ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือทีมชาติไทย เปิดเผยหลังพ่ายต่อ สิงคโปร์ 0-1 ด้วยความไม่พอใจเกมรับของลูกทีมที่ประกบตัวพลาดในจังหวะลูกเตะมุมที่เสียประตู ทั้งที่มีการเน้นย้ำและฝึกซ้อมกันมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม “กัปตันมาร์เวล” ยังมั่นใจว่า “ช้างศึก” จะสามารถทำผลงานได้ดีในเกมที่เหลือจนผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลเอเชียนคัพ 2011 ที่ประเทศกาตาร์ได้
หลังจากช่วงหัวค่ำของวันพุธที่ 18 พ.ย.ทีมชาติไทย เปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน พลาดท่าพ่ายต่อ สิงคโปร์ 0-1 ในศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ 2011 รอบคัดเลือก โดยเสียประตูในจังหวะเตะมุมนาที 37 จากการโหม่งของ อเล็กซานเดอร์ ดูริช กองหน้าร่างยักษ์ของทีมเยือน
หลังจบเกม ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือทีมชาติไทย กล่าวด้วยความไม่พอใจเกมรับของลูกทีม “นักเตะทุกคนต่างรู้ดีว่าสิงคโปร์มีทีเด็ดในลูกตั้งเตะ เรามีการพูดคุยกันเพื่อให้ระวังในจุดนี้และฝึกซ้อมเพื่อเตรียมรับมือมาโดยตลอด ประตูที่เสียไปเกิดจากการที่เราประกบตัวกันผิดพลาด ผมรู้สึกผิดหวัง มิเช่นนั้นเกมน่าจะจบลงด้วยผลเสมอ 0-0”
อย่างไรก็ตาม อดีตตำนานนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ มองว่า ผู้เล่นของทัพช้างศึกที่ทำหน้าที่ได้โดดเด่นที่สุดในแมตช์นี้ยังคงเป็นนักเตะในแนวรับอย่าง ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ โดยให้เหตุผลว่า “เขาเล่นได้อย่างแข็งแกร่งและมีความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มที่ตลอด 90 นาที ซึ่งช่วยเกมรับของเราได้หลายครั้ง”
ความพ่ายแพ้ส่งผลให้ทีมชาติไทยลงสนาม 4 นัด มี 5 คะแนนเท่าเดิม หล่นมารั้งอันดับ 3 ของตารางกลุ่มอีและเหลือเกมให้ลงสนามอีก 2 นัดกับ จอร์แดน (เหย้า 6 ม.ค.53) และ อิหร่าน (เยือน 3 มี.ค.53) อย่างไรก็ตาม “กัปตันมาร์เวล” ยังมองในแง่ดีว่าทีมยังมีโอกาสผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ได้ “ผมคิดว่านักเตะที่เรามีอยู่จะสามารถทำผลงานที่ดีได้ เรายังคงมีโอกาสในการผ่านเข้ารอบต่อไป เพราะหากมีคะแนนเท่ากันจนถึงนัดสุดท้าย เราก็ยังได้เปรียบเรื่องผลงานเฮด-ทู-เฮด รวมทั้งผลต่างประตูได้-เสีย”
ขณะที่ ราดอจโก อัฟราโมวิช กุนซือทีมสิงคโปร์ เปิดเผยหลังจบเกมว่า “ผมบอกลูกทีมก่อนเกม และก่อนจะเดินทางมาว่าหลังจากทำผลงานแย่ (จากการแพ้ไทย 1-3) พวกคุณจะต้องแก้ตัวใหม่ การแข่งขันรายการนี้ยังคงเปิดกว้างอยู่และหากเราเก็บชัยชนะได้ก็จะทำให้มีโอกาสมากขึ้นในการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย”
นอกจากนี้ เฮดโค้ชลอดช่อง ยังกล่าวถึงกลเม็ดในการรับมือเกมรุกของเจ้าถิ่น ว่า “สำหรับเกมนี้เราเล่นด้วยการวางกองหลังตัวพิเศษไว้คนหนึ่ง ดังนั้นทีมไทยจึงไม่มีโอกาสพาบอลเข้าไปในเขตโทษของเราได้มากนัก”
หลังจบการแถลงข่าว “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย ผู้จัดการทีมลูกหนังไทยชุดใหญ่ ประกาศว่ายังคงมีเงินอัดฉีดให้กับขุนพลนักเตะจำนวน 500,000 บาท แม้ว่าจะปราชัยในเกมนี้ก็ตาม “ผมตั้งงบอัดฉีดเอาไว้ 1 ล้านบาท สำหรับการคว้าชัยชนะทั้งสองนัด ถึงวันนี้เราจะแพ้แต่ก็ถือว่ายังชนะมาในนัดก่อนเท่ากับงานสำเร็จไปครึ่งหนึ่ง ดังนั้น ผู้เล่นจึงได้รับเงินครึ่งหนึ่งของก้อนนี้ ซึ่งผมคิดว่าเราควรให้การสนับสนุนนักกีฬา ไม่ว่าจะชนะ เสมอ หรือแพ้ ส่วนนัดหน้าผมหวังว่าเราจะเอาชนะ จอร์แดน ได้”
ท้ายสุด วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแหjงประเทศไทยที่ไปร่วมชมเกมด้วยออกมาแสดงความคิดเห็นว่า “ทุกคนเล่นเต็มที่ แต่การเชื่อมเกมระหว่างกองกลางและกองหน้ายังไม่ไหลลื่นนัก จังหวะสุดท้ายจึงขาดๆ เกินๆ ซึ่งความพ่ายแพ้ในนัดนี้เชื่อว่า ร็อบสัน ได้เห็นจุดด้อยต่างๆ ที่ต้องเร่งแก้ไขต่อไป แต่ผมคิดว่าไทยยังมีโอกาสเข้ารอบสุดท้ายอยู่”
สำหรับกรณีที่มีแฟนบอลทำป้ายไล่ “บิ๊กยี” ในเกมนัดแรกที่แดนลอดช่องนั้น ก็อยากจะทำความเข้าใจกับแฟนบอลกลุ่มดังกล่าวว่ามีสาเหตุมาจากอะไร “ผมไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอะไร แค่อยากจะทำความเข้าใจ และหากมีเรื่องให้ปรับปรุงผมก็ยินดีนำไปพิจารณา”