นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ซัดประตูชัยให้ อาร์เซนอล เฉือนชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกคาร์ลิง คัพ เช่นเดียวกับ เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่ถล่มเอาชนะคู่แข่งไปแบบขาดลอย เมื่อวันพุธที่ 28 ตุลาคม
ผลฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบ 4
อาร์เซนอล 2-1 ลิเวอร์พูล
ทั้งสองทีมพักผู้เล่นตัวหลักเป็นส่วนใหญ่ โดย อาร์เซนอล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ วาง ซามีร์ นาสรี เป็นเพลย์เมกเกอร์ ส่วนคู่หน้าเป็นการประสานงานกันของ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ และ เอดูอาร์โด ดาซิลวา ทางฝั่ง ลิเวอร์พูล ของ ราฟาเอล เบนิเตซ ใช้ มาร์ติน สเคอร์เทล คุมแผงหลัง ส่วนเกมรุกมี เดิร์ก เคาท์ คอยทำเกม
เริ่มครึ่งแรก ทั้งสองทีมสู้กันได้สูสี แต่ผ่านมาถึงนาที 9 ทีมเยือนมีจังหวะลุ้นประตูก่อน จากการที่ โวโรนิน จ่ายบอลเข้ามาหน้าเขตโทษ เอ็นกอก ตอกส้นเร็วให้ เดเกน หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่ดีดบอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
นาทีต่อมา นาสรี ถูก สเคอร์เทล ทำฟาวล์ตรงหน้าเขตโทษ และเพลย์เมกเกอร์น้ำหอมลุกขึ้นมาซัดฟรีคิกเอง บอลเลี้ยวข้ามกำแพงหลุดเสาไป หลังจากนั้นนาที 15 อาร์เซนอล ต่อบอลกันขึ้นมาอย่างสวยงาม ก่อนที่ เบนด์ทเนอร์ จะเล่นชิงกับ เอดูอาร์โด จนหลุดเข้าในเขตโทษ แต่ดาวเตะโคนมผ่านบอลไม่ดีจนถูก คาวาเลียรี ตามมาตะครุบทันบอลก่อนจะถึง แรมซีย์
กระทั่งเกมมาถึงนาที 19 เจ้าถิ่นก็มาทำประตูออกนำได้สำเร็จ 1-0 จากจังหวะลูกทุ่มตรงริมเส้นด้านขวา กลายเป็น โวโรนิน สกัดไม่เด็ดขาดจนสุดท้ายบอลมาเข้าทางปืน เมริดา จัดการซัดตรงมุมเขตโทษเต็มข้อ บอลพุ่งแรงเบียดเสาเข้าประตูไป หมดสิทธิ์ที่ คาวาเลียรี จะพุ่งปัดทัน
หงส์แดงพยายามบุกหนักหลังเสียประตูจนมาถึงนาที 26 ก็ตามตีได้สำเร็จจากจังหวะที่ทีมวางบอลยาวจากแดนตัวเอง บอลลอยมาหน้าเขตโทษ บาเบล โหม่งบอลย้อนกลับหลังมาเข้าทาง อินซัว พักอกลงหนึ่งจังหวะ ก่อนจะซัดลูกใบไม้ร่วง บอลฮุบผ่านมือ ฟาเบียนสกี เสียบใต้คานอย่างสวยงาม สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1
เกมกลับมาสูสีอีกครั้ง ถึงนาที 36 จากลูกเตะมุม นาสรี โยนบอลเลยมาทางเสาสอง เบนด์ทเนอร์ ยืนอยู่โล่งๆจัดการซัดมุมแคบ แต่ไม่ผ่านมือ คาวาเลียรี รับเข้าซอง ก่อนที่นาที 42 ดาวยิงโคนมจะได้สับไกจากลูกเซตพีซอีกครั้ง แต่บอลไม่ผ่านมือนายด่านทีมเยือนเหมือนเดิม หลังจากนั้นจบ 45 นาทีแรก
เริ่มครึ่งหลังมา 5 นาที อาร์เซนอล ทำประตูออกนำอีกครั้งอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ เมริดา หลุดขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนจะจ่ายเข้ากลาง เบนด์ทเนอร์ เกือบเสียจังหวะจากการแย่งบอลกับ แรมซีย์ เพื่อนร่วมทีม แต่สุดท้ายยังเกี่ยวบอลเข้าไปซัดมุมแคบแสกหน้า คาวาเลียรี ส่งบอลตุงตาข่ายให้ทีมนำ 2-1
