"ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ปอร์ทสมัธ 1-0 จากการพังประตูของ ริคาร์โด ฟูลเลอร์ ในครึ่งเวลาหลัง พร้อมทั้งขยับจากที่ 10 ขึ้นมาอยู่ที่ 9 บนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน 2552
สโต๊ค ซิตี้ 1 - 0 ปอร์ทสมัธ
คู่ที่สุดท้ายของค่ำคืนวันอาทิตย์ สโต๊ค ซิตี้ อันดับ 10 เฝ้ารัง บริทานเนีย รับมือ ปอร์ทสมัธ อันดับบ๊วย เกมนี้เจ้าถิ่นวาง ริคาร์โด ฟูลเลอร์ ลงล่าตาข่ายคู่กับ เจมส์ บีทตี้ พร้อมทั้งส่ง รอรีย์ ดีแลป เป็นตัวป้อนบอลและทุ่มไกลเช่นเคย ส่วนทีมเยือนมาด้วยระบบ 4-4-2 เช่นกันโดยให้อารูนา ดินดาน และเอ็นวานโก คานู เป็นหัวหอกคู่กัน
สิ้นเสียงนกหวีดแรก เกมผ่านไปเพียง 6 นาที เป็น"ปอมปีย์" มีโอกาสขึ้นนำก่อนจากลูกจุดโทษ จังหวะที่ ดีแลป ไปยกเท้าสูงใส่ ดินดาน ผู้ตัดสินไม่ลังเลที่จะเป่าลูกจุดโทษ แต่เป็น เควิน-ปรินซ์ บัวเต็ง ที่รับหน้าที่ยิงลูกจุดโทษ แปบอลเบาเกินไป ซึ่งไม่เกินความสามารถที่ โซเรนเซน จะพุ่งไปทางซ้ายยมือของตัวเองเอาไว้ได้ สโต๊ค รอดเสียประตูไปอย่างหวุดหวิด ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมจะผลัดกันรุกและรับกันอย่างสูสี แต่จังหวะสุดท้ายของทั้งสองทีมยังไม่คมพอ ก่อนจะหมดครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์ 0-0
เข้าสู่ครึ่งเวลาหลังเพียง 6 นาที เจมี โอฮารา มีโอกาสส่องไกลระยะ 30 หลา แต่เป็น โซเรนเซ่น ที่วันนี้เล่นดีเป็นพิเศษพุ่งปัดออกไปได้ทัน ก่อนที่ 2 นาทีถัดมา เจ้าบ้านจะมีโอกาสพังประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ฮูธ เทคตัวขึ้นโหม่งจากลูกเตะมุม แต่บอลเหินข้ามคานออกไปไกล นาทีที่ 64 ปอร์ทสมัธ มีโอกาสใกล้เคียงอีกครั้ง จากจังหวะที่ ดินดาน หอกชาวไอวอรีโคสต์ ซัดบอลจากบริเวณกรอบเขตโทษ แต่บอลออกนอกกรอบออกไปเช่นกัน
เกมเข้าสู่ 15 นาทีสุดท้าย เป็นเจ้าถิ่นที่ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ ริคาร์โด ฟูลเลอร์ ได้บอลจากบริเวณหน้ากรอบเขตโทษก่อนจะจับและยิงด้วยขวาส่งบอลพุ่งเข้าสู่ก้นตาข่ายอย่างงดงาม โดยเป็นลูกแรกในลีกของเจ้าตัวด้วยช่วงเวลาที่เหลือ ปอร์ทสมัธ พยายามบุกหนัก โดยมีโอกาสที่ใกล้เคียงมากที่สุดจากจังหวะที่ ยูเนส กาบูล กดฟรีคิกเรียด แต่น่าเสียดายที่บอลพุ่งไปตรงตัว โซเรนเซน ก่อนจบเกมโดยที่ สโต๊ค ซิตี้ เป็นฝ่ายเอาชนะปอร์ทสมัธ ไปได้ 1-0 เก็บ 3 คะแนน มี 19 แต้ม ขึ้นมาจากอันดับที่ 9 ของตาราง
รายชื่อ 11 ผู้เล่นของทั้งสองทีม
สโต๊ค ซิตี้ : โธมัส โซเรนเซน, โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, แดนนี่ คอลลินส์, แอนดี วิลกินสัน, ดีน ไวท์เฮด, ซาลิฟ ดิเยา, แม็ทธิว เอเธอริงตัน, รอรีย์ ดีแลป, ริคาร์โด ฟูลเลอร์, เจมส์ บีทตี้
ปอร์ทสมัธ : เจมี แอชดาวน์, มาร์ค วิลสัน, ยูเนส กาบูล, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน, ทาล เบน-ฮาอิม, เจมี โอฮารา, ไมเคิล บราวน์, เควิน-ปรินซ์ บัวเต็ง, เฮย์เดน มัลลินส์, อารูนา ดินดาน, เอ็นวานโก คานู
