คาร์ลอส เตเบซ ซัดฟรีคิกเป็นประตูชัยช่วย แมนเชสเตอร์ ซิตี หยุดสถิติเสมอ 7 นัดรวด ด้วยการเปิดบ้านพลิกกลับมาเอาชนะ เชลซี ทีมจ่าฝูง 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้าย เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ธ.ค.
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี 2-1 เชลซี
แมนฯ ซิตี ของกุนซือ มาร์ก ฮิวจ์ส ได้ข่าวดีที่ ฌอน ไรท์-ฟิลิปส์ เรียกความฟิตกลับมาลงสนามได้ เพื่อมาทำเกมรุกร่วมกับ โรบินโญ และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ทางฝั่ง เชลซี ของ คาร์โล อันเชล็อตติ สภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์มี จอห์น เทอร์รี ประจำการแดนหลังเหมือนเดิม เช่นเดียว แฟรงค์ แลมพาร์ด คุมตรงกลาง ส่วนคู่หน้าเป็น ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ นิโกลาส์ อเนลกา
เริ่มครึ่งแรก แมนฯ ซิตี ทำเกมบุกได้อย่างน่ากลัว ถึงนาที 4 ก็ได้ฟรีคิกตรงมุมเขตโทษ เตเบซ ไหลบอลมาให้ เดอ ยอง วิ่งมาอัดด้วยขวาเต็มแรง บอลแฉลบผู้เล่นทีมเยือนออกหลังไป อีก 2 นาทีต่อมาเป็นโอกาสทองของ เชลซี เมื่อ แลมพาร์ด จ่ายบอลยัดมาหน้าเขตโทษ เดโก ตอกส้นกลับให้ ดร็อกบา หลุดเดี่ยวเข้าดวลกับ กิฟเวน แต่ถูกบล็อกออกไป
แต่เมื่อถึงนาที 8 "สิงห์บลูส์" ก็ทำประตูออกนำ 1-0 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ แลมพาร์ด เปิดบอลจากริมเส้นมาให้ ดร็อกบา โหม่งชงกลับเข้ากลาง อิวาโนวิช ซัดจังหวะแรกถูก กิฟเวน ป้องกัน บอลยังกระดอนมาเข้าทาง อเนลกา ตามซ้ำดาบสอง นายด่านชาวไอริชยังบล็อกได้อีก แต่โชคร้าย บอลมาถูกหลัง อเดบายอร์ เข้าประตูตัวเองไป
หลังเสียประตู "เรือใบ" โหมบุกหนักเพื่อทวงคืน นาที 12 ทีมได้ลูกเตะมุม แบร์รี โยนบอลเข้ากลาง ริชาร์ดส์ ขึ้นโหม่งบอลข้ามคานออกไป อีก 5 นาทีต่อมา ตูเร ตัดสินใจลากบอลจากกลางสนามจนได้ซัดหน้าเขตโทษทีมเยือน แต่ไม่ผ่านมือนายด่านเลือดเช็ก มาถึงนาที 19 คาร์วัลโญ สกัดบอลพลาดจน แบร์รี หลุดขึ้นมาถึงเส้นหลัง ก่อนตวัดกลับมาให้ อเดบายอร์ ซัดด้วยซ้าย แต่หลุดเสาแรกไป
แบร์รี ได้จังหวะสับไกยิงจากนอกเขตโทษในนาที 25 แต่บอลแฉลบ เอสเซียง หลุดกรอบออกไปเหมือนเดิม เจ้าบ้านบุกต่อเนื่องจนมาถึงนาที 35 เกือบตีเสมอได้จากจังหวะที่ ไรท์-ฟิลิปส์ เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวาเข้าไปในเขตโทษ เช็ก ออกมาตัดบอลพลาด จนถูก ริชาร์ดส์ โหม่ง บอลลอยเกือบจะเข้าประตู แต่ คาร์วัลโญ ตามมาโหม่งเคลียร์ทิ้งออกไปแบบหวุดหวิด
แต่ในที่สุดนาที 37 แมนฯ ซิตี มาตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จจากลูกเตะมุม เตเบซ โยนบอลเข้ามาลุ้นในกรอบเขตโทษ เช็ก ปัดบอลมาเข้าทาง ไรท์-ฟิลิปส์ จัดการซัดกลับเข้าไปตรงหน้าประตูอีก บอลแฉลบผู้เล่นบริเวณหน้าประตูก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะมาเข้าทาง อเดบายอร์ ตวัดยิงด้วยซ้ายเข้าไป
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกนาทีเดียว ทีมเยือนจากรุงลอนดอนมาได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะฟรีคิกตรงหน้ากรอบเขตโทษ ดร็อกบา รับหน้าที่ยิงด้วยการแปบอลหลุดสามเหลี่ยมออกไปนิดเดียว หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูอีก กรรมการเป่านกหวีดยาวจบ 45 นาทีแรก