ลูกทีมของราฟาเอล เบนิเตซ เดินเกมบุกใส่เพื่อตามตีคืน มาถึงนาที 54 โวโรนิน เล่นชิงกับ เดเกน จนกระทั่งหลุดเข้าไปซัดในเขตโทษ บอลพุ่งเรียดผ่านมือ ฟาเบียนสกี แต่หลุดเสาสองออกไปนิดเดียว โดยทีมเยือนยังเป็นฝ่ายเดินหน้าบุกต่อแต่ยังขาดความเด็ดขาดในจังหวะได้เสีย
เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย หงส์แดงมีการปรับเปลี่ยนแทกติกโดยส่ง ยอสซี เบนายูน และดาวเตะตัวใหม่อย่าง อัลแบร์โต อาควิลานี ลงประเดิมสนาม แต่มาถึงนาที 80 เอดูอาร์โด เกือบยิงประตูให้เจ้าถิ่นนำห่าง เมื่อพลิกหนีกองหลังทีมเยือนตรงบริเวณริมเส้นด้านซ้าย จนหลุดเข้าไปซัดในเขตโทษให้บอลหลุดโคนเสาสองออกไป
นาทีต่อมา โวโรนิน ได้ซัดตรงหน้าเขตโทษ แต่บอลพุ่งไปตรงตัว ฟาเบียนสกี รับเข้าซอง โดยหลังจากนั้นทั้งสองทีมพยายามหาโอกาสเพื่อทำประตูเพิ่มแต่ไม่สำเร็จทำให้สุดท้ายจบ 90 นาที อาร์เซนอล จึงเป็นฝ่ายเอาชนะไปพร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกคาร์ลิง คัพ
สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่น เชลซี เปิดบ้านถล่ม โบลตัน 4-0 จากการทำประตูของ ซาโลมง กาลู, ฟลอรองต์ มาลูดา, เดโก และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี ก็ไม่น้อยหน้าต้อน สคันธอร์ป 5-1 จากประตูของ สตีเฟน ไอร์แลนด์, โรเก ซานตา ครูซ, โจเลียน เลสคอตต์, คาร์ลอส เตเบซ และ ไมเคิล จอห์นสัน ส่วนทีมเยือนได้จาก โจนาธาน ฟอร์เต
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสอง
อาร์เซนอล : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี, มิคาแอล ซิลแวสตร์, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, เคอเรีย กิลเบิร์ต, เคียแรน กิบบ์ส, เคร็ก อีสต์มอนด์, ซามีร์ นาสรี, ฟราน เมริดา, อารอน แรมซีย์, เอดูอาร์โด, นิคลาส เบนด์ทเนอร์
ลิเวอร์พูล : ดิเอโก คาวาเลียรี, โซติริออส เคียร์เกียกอส, ฟิลิปป์ เดเกน, มาร์ติน สเคอร์เทล, เอมิเลียโน อินซัว, เดเมียน เปลสซิส, เจย์ สเปียริง, เดิร์ก เคาท์, อังเดร โวโรนิน, ไรอัน บาเบล, ดาวิด เอ็นกอก
ผลฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบ 4
อาร์เซนอล ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
[1-0 : ฟราน เมริดา น.19], [1-1 : เอมิเลียโน อินซัว น.26], [2-1 : นิคลาส เบนด์ทเนอร์ น.50]
เชลซี ชนะ โบลตัน 4-0
[1-0 : ซาโลมง กาลู น.15], [2-0 : ฟลอรองต์ มาลูดา น.26], [3-0 : เดโก น.67], [4-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.89]
แมนฯ ซิตี ชนะ สคันธอร์ป 5-1
[1-0 : สตีเฟน ไอร์แลนด์ น.3], [1-1 : โจนาธาน ฟอร์เต น.26], [2-1 : โรเก ซานตา ครูซ น.38], [3-1 : โจเลียน เลสคอตต์ น.56], [4-1 : คาร์ลอส เตเบซ น.71], [5-1 : ไมเคิล จอห์นสัน น.77]
ผลฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบ 4
อาร์เซนอล 2-1 ลิเวอร์พูล
ทั้งสองทีมพักผู้เล่นตัวหลักเป็นส่วนใหญ่ โดย อาร์เซนอล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ วาง ซามีร์ นาสรี เป็นเพลย์เมกเกอร์ ส่วนคู่หน้าเป็นการประสานงานกันของ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ และ เอดูอาร์โด ดาซิลวา ทางฝั่ง ลิเวอร์พูล ของ ราฟาเอล เบนิเตซ ใช้ มาร์ติน สเคอร์เทล คุมแผงหลัง ส่วนเกมรุกมี เดิร์ก เคาท์ คอยทำเกม
เริ่มครึ่งแรก ทั้งสองทีมสู้กันได้สูสี แต่ผ่านมาถึงนาที 9 ทีมเยือนมีจังหวะลุ้นประตูก่อน จากการที่ โวโรนิน จ่ายบอลเข้ามาหน้าเขตโทษ เอ็นกอก ตอกส้นเร็วให้ เดเกน หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่ดีดบอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
นาทีต่อมา นาสรี ถูก สเคอร์เทล ทำฟาวล์ตรงหน้าเขตโทษ และเพลย์เมกเกอร์น้ำหอมลุกขึ้นมาซัดฟรีคิกเอง บอลเลี้ยวข้ามกำแพงหลุดเสาไป หลังจากนั้นนาที 15 อาร์เซนอล ต่อบอลกันขึ้นมาอย่างสวยงาม ก่อนที่ เบนด์ทเนอร์ จะเล่นชิงกับ เอดูอาร์โด จนหลุดเข้าในเขตโทษ แต่ดาวเตะโคนมผ่านบอลไม่ดีจนถูก คาวาเลียรี ตามมาตะครุบทันบอลก่อนจะถึง แรมซีย์
กระทั่งเกมมาถึงนาที 19 เจ้าถิ่นก็มาทำประตูออกนำได้สำเร็จ 1-0 จากจังหวะลูกทุ่มตรงริมเส้นด้านขวา กลายเป็น โวโรนิน สกัดไม่เด็ดขาดจนสุดท้ายบอลมาเข้าทางปืน เมริดา จัดการซัดตรงมุมเขตโทษเต็มข้อ บอลพุ่งแรงเบียดเสาเข้าประตูไป หมดสิทธิ์ที่ คาวาเลียรี จะพุ่งปัดทัน
หงส์แดงพยายามบุกหนักหลังเสียประตูจนมาถึงนาที 26 ก็ตามตีได้สำเร็จจากจังหวะที่ทีมวางบอลยาวจากแดนตัวเอง บอลลอยมาหน้าเขตโทษ บาเบล โหม่งบอลย้อนกลับหลังมาเข้าทาง อินซัว พักอกลงหนึ่งจังหวะ ก่อนจะซัดลูกใบไม้ร่วง บอลฮุบผ่านมือ ฟาเบียนสกี เสียบใต้คานอย่างสวยงาม สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1
เกมกลับมาสูสีอีกครั้ง ถึงนาที 36 จากลูกเตะมุม นาสรี โยนบอลเลยมาทางเสาสอง เบนด์ทเนอร์ ยืนอยู่โล่งๆจัดการซัดมุมแคบ แต่ไม่ผ่านมือ คาวาเลียรี รับเข้าซอง ก่อนที่นาที 42 ดาวยิงโคนมจะได้สับไกจากลูกเซตพีซอีกครั้ง แต่บอลไม่ผ่านมือนายด่านทีมเยือนเหมือนเดิม หลังจากนั้นจบ 45 นาทีแรก
เริ่มครึ่งหลังมา 5 นาที อาร์เซนอล ทำประตูออกนำอีกครั้งอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ เมริดา หลุดขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนจะจ่ายเข้ากลาง เบนด์ทเนอร์ เกือบเสียจังหวะจากการแย่งบอลกับ แรมซีย์ เพื่อนร่วมทีม แต่สุดท้ายยังเกี่ยวบอลเข้าไปซัดมุมแคบแสกหน้า คาวาเลียรี ส่งบอลตุงตาข่ายให้ทีมนำ 2-1
ลูกทีมของราฟาเอล เบนิเตซ เดินเกมบุกใส่เพื่อตามตีคืน มาถึงนาที 54 โวโรนิน เล่นชิงกับ เดเกน จนกระทั