าประตูตัวเองจนถูกตีเสมอ ก่อนที่ อังเดร อาร์ชาวิน กองหน้าชาวรัสเซียมาซัดประตูชัยให้ "ปืนโต" เก็บชัยชนะไป
โดยหลังจบเกม เบนิเตซ ออกมาเปิดเผยว่า "ช่วงครึ่งแรกเราเล่นกันได้ดีจริงๆ เรารู้สึกพอใจมากและคิดว่าจะดีขึ้นอีกในช่วงครึ่งหลัง แต่เกมเปลี่ยนไปซึ่งผมคิดว่าการทำเข้าประตูตัวเองทำให้ทุกอย่างเปลี่ยน มันทำลายความมั่นใจจนต่อมาเราทำความผิดพลาดหลายครั้ง และมาเสียประตูที่สองเร็วเกินไปด้วย พวกเขาเล่นด้วยความมั่นใจ ส่วนเรายิ่งเล่นความมั่นใจยิ่งน้อยลง"
กุนซือวัย 49 ปีกล่าวแสดงความไม่พอคำตัดสินของกรรมการที่ไม่ยอมเป่าให้ลูกจุดโทษแก่ทีมในนาที 12 จากจังหวะที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมถูก วิลเลียม กัลลาส กองหลังทีมเยือนปะทะล้มลงในเขตโทษ "ผมคิดว่าจังหวะนั้นเป็นจุดโทษ มันไม่สำคัญว่าลูกบอลจะอยู่กับตัวหรือไม่ หากคุณทำฟาวล์ใครก็ตามในเขตโทษ มันย่อมเป็นลูกจุดโทษ"
สำหรับเกมนัดต่อไป ลิเวอร์พูล เตรียมรับมือ วีแกน ในวันพุธนี้ ซึ่ง เบนิเตซ รู้ดีว่าทีมจำเป็นต้องเก็บชัยชนะให้ได้ "เรารู้ดีว่ามีเกมสำคัญรออยู่ในวันพุธ ดังนั้นต้องทำงานอย่างหนักต่อไปเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเกมหน้า"
ลิเวอร์พูล แพ้นัดนี้ทำให้มีคะแนนตามหลัง แอสตัน วิลลา ซึ่งรั้งอันดับ 4 ของตารางห่าง 5 แต้ม แต่กุนซือชาวสเปนมั่นใจทีมจะสามารถจบฤดูกาลใน 4 อันดับแรกและผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ลีกได้ "เป้าหมายของเรายังเหมือนเดิมคือการจบฤดูกาลใน 4 อันดับแรก ตราบใดที่ฤดูกาลยังไม่จบ เราต้องพยายามต่อไปและเก็บชัยชนะให้ได้มากที่สุด"
