ชูชัย บัวบูชา ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินยอมรับตะลึงกับคดีสะเทือนขวัญที่ ถนอม บริคุต เชิ้ตดำฟีฟาผู้คร่ำหวอดในศึกไทยพรีเมียร์ลีก วางระเบิดสังหาร นายธรรมนูญ ประทุมมาลย์ ผู้อำนวยการกองการศึกษาระดับ 9 เทศบาลเมืองสระบุรี เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เห็นว่าเป็นคนมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง พร้อมทั้งเตรียมปลูกฝังจิตสำนึกด้านคุณธรรมจริยธรรมให้แก่เหล่าสิงห์เชิ้ตดำต่อไป
หลังจากที่ ส.อ.ถนอม บริคุต อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่สันทนาการ กองการศึกษาระดับ 9 เทศบาลเมืองสระบุรีก่อเหตุนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางที่เหล็กดัดหน้าต่างหลังห้องทำงานของ นายธรรมนูญ ปทุมมาล์ย ซึ่งเป็นหัวหน้าในที่ทำงานจนเกิดระเบิดทำให้ นายธรรมนูญ เสียชีวิตก่อนถูกตำรวจภูธร จังหวัดสระบุรีควบคุมตัว โดยภายหลังได้ออกมายอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือจริง เนื่องจากมีปัญหาบาดหมางไม่ลงรอยกันโดยมักถูกต่อว่าเรื่องการมาเข้างานสาย
ล่าสุด MGR Sport ได้โทรศัพท์ไปสอบถามความคิดเห็นของ ผศ.ชูชัย บัวบูชา ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินเกี่ยวกับคดีอาชญากรรมของผู้ตัดสินระดับฟีฟาคนนี้ ซึ่ง ผศ.ชูชัยยอมรับว่า “ผมเพิ่งทราบข่าวของ ถนอม บริคุต ซึ่งส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าตกใจมาก เพราะก่อนหน้านี้เขาเป็นคนสงบเสงี่ยม ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง และเป็นที่เคารพรักของบรรดาผู้ตัดสินรุ่นพี่และรุ่นน้อง อีกทั้งเป็นคนที่มีความตั้งใจมากในการทำหน้าที่ตัดสินแต่ละนัด กระนั้น เรื่องที่มีปัญหาในที่ทำงาน เราเองก็ไม่ทราบมาก่อนเพราะเขาไม่เคยนำมาเปิดเผย”
บิ๊กเชิ้ตดำกล่าวต่อไปว่า “รายละเอียดของคดีผมก็ทราบเท่าที่ปรากฏตามสื่อ ซึ่งตำรวจเห็นภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดแล้วพบผู้ต้องสงสัยที่มีลักษณะคล้าย ถนอม จึงอนุมัติออกหมายจับ หากรูปคดีออกมาโดยที่เจ้าตัวยอมรับสารภาพอย่างนี้แล้ว เราคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายบ้านเมืองที่จะลงโทษเขา ส่วนคณะกรรมการผู้ตัดสินคงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ แต่ถ้าดำเนินการจริงๆ เขาก็คงจะถูกถอดชื่อจากการเป็นผู้ตัดสินโดยปริยาย เพราะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้อย่างนั้นคงไม่สามารถกลับมาทำหน้าที่ได้อีกนาน”
ขณะเดียวกัน ผศ.ชูชัย ได้เผยว่าจะมีการอบรมบรรดาตุลาการสนามโดยเน้นในด้านส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมสำหรับการใช้ชีวิตนอกเหนือจากการทำหน้าที่ตัดสินการแข่งขันต่อไปนับจากนี้ “เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คณะกรรมการผู้ตัดสินก็จะดำเนินการส่งเสริมด้านคุณธรรมการใช้ชีวิตของพวกเขานอกเหนือจากการเพิ่มพูนทักษะการตัดสิน ถึงแม้จะดูเหมือนว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือวัวหายล้อมคอกแต่เราก็คงวางเฉยไม่ได้ อย่างไรก็ดี ผมเชื่อว่าผู้ตัดสินชุดนี้ไม่มีใครที่มีพฤติกรรมรุนแรงหรือมีปัญหาบาดหมางรุนแรงกับคนอื่นและสามารถควบคุมตัวเองได้”