เกมครึ่งหลัง "เรือใบ" ยังเป็นฝ่ายที่บุกเข้าใส่มากกว่า นาที 53 ไรท์-ฟิลิปส์ กระชากบอลหนี โคล จนหลุดมาถึงเส้นหลัง ก่อนจ่ายบอลย้อนกลับมาให้ อเดบายอร์ ยิงตามน้ำในเขตโทษบอลแฉลบผู้เล่นทีมเยือนเกือบเข้าประตู แต่ถูก อิวาโนวิช เตะเคลียร์ทิ้งออกมาจากเส้น
อีก 2 นาทีต่อมา คาร์วัลโญ ยกเท้าสูงใส่ เตเบซ จนเสียฟาวล์ตรงหน้าเขตโทษตัวเอง และดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ลุกขึ้นมาสังหารฟรีคิกจัดการซัดบอลทะลุกำแพงเข้าประตูไปหมดสิทธิ์ที่ เช็ก จะป้องกันทันส่งผลให้ แมนฯ ซิตี เป็นฝ่ายพลิกนำ 2-1
เชลซี หันมาบุกกดดันเจ้าถิ่นมากขึ้น เมื่อเกมผ่านหนึ่งชั่วโมงมาได้ลุ้นประตูจากจังหวะที่ แลมพาร์ด เปิดพรีคิกจากบริเวณกลางสนามเข้าไปในเขตโทษ กิฟเวน ไม่ออกมาตัดบอลทำให้ถูก ดร็อกบา ขึ้นโหม่งคนเดียวทางเสาไกล แต่บอลไม่ตรงกรอบประตู จากนั้นอีก 5 นาที เดโก เปิดลูกเตะมุมมาเข้าหัว อิวาโนวิช ขึ้นโขกเสาแรกข้ามคานไปอีก
ทีมเยือนพลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดายในนาที 82 เมื่อมาได้ลูกจุดโทษ จากการที่ ดร็อกบา ถูก เนดุม โอนูโอฮา ตัวสำรองของเจ้าถิ่นเตะล้มลงในเขตโทษ แต่ แลมพาร์ด กลับสังหารจุดโทษไม่ผ่านมือ กิฟเวน จากนั้น "สิงห์บลูส์" มีลุ้นอีกครั้งเมื่อ เอสเซียล แทงบอลให้ ดร็อกบา หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่กลับซัดหลุดเสาออกไปเอง สุดท้ายจ่าฝูงไม่สามารถทวงประตูคืนได้จบ 90 นาทีจึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี : เชย์ กิฟเวน, โจเลียน เลสคอตต์, โคโล ตูเร, เวย์น บริดจ์, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, แกเร็ธ แบร์รี, ไนเจล เดอ ยอง, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, คาร์ลอส เตเบซ, โรบินโญ, ฌอน ไรท์-ฟิลิปส์
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, ไมเคิล เอสเซียง, แอชลีย์ โคล, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, เดโก, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล บัลลัก, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, นิโกลาส์ อเนลกา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ปอร์ทสมัธ ชนะ เบิร์นลีย์ 2-0
[1-0 : เฮอร์มันน์ ไฮร์ดาร์สสัน น.65], [2-0 : อารูนา ดินดาน น.84]
อาร์เซนอล ชนะ สโต๊ค ซิตี 2-0
[1-0 : อังเดร อาร์ชาวิน น.26], [2-0 : อารอน แรมซีย์ น.79]
แอสตัน วิลลา ชนะ ฮัลล์ ซิตี 3-0
[1-0 : ริชาร์ด ดันน์ น.13], [2-0 : เจมส์ มิลเนอร์ น.29], [3-0 : ยอห์น คาริว ลูกจุดโทษ น.88]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
เวสต์แฮม แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-4
[0-1 : พอล สโคลส์ น.45], [0-2 : พอล สโคลส์ น.61], [0-3 : อันโตนิโอ วาเลนเซีย น.70], [0-4 : เวย์น รูนีย์ น.72]
วีแกน แพ้ เบอร์มิงแฮม 2-3
[1-0 : ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย น.33], [1-1 : เซบาสเตียน ลาร์สสัน น.61], [1-2 : คริสเตียน เบนิเตซ น.66], [1-3 : เซบาสเตียน ลาร์สสัน น.72], [2-3 : ยอร์ดี โกเมซ น.89]
วูล์ฟแฮมป์ตัน ชนะ โบลตัน 2-1
[1-0 : โจดีย์ แครดด็อก น.3], [2-0 : เนนัด มิลิยาส น.63], [2-1 : โยฮัน เอลมานเดอร์ น.79]
แมนฯ ซิตี ชนะ เชลซี 2-1
