"สาววี" รับโล่งเหมือนปลดล็อกหลังคว้าแชมป์แรก

มิเชล วี สาวน้อยหน้าใสชาวอเมริกัน ผงาดแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ เป็นรายการแรกของชีวิต เมื่อหวดเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ เฉือนเอาชนะ โปรมืออันดับ 6 ของโลกอย่าง พอลลา เครเมอร์ ไป 2 สโตรก ในการแข่งขันกอล์ฟรายการ ลอเรนา โอชัว อินวิเตชันแนล รอบสุดท้าย

กอล์ฟแอลพีจีเอทัวร์ รายการ ลอเรนา โอชัว อินวิเตชันแนล ชิงเงินรางวัลรวม 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 38.5 ล้านบาท) ที่สนามกวาดาลาฮารา คันทรี คลับ ระยะ 6,638 หลา พาร์ 72 ในเมืองกวาดาลาฮารา ประเทศเม็กซิโก เมื่อคืนวันอาทิตย์ เป็นการดวลวงสวิงกันในวันสุดท้าย

ปรากฏว่า มิเชล วี โปรสาวชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีใต้ ที่นำร่วมในรอบที่ผ่านมา ออกสตาร์ทเก้าหลุมแรกเก็บไป 3 เบอร์ดี และออก1 โบกี ก่อนที่เก้าหลุมหลังจะสวิงเพิ่มได้อีก 2 เบอร์ดี และเสียอีก 1 โบกี จบวันทำเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 4 วัน 13 อันเดอร์พาร์ เอาชนะ พอลลา เครเมอร์ เพื่อนร่วมชาติไป 2 สโตรก ผงาดคว้าแชมป์แอลพีจีเอรายการแรกได้สำเร็จ นับตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อปี 2005

โดย "สาวน้อยมหัศจรรย์"ให้สัมภาษณ์ หลังคว้าแชมป์เป็นรายการแรกของตัวเองว่า "การได้แชมป์ครั้งแรก มันเป็นอะไรที่บอกไม่ถูกเลยจริงๆ ซึ่งเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยก็ว่าได้ และฉันคิดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีให้ฉันคว้าแชมป์รายการอื่นๆต่อไปข้างหน้าได้ ปีนี้ถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับฉัน อย่างไรก็ตามยังมีข้อบกพร่องที่ยังต้องแก้ไขในการเล่นอีกมาก"

ด้าน"พิงแพนเทอร์" พอลลา เครเมอร์ ก็ไม่ลืมที่จะออกมายกย่อง สาววี "วันนี้ฉันปล่อยโอกาสทำเบอร์ดี้หลุดไปหลายครั้ง ในขณะที่ มิเชล วี เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เธอสมควรที่จะเป็นผู้ชนะในรายการนี้แล้ว ฉันต้องแสดงความยินดีกับเธอด้วยจริงๆ"

ส่วนโปรมือดังๆ อย่าง คริสตี เคอร์ เจ้าของแชมป์แอลพีจีเอ 12 รายการจากสหรัฐฯ วันนี้ทำสกอร์เพิ่มไม่ได้ สกอร์รวมมี 10 อันเดอร์พาร์ รั้งที่ 3 ร่วมกับ รุคกี้ยอดเยี่ยมของปี ชิน จีไย และ มอร์แกน เพรสเซล ขณะที่ จอมเก๋าอย่าง ไอ มิยาซาโตะ จบวันสกอร์อีเวนพาร์ อยู่ที่ 16 ร่วมกับ ซูซาน เพตเตอร์เซน มีสกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์

ขณะที่ ลอเรนา โอชัว ก้านเหล็กมือ 1 ของโลกชาวเม็กซิกัน ซึ่งเป็นเจ้าภาพในรายการนี้ หวดเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 6 ร่วมกับ คิม ซอง-เฮ ที่สกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ ด้าน "แชมป์เก่า" แองเจลา แสตนฟอร์ด ที่สามวันแรกตีออกทะเลไปรวม 9 โอเวอร์พาร์ วันนี้ทำอีเวนท์พาร์ สกอร์รวม 9 โอเวอร์พาร์เช่นเดิม ขยับหนึ่งอันดับจากรองบ๊วยขึ้นมาอยู่ที่ 33