สำหรับ ส.อ.ถนอม อดีตเคยเป็นทหารสังกัดกรมรบพิเศษที่ 1 จังหวัดลพบุรี โดยรับราชการมา 10 ปี จนได้ติดยศสิบเอก ก่อนจะตัดสินใจเบนเข็มมาเป็นครูแทนโดยโอนย้ายมา ปัจจุบันอยู่โรงเรียนเทศบาล 5 วัดดาวเรือง สังกัดเทศบาลเมืองสระบุรี เข้ามาเป็นผู้ตัดสินตั้งแต่สมัยรับราชการทหาร และไต่เต้าขึ้นมาเรื่อยๆ จากชั้น 3 ก่อนจะเติบโตอย่างรวดเร็วเพียง 2 ปี จนกระทั่งปี 2545 ได้เป็นผู้ตัดสินของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) ในฐานะผู้ช่วยผู้ตัดสินในยุคที่มี อ.ชูชัย บัวบูชา เป็นประธานผู้ตัดสิน
ด้านผลงานการทำหน้าที่ระดับนานาชาติเคยทำหน้าที่นัดชิงเหรียญทองฟุตบอล กีฬาเอเชียนเกมส์ "โดฮาเกมส์" ที่ประเทศกาตาร์ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2006 ระหว่างทีมชาติกาตาร์กับอิรัก และต่อมาได้รับเลือกไปทำหน้าที่ในฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก อายุไม่เกิน 20 ปี (ยู-20) ที่แคนาดา ระหว่างวันที่ 1-22 กรกฏาคม 2550 และยังทำหน้าที่ในฟุตบอลสโมสรชิงแชมป์เอเชีย "เอเอฟซี คัพ" และ "เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก" ล่าสุดมีชื่อติดโผลุ้นไปทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้ตัดสิน (ไลน์แมน) ในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ช่วงกลางปีหน้าด้วย ทว่าหลังจากก่อคดีนี้ทำให้หมดสิทธิ์ไปโบกธงในเวิลด์คัพแน่นอนแล้ว
หลังจากที่ ส.อ.ถนอม บริคุต อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่สันทนาการ กองการศึกษาระดับ 9 เทศบาลเมืองสระบุรีก่อเหตุนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางที่เหล็กดัดหน้าต่างหลังห้องทำงานของ นายธรรมนูญ ปทุมมาล์ย ซึ่งเป็นหัวหน้าในที่ทำงานจนเกิดระเบิดทำให้ นายธรรมนูญ เสียชีวิตก่อนถูกตำรวจภูธร จังหวัดสระบุรีควบคุมตัว โดยภายหลังได้ออกมายอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือจริง เนื่องจากมีปัญหาบาดหมางไม่ลงรอยกันโดยมักถูกต่อว่าเรื่องการมาเข้างานสาย
ล่าสุด MGR Sport ได้โทรศัพท์ไปสอบถามความคิดเห็นของ ผศ.ชูชัย บัวบูชา ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินเกี่ยวกับคดีอาชญากรรมของผู้ตัดสินระดับฟีฟาคนนี้ ซึ่ง ผศ.ชูชัยยอมรับว่า “ผมเพิ่งทราบข่าวของ ถนอม บริคุต ซึ่งส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าตกใจมาก เพราะก่อนหน้านี้เขาเป็นคนสงบเสงี่ยม ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง และเป็นที่เคารพรักของบรรดาผู้ตัดสินรุ่นพี่และรุ่นน้อง อีกทั้งเป็นคนที่มีความตั้งใจมากในการทำหน้าที่ตัดสินแต่ละนัด กระนั้น เรื่องที่มีปัญหาในที่ทำงาน เราเองก็ไม่ทราบมาก่อนเพราะเขาไม่เคยนำมาเปิดเผย”
บิ๊กเชิ้ตดำกล่าวต่อไปว่า “รายละเอียดของคดีผมก็ทราบเท่าที่ปรากฏตามสื่อ ซึ่งตำรวจเห็นภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดแล้วพบผู้ต้องสงสัยที่มีลักษณะคล้าย ถนอม จึงอนุมัติออกหมายจับ หากรูปคดีออกมาโดยที่เจ้าตัวยอมรับสารภาพอย่างนี้แล้ว เราคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายบ้านเมืองที่จะลงโทษเขา ส่วนคณะกรรมการผู้ตัดสินคงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ แต่ถ้าดำเนินการจริงๆ เขาก็คงจะถูกถอดชื่อจากการเป็นผู้ตัดสินโดยปริยาย เพราะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้อย่างนั้นคงไม่สามารถกลับมาทำหน้าที่ได้อีกนาน”
ขณะเดียวกัน ผศ.ชูชัย ได้เผยว่าจะมีการอบรมบรรดาตุลาการสนามโดยเน้นในด้านส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมสำหรับการใช้ชีวิตนอกเหนือจากการทำหน้าที่ตัดสินการแข่งขันต่อไปนับจากนี้ “เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คณะกรรมการผู้ตัดสินก็จะดำเนินการส่งเสริมด้านคุณธรรมการใช้ชีวิตของพวกเขานอกเหนือจากการเพิ่มพูนทักษะการตัดสิน ถึงแม้จะดูเหมือนว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือวัวหายล้อมคอกแต่เราก็คงวางเฉยไม่ได้ อย่างไรก็ดี ผมเชื่อว่าผู้ตัดสินชุดนี้ไม่มีใครที่มีพฤติกรรมรุนแรงหรือมีปัญหาบาดหมางรุนแรงกับคนอื่นและสามารถควบคุมตัวเองได้”
สำหรับ ส.อ.ถนอม อดีตเคยเป็นทหารสังกัดกรมรบพิเศษที่ 1 จังหวัดลพบุรี โดยรับราชการมา 10 ปี จนได้ติดยศสิบเอก ก่อนจะตัดสินใจเบนเข็มมาเป็นครูแทนโดยโอนย้ายมา ปัจจุบันอยู่โรงเรียนเทศบาล 5 วัดดาวเรือง สังกัดเทศบาลเมืองสระบุรี เข้ามาเป็นผู้ตัดสินตั้งแต่สมัยรับราชการทหาร และไต่เต้าขึ้นมาเรื่อยๆ จากชั้น 3 ก่อนจะเติบโตอย่างรวดเร็วเพียง 2 ปี จนกระทั่งปี 2545 ได้เป็นผู้ตัดสินของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) ในฐานะผู้ช่วยผู้ตัดสินในยุคที่มี อ.ชูชัย บัวบูชา เป็นประธานผู้ตัดสิน
ด้านผลงานการทำหน้าที่ระดับนานาชาติเคยทำหน้าที่นัดชิงเหรียญทองฟุตบอล กีฬาเอเชียนเกมส์ "โดฮาเกมส์" ที่ประเทศกาตาร์ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2006 ระหว่างทีมชาติกาตาร์กับอิรัก และต่อมาได้รับเลือกไปทำหน้าที่ในฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก อายุไม่เกิน 20 ปี (ยู-20) ที่แคนาดา ระหว่างวันที่ 1-22 กรกฏาคม 2550 และยังทำหน้าที่ในฟุตบอลสโมสรชิงแชมป์เอเชีย "เอเอฟซี คัพ" และ "เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก" ล่าสุดมีชื่อติดโผลุ้นไปทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้ตัดสิน (ไลน์แมน) ในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ช่วงกลางปีหน้าด้วย ทว่าหลังจากก่อคดีนี้ทำให้หมดสิทธิ์ไปโบกธงในเวิลด์คัพแน่นอนแล้ว
