คอลัมน์ "The Golf Touch" โดย "วันปีย์ สัจจมาร์ค"
สัปดาห์ที่แล้วได้เขียนถึงผลกระทบต่อนักกอล์ฟมืออาชีพที่จะต้องเปลี่ยนชุดเหล็กกันในปีหน้า หลายๆคนอาจจะพูดกันให้เข้าใจง่ายๆว่า เปลี่ยนจาก ยู กรูฟ มาเป็น วี กรูฟ แต่ถ้าเอากันตามจริงแล้ว USGA ไม่ได้ระบุว่าต้องเป็น วี กรูฟ เพียงแค่กำหนดว่า ร่องเหล็กต้องเล็กลง และขอบของร่องต้องมีความมนมากกว่าเดิม และมีผลบังคับใช้กับไม้ที่มีองศามากกว่าหรือเท่ากับ 25 องศาเท่านั้น
ส่วนนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ไม่เข้าร่วมการแข่งขันรายการต่างๆ แทบไม่มีผลเลย เพราะการบังคับใช้ของคนกลุ่มนี้ยังต้องรอดูการประเมินผลในช่วงปี 2020 ถึง 2024 ก่อนด้วย เค้ากำหนดไว้ว่าจะไม่ประเมินก่อนปี 2020 และหลังจากที่มีคำตัดสินสุดท้ายออกมาแล้ว จะให้มีช่วงเวลาในการปรับตัวอีก 4 ปี ดังนั้น 2024 จึงเป็นช่วงเวลาที่เร็วที่สุดถ้ายังบังคับใช้มาตรการนี้อยู่ อาจจะไม่บังคับเลยด้วยซ้ำไป
หลายคนอาจคาดการณ์ล่วงหน้าว่าจะตุนซื้อเหล็กหรือเวดจ์ ยู กรูฟ เอาไว้ก่อน ก็เป็นแนวคิดที่ผู้ประกอบการไม้กอล์ฟคงจะยิ้มและรักคุณเป็นพิเศษ แต่ถ้าถามผม อะไรก็ตามที่ตลาดต้องการ คงจะมีขายเสมอ แม้จะผิดกฎหรือผิดระเบียบก็ตาม ดูทุกวันนี้ซิครับ มีตั้งหลายอย่างที่ผิด แต่ถ้าจะซื้อนักกอล์ฟก็หาซื้อได้ทั่วไปไม่ยาก
พัฒนาการของอุปกรณ์ทำให้นักกอล์ฟตีได้ไกลขึ้นและ สปินลูกได้มากขึ้น ซึ่งเป็นที่พอใจของนักกอล์ฟส่วนมากรวมทั้งโปรด้วย แต่ในมือของผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ กอล์ฟเริ่มดูง่ายเกินไปแล้ว มาตรการในการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆจึงตามมา อีกไม่นานคงจะมีประเด็นเรื่องคุมลูกกอล์ฟตามมาแน่ๆ เพราะว่าจริงๆแล้วเรื่องลูกกอล์ฟมีผลมากกว่าเรื่องไม้ด้วยซ้ำไป แต่ผู้ใหญ่กับผู้ลงทุนยังเกรงใจเรื่องนี้อยู่
สุดท้ายแล้วคงหนีไม่พ้นต้องมี 2 มาตรฐานคือ อุปกรณ์ที่ใช้เพื่อแข่งขัน จะต้องแตกต่างกับอุปกรณ์ของนักกอล์ฟทั่วๆไปอย่างแน่นอน หนีไม่พ้นบทสรุปนี้หรอกครับ เพียงแค่เมื่อไหร่เท่านั้นเอง
สัปดาห์ที่แล้วได้เขียนถึงผลกระทบต่อนักกอล์ฟมืออาชีพที่จะต้องเปลี่ยนชุดเหล็กกันในปีหน้า หลายๆคนอาจจะพูดกันให้เข้าใจง่ายๆว่า เปลี่ยนจาก ยู กรูฟ มาเป็น วี กรูฟ แต่ถ้าเอากันตามจริงแล้ว USGA ไม่ได้ระบุว่าต้องเป็น วี กรูฟ เพียงแค่กำหนดว่า ร่องเหล็กต้องเล็กลง และขอบของร่องต้องมีความมนมากกว่าเดิม และมีผลบังคับใช้กับไม้ที่มีองศามากกว่าหรือเท่ากับ 25 องศาเท่านั้น
ส่วนนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ไม่เข้าร่วมการแข่งขันรายการต่างๆ แทบไม่มีผลเลย เพราะการบังคับใช้ของคนกลุ่มนี้ยังต้องรอดูการประเมินผลในช่วงปี 2020 ถึง 2024 ก่อนด้วย เค้ากำหนดไว้ว่าจะไม่ประเมินก่อนปี 2020 และหลังจากที่มีคำตัดสินสุดท้ายออกมาแล้ว จะให้มีช่วงเวลาในการปรับตัวอีก 4 ปี ดังนั้น 2024 จึงเป็นช่วงเวลาที่เร็วที่สุดถ้ายังบังคับใช้มาตรการนี้อยู่ อาจจะไม่บังคับเลยด้วยซ้ำไป
หลายคนอาจคาดการณ์ล่วงหน้าว่าจะตุนซื้อเหล็กหรือเวดจ์ ยู กรูฟ เอาไว้ก่อน ก็เป็นแนวคิดที่ผู้ประกอบการไม้กอล์ฟคงจะยิ้มและรักคุณเป็นพิเศษ แต่ถ้าถามผม อะไรก็ตามที่ตลาดต้องการ คงจะมีขายเสมอ แม้จะผิดกฎหรือผิดระเบียบก็ตาม ดูทุกวันนี้ซิครับ มีตั้งหลายอย่างที่ผิด แต่ถ้าจะซื้อนักกอล์ฟก็หาซื้อได้ทั่วไปไม่ยาก
พัฒนาการของอุปกรณ์ทำให้นักกอล์ฟตีได้ไกลขึ้นและ สปินลูกได้มากขึ้น ซึ่งเป็นที่พอใจของนักกอล์ฟส่วนมากรวมทั้งโปรด้วย แต่ในมือของผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ กอล์ฟเริ่มดูง่ายเกินไปแล้ว มาตรการในการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆจึงตามมา อีกไม่นานคงจะมีประเด็นเรื่องคุมลูกกอล์ฟตามมาแน่ๆ เพราะว่าจริงๆแล้วเรื่องลูกกอล์ฟมีผลมากกว่าเรื่องไม้ด้วยซ้ำไป แต่ผู้ใหญ่กับผู้ลงทุนยังเกรงใจเรื่องนี้อยู่
สุดท้ายแล้วคงหนีไม่พ้นต้องมี 2 มาตรฐานคือ อุปกรณ์ที่ใช้เพื่อแข่งขัน จะต้องแตกต่างกับอุปกรณ์ของนักกอล์ฟทั่วๆไปอย่างแน่นอน หนีไม่พ้นบทสรุปนี้หรอกครับ เพียงแค่เมื่อไหร่เท่านั้นเอง