“บิ๊กแน๊ต” ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ นายกสมาคมฮอกกี้แห่งประเทศไทย ออกมาเปิดใจพูดถึงวงการฮอกกี้ไทยในขณะนี้ โดยชี้ว่าชุดอายุไม่เกิน 18 ปี จะสร้างชื่อได้ในอนาคตอย่างแน่นอน พร้อมทั้งยังมีแผนเริ่มโครงการปั้นเยาวชนตั้งแต่อายุ 12 ปี และสร้างรากฐานฮอกกี้อาชีพ โดยพร้อมทุ่มแรงกายและใจไม่ถอยเพื่อให้กีฬาชนิดนี้เกิดกระแสขึ้นมา เหมือนกีฬาวอลเลย์บอลที่เคยทำไว้ให้ได้
หลังจากที่ การแข่งขันฮอกกี้หญิงชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 7 “Womens Asia Cup” ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.- 8 พ.ย.นี้ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 ได้มีการเปิดการแข่งขันขึ้นไปแล้วอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย โดยได้รับการชมเชยจากประเทศชั้นนำอย่าง เกาหลีใต้และญี่ปุ่นว่าให้การต้อนรับอย่างดี และมีสนามที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคอาเซียนนั้น
ล่าสุด "บิ๊กแน๊ต" ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ นายกสมาคมฮอกกี้แห่งประเทศไทย ออกมาให้สัมภาษณ์แบบเปิดใจกับผู้สื่อข่าว MGR Sports เกี่ยวกับกีฬาชนิดนี้ว่า "ตั้งแต่ผมเข้ามาเป็นนายกสมาคม ฮอกกี้ตั้งแต่เดือนมีนาคม ก็ได้พยายามทำให้กีฬานี้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้นเรามีการอบรมผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน โดยใช้สหพันธ์ฮอกกี้โลก และสหพันธ์ฮอกกี้แห่งเอเชียเข้ามาช่วย พร้อมผลิตบุคลากรมากขึ้น รวมไปถึงขยายจำนวนสโมสร จาก 37 เป็น 65 ทีม เพื่อปูรากฐานการเล่นลีอาชีพ ซึ่งเราตั้งเป้าไว้ให้มีทีมทุกจังหวัด ถ้าเรามีลีกอาชีพเกิดขึ้น ข้อดีก็คือจะทำให้มีนักกีฬาเก่งๆ จากต่างแดนอย่าง ปากีสถาน และ มาเลเซีย ย้ายมาเล่น ซึ่งจะช่วยขัดเกลาทักษะของเด็กไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่องได้"
"นอกจากนั้นเราได้ผลักดันกีฬาชนิดนี้เข้าไปสู่กีฬาแห่งชาติ และกีฬาเยาวชนแห่งชาติที่ ชลบุรีและเพชรบูรณ์ในครั้งต่อไปเป็นผลสำเร็จแล้ว พอมีการแข่งทัวร์นาเมนต์ 2 ชนิดนี้ มันก็เป็นธรรมชาติของแต่ละจังหวัด ที่จะต้องผลิตทีมออกมา ซึ่งเวลานี้ไม่เฉพาะกรุงเทพ ชลบุรี ที่เริ่มเล่นกันบ้างแล้ว แต่ยังไปถึงนราธิวาสด้วย ตอนนี้เรามีสนามใยสังเคราะห์ที่ได้มาตรฐานลงทุนไป 10 ล้านบาทที่ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ และอีกสนามใหม่ที่บริเวณสมาคมยิงธนู ใกล้สนามราชมัง เราตั้งเป้าไว้ให้มี 4 สนามเพื่อรองรับกับลีกที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า แน่นอนต้องมีเงินรางวัลที่ดึงดูดนักกีฬาด้วย โดยการแข่งขันจะจัดทำทั้งระบบ ตั้งแต่จัดชิงแชมป์ประเทศไทยรุ่นต่ำกว่า 18 ปี, รุ่นต่ำกว่า 25 ปี และรุ่นทั่วไป"