[0-1 : เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ทำเข้าประตูตัวเอง น.8], [1-1 : เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ น.37], [2-1 : คาร์ลอส เตเบซ น.56]
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี 2-1 เชลซี
แมนฯ ซิตี ของกุนซือ มาร์ก ฮิวจ์ส ได้ข่าวดีที่ ฌอน ไรท์-ฟิลิปส์ เรียกความฟิตกลับมาลงสนามได้ เพื่อมาทำเกมรุกร่วมกับ โรบินโญ และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ทางฝั่ง เชลซี ของ คาร์โล อันเชล็อตติ สภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์มี จอห์น เทอร์รี ประจำการแดนหลังเหมือนเดิม เช่นเดียว แฟรงค์ แลมพาร์ด คุมตรงกลาง ส่วนคู่หน้าเป็น ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ นิโกลาส์ อเนลกา
เริ่มครึ่งแรก แมนฯ ซิตี ทำเกมบุกได้อย่างน่ากลัว ถึงนาที 4 ก็ได้ฟรีคิกตรงมุมเขตโทษ เตเบซ ไหลบอลมาให้ เดอ ยอง วิ่งมาอัดด้วยขวาเต็มแรง บอลแฉลบผู้เล่นทีมเยือนออกหลังไป อีก 2 นาทีต่อมาเป็นโอกาสทองของ เชลซี เมื่อ แลมพาร์ด จ่ายบอลยัดมาหน้าเขตโทษ เดโก ตอกส้นกลับให้ ดร็อกบา หลุดเดี่ยวเข้าดวลกับ กิฟเวน แต่ถูกบล็อกออกไป
แต่เมื่อถึงนาที 8 "สิงห์บลูส์" ก็ทำประตูออกนำ 1-0 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ แลมพาร์ด เปิดบอลจากริมเส้นมาให้ ดร็อกบา โหม่งชงกลับเข้ากลาง อิวาโนวิช ซัดจังหวะแรกถูก กิฟเวน ป้องกัน บอลยังกระดอนมาเข้าทาง อเนลกา ตามซ้ำดาบสอง นายด่านชาวไอริชยังบล็อกได้อีก แต่โชคร้าย บอลมาถูกหลัง อเดบายอร์ เข้าประตูตัวเองไป
หลังเสียประตู "เรือใบ" โหมบุกหนักเพื่อทวงคืน นาที 12 ทีมได้ลูกเตะมุม แบร์รี โยนบอลเข้ากลาง ริชาร์ดส์ ขึ้นโหม่งบอลข้ามคานออกไป อีก 5 นาทีต่อมา ตูเร ตัดสินใจลากบอลจากกลางสนามจนได้ซัดหน้าเขตโทษทีมเยือน แต่ไม่ผ่านมือนายด่านเลือดเช็ก มาถึงนาที 19 คาร์วัลโญ สกัดบอลพลาดจน แบร์รี หลุดขึ้นมาถึงเส้นหลัง ก่อนตวัดกลับมาให้ อเดบายอร์ ซัดด้วยซ้าย แต่หลุดเสาแรกไป
แบร์รี ได้จังหวะสับไกยิงจากนอกเขตโทษในนาที 25 แต่บอลแฉลบ เอสเซียง หลุดกรอบออกไปเหมือนเดิม เจ้าบ้านบุกต่อเนื่องจนมาถึงนาที 35 เกือบตีเสมอได้จากจังหวะที่ ไรท์-ฟิลิปส์ เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวาเข้าไปในเขตโทษ เช็ก ออกมาตัดบอลพลาด จนถูก ริชาร์ดส์ โหม่ง บอลลอยเกือบจะเข้าประตู แต่ คาร์วัลโญ ตามมาโหม่งเคลียร์ทิ้งออกไปแบบหวุดหวิด
แต่ในที่สุดนาที 37 แมนฯ ซิตี มาตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จจากลูกเตะมุม เตเบซ โยนบอลเข้ามาลุ้นในกรอบเขตโทษ เช็ก ปัดบอลมาเข้าทาง ไรท์-ฟิลิปส์ จัดการซัดกลับเข้าไปตรงหน้าประตูอีก บอลแฉลบผู้เล่นบริเวณหน้าประตูก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะมาเข้าทาง อเดบายอร์ ตวัดยิงด้วยซ้ายเข้าไป
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกนาทีเดียว ทีมเยือนจากรุงลอนดอนมาได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะฟรีคิกตรงหน้ากรอบเขตโทษ ดร็อกบา รับหน้าที่ยิงด้วยการแปบอลหลุดสามเหลี่ยมออกไปนิดเดียว หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูอีก กรรมการเป่านกหวีดยาวจบ 45 นาทีแรก
เกมครึ่งหลัง "เรือใบ" ยังเป็นฝ่ายที่บุกเข้าใส่มากกว่า นาที 53 ไรท์-ฟิลิปส์ กระชากบอลหนี โคล จนหลุดมาถึงเส้นหลัง ก่อนจ่ายบอลย้อนกลับมาให้ อเดบายอร์ ยิงตามน้ำในเขตโทษบอลแฉลบผู้เล่นทีมเยือนเกือบเข้าประตู แต่ถูก อิวาโนวิช เตะเคลียร์ทิ้งออกมาจากเส้น
