xs
xsm
sm
md
lg

"วาดา" ชี้เอาผิด "อากัสซี" เสพยาไอซ์ไม่ได้!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อากัสซี ทำผิดเมื่อ 12 ปีก่อน
จอห์น ฟาฮีย์ ประธาน องค์กรตรวจโดปโลก หรือ วาดา (WADA) ยอมรับไม่สามารถเอาผิด อังเดร อากัสซี กรณีแอบใช้สารเสพติดชนิด "ไอซ์" ในปี 1997 ได้เนื่องจากหมดอายุความ 8 ปี ด้าน ฟรานเชสโก ริชชิ บิตติ ประธานสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือ ไอทีเอฟ (ITF) รู้สึกผิดหวังที่ อดีตมือ 1 โลกออกมาเผยเรื่องฉาวตนเอง ขณะที่ แอนดี รอดดิก เผยยังเคารพรักหวดรุ่นพี่ชาวอเมริกันที่เป็น "ต้นแบบ" และเคยสร้างความสวยงามให้โลกมากมาย

เมื่อวันพุธที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา มีการเปิดเผยส่วนหนึ่งของหนังสืออัตชัวประวัติเล่มใหม่ของ อากัสซี ที่มีชื่อว่า "โอเพน" ระบุว่าเมื่อปี 1997 อดีตแชมป์แกรนด์สแลม 8 สมัย เคยใช้ยาไอซ์ในบ้าน ทว่าโกหกเจ้าหน้าที่ เอทีพี ว่าได้รับสารจากแก้วน้ำของเพื่อนสนิทจนพ้นการโดนลงโทษ ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากย์วิจารณ์ในวงกว้าง

โดย จอห์น ฟาฮีย์ ประธานองค์กรตรวจโดปโลก หรือ "วาดา" (WADA) ยอมรับผ่าน "รอยเตอร์ส" ว่า "คงไม่มีใครเอาผิด อากัสซี ได้เนื่องจากอายุความของคดีนี้มีแค่ 8 ปีและได้ขาดไปนานแล้ว ผมได้แต่เพียงเรียกร้องให้เขาเห็นความสำคัญของการเป็นต้นแบบของเยาวชนทั่วโลกมากกว่านี้"

"กรณีของ อากัสซี เป็นบทเรียนให้ วาดา และ เอทีพี ร่วมมือกันทำให้วงการเทนนิสบริสุทธิ์มากขึ้นในอนาคต เราต้องมั่นใจว่าจะไม่มีความผิดใดถูกปกปิดไว้ได้อีก" ประธาน "วาดา" องค์กรซึ่งปรับบทลงโทษคดีใช้สารต้องห้ามจากแบน 3 เดือนเป็นขั้นต่ำ 2 ปี เปิดเผย

ด้าน ฟรานเชสโก ริชชิ บิตติ ประธานสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือ ไอทีเอฟ เผยว่า "ผมรู้สึกประหลาดใจและผิดหวังที่อดีตยอดนักเทนนิสออกมายอมรับว่าเคยใช้ยาและเคยโกหกเจ้าหน้าที่ ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่เยาวชนไม่ควรเอาอย่าง"

ส่วน ฌักส์ โรกก์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี แสดงความเห็นว่า “การเปิดเผยเรื่องราวการเสพยาเสพติดของ อากัสซี ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชนและนักกีฬารุ่นหลัง ดังนั้นจึงไม่ควรมีใครพูดถึงเรื่องนี้อีกจะเป็นการดีที่สุด”

ขณะที่ แอนดี รอดดิก รุ่นน้องชาวอเมริกัน เผยใน "ทวิตเตอร์" ว่า "อังเดร ยังคงเป็นต้นแบบของผม ดังนั้นขอเลือกที่จะจำเฉพาะมุมที่เขาดีกับผมและสร้างสิ่งสวยงามให้โลกนี้เท่านั้น"

สำหรับหนังสือ "โอเพน" ได้รับการตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ "เดอะ ไทมส์" กรุงลอนดอน ในครั้งแรก 5 แสนเล่ม โดย อากัสซี ได้ค่าลิขสิทธิ์เบื้องต้น 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 170 ล้านบาท) ซึ่งจากแผน "การตลาด" ที่มีการเผยเนื้อหารุนแรงบางส่วนออกมาล่วงหน้า อาทิ ยาเสพติด ความขัดแย้งในครอบครัว รวมถึงรับว่าตนเอง "เกลียด" กีฬาเทนนิสที่มีแต่ความกดดัน ทำให้สื่อทุกสำนักฟันธงว่าวันวางแผง 9 พฤศจิกายนนี้ จะต้องขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจนมีการตีพิมพ์ครั้งที่ 2 ในไม่ช้า โดยในเว็บไซต์ขายสินค้า "อเมซอน" อัตชีวประวัติเล่มนี้ขยับจากอันดับ 493 ขึ้นมาอยู่ที่ 11 หนังสือขายดีภายในเวลา 24 ชม.เท่านั้น
รอดดิก
กำลังโหลดความคิดเห็น