"สำหรับทีมชาติ ผมอยากบอกว่าเวลานี้ฮอกกี้หญิงไทยรุ่นอายุ 18 ปี เราไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติใดๆเลย ซึ่งชุดใหญ่เรายอมรับว่ายังเป็นรองหลายประเทศในเอเชีย แต่ชุดเด็กนี้เราชนะได้ทั้งศรีลังกา และปากีสถาน ถือเป็นความหวังในอนาคตก็ว่าได้ ทางสมาคมเรียกนักกีฬามาฝึกทุกอาทิตย์ นอกจากนี้ผมเพิ่งส่งพวกเขาไปตระเวนท้าเด็กมาเลย์ซึ่งถือว่าเป็นเบอร์ 1 ของอาเซียนแข่งตามรัฐต่างๆ ถามว่าใช้เงินเยอะรึเปล่า มันจำเป็นต้องจ่ายเพื่อสร้างสมประสบการณ์ ผมเชื่อว่าอีกไม่เกิน 2 ปี กระดูกของเด็กชุดนี้น่าจะแข็งแกร่งขึ้นพอที่จะขึ้นมาแทนชุดใหญ่ได้แน่"
เมื่อถามถึงอุปสรรคที่เป็นกังวลมากที่สุด นายกสมาคมฮอกกี้แห่งประเทศไทย เผยว่า "กีฬาฮอคกี้เป็นกีฬาที่เก่าแก่ไม่แพ้ฟุตบอลเลย เพียงแต่ได้รับความนิยมน้อยกว่ามาก และเราก็ไม่มีวัตถุดิบเลย ผมเป็นห่วงเรื่องการประชาสัมพันธ์ ซึ่งต้องคิดวาต้องใช้เวลา แต่ถ้าจะให้บูมเร็วก็คงต้องให้ชนะระดับแชมป์เอเชียเหมือนวอลเลย์บอลหญิงไทย อันที่จริงคุณภาพของคนไทยกับมาเลย์ ไม่ได้ต่างกันเลย แต่เป็นเพราะเรามาเริ่มเล่นช้าไป ขณะที่มาเลย์เค้าเล่นตั้งแต่เด็กและฮิตกีฬานี้มานานมากกว่าเราเยอะ"
โดย หนึ่งในคณะมนตรีซีเกมส์ ยังพูดถึงเป้าหมายของสมาคมไว้อย่างน่าสนใจ "เราก็ต้องพัฒนากันต่อไปรื่อยๆ เมื่อช่วงต้นเดือนที่แล้ว ได้ชิงแชมป์ ย่านอาเซียน (Sea Cup) ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง โดยเราแพ้มาเลเซีย แค่เฉียดฉิว 2-1 ซึ่งเมื่อก่อนอาจจะโดนถึง 5 - 6 ลูก ฮอคกี้เป็น 1 ในกีฬาโอลิมปิก ต้องวางฐานให้ดี อันดับในฮอกกี้หญิงก็ไม่ได้ด้อยแต่อย่างใด อยู่ในอันดับที่ 38 ของโลก ส่วนในประเภทชายก็อาจจะแย่หน่อยอันดับต่ำกว่า 100"
"ผมมองว่า ปีต่อไปจะเป็นปีที่เซอร์ไพรซ์ของวงการฮอกกี้ไทย เราได้คัดเด็กต่ำกว่า 12 และมาอยู่กับเราเหมือนลูกเหมือนหลานในสมาคม ช 35 ญ 35 มาให้โค้ชดูแล เวลานี้เรามีโค้ชเก่งๆจากต่างชาติที่เข้ามาดูแลทีมทุกชุดจำนวน 4 คน จากออสเตรเลีย อาร์เจนตินา และปากีสถาน แน่นอนเราก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเช่นกัน ในเรื่องของ ค่าเลี้ยงดู อาหาร โภชนาการทุกอย่าง ถ้าเราคิดที่จะประสบความสำเร็จ มันก็ต้องใช้เวลา ความอดทน และมีลงทุน ผมเชื่อว่าอีกไม่นานเด็กๆเหล่านี้จะเป็นกำลังหลักอย่างแท้จริง ที่จะขึ้นมาสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติได้" บิ๊กแน๊ต ปิดท้าย