อีก 2 นาทีต่อมา คาร์วัลโญ ยกเท้าสูงใส่ เตเบซ จนเสียฟาวล์ตรงหน้าเขตโทษตัวเอง และดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ลุกขึ้นมาสังหารฟรีคิกจัดการซัดบอลทะลุกำแพงเข้าประตูไปหมดสิทธิ์ที่ เช็ก จะป้องกันทันส่งผลให้ แมนฯ ซิตี เป็นฝ่ายพลิกนำ 2-1
เชลซี หันมาบุกกดดันเจ้าถิ่นมากขึ้น เมื่อเกมผ่านหนึ่งชั่วโมงมาได้ลุ้นประตูจากจังหวะที่ แลมพาร์ด เปิดพรีคิกจากบริเวณกลางสนามเข้าไปในเขตโทษ กิฟเวน ไม่ออกมาตัดบอลทำให้ถูก ดร็อกบา ขึ้นโหม่งคนเดียวทางเสาไกล แต่บอลไม่ตรงกรอบประตู จากนั้นอีก 5 นาที เดโก เปิดลูกเตะมุมมาเข้าหัว อิวาโนวิช ขึ้นโขกเสาแรกข้ามคานไปอีก
ทีมเยือนพลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดายในนาที 82 เมื่อมาได้ลูกจุดโทษ จากการที่ ดร็อกบา ถูก เนดุม โอนูโอฮา ตัวสำรองของเจ้าถิ่นเตะล้มลงในเขตโทษ แต่ แลมพาร์ด กลับสังหารจุดโทษไม่ผ่านมือ กิฟเวน จากนั้น "สิงห์บลูส์" มีลุ้นอีกครั้งเมื่อ เอสเซียล แทงบอลให้ ดร็อกบา หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่กลับซัดหลุดเสาออกไปเอง สุดท้ายจ่าฝูงไม่สามารถทวงประตูคืนได้จบ 90 นาทีจึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี : เชย์ กิฟเวน, โจเลียน เลสคอตต์, โคโล ตูเร, เวย์น บริดจ์, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, แกเร็ธ แบร์รี, ไนเจล เดอ ยอง, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, คาร์ลอส เตเบซ, โรบินโญ, ฌอน ไรท์-ฟิลิปส์
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, ไมเคิล เอสเซียง, แอชลีย์ โคล, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, เดโก, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล บัลลัก, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, นิโกลาส์ อเนลกา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ปอร์ทสมัธ ชนะ เบิร์นลีย์ 2-0
[1-0 : เฮอร์มันน์ ไฮร์ดาร์สสัน น.65], [2-0 : อารูนา ดินดาน น.84]
อาร์เซนอล ชนะ สโต๊ค ซิตี 2-0
[1-0 : อังเดร อาร์ชาวิน น.26], [2-0 : อารอน แรมซีย์ น.79]
แอสตัน วิลลา ชนะ ฮัลล์ ซิตี 3-0
[1-0 : ริชาร์ด ดันน์ น.13], [2-0 : เจมส์ มิลเนอร์ น.29], [3-0 : ยอห์น คาริว ลูกจุดโทษ น.88]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
เวสต์แฮม แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-4
[0-1 : พอล สโคลส์ น.45], [0-2 : พอล สโคลส์ น.61], [0-3 : อันโตนิโอ วาเลนเซีย น.70], [0-4 : เวย์น รูนีย์ น.72]
วีแกน แพ้ เบอร์มิงแฮม 2-3
[1-0 : ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย น.33], [1-1 : เซบาสเตียน ลาร์สสัน น.61], [1-2 : คริสเตียน เบนิเตซ น.66], [1-3 : เซบาสเตียน ลาร์สสัน น.72], [2-3 : ยอร์ดี โกเมซ น.89]
วูล์ฟแฮมป์ตัน ชนะ โบลตัน 2-1
[1-0 : โจดีย์ แครดด็อก น.3], [2-0 : เนนัด มิลิยาส น.63], [2-1 : โยฮัน เอลมานเดอร์ น.79]
แมนฯ ซิตี ชนะ เชลซี 2-1
[0-1 : เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ทำเข้าประตูตัวเอง น.8], [1-1 : เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ น.37], [2-1 : คาร์ลอส เตเบซ น.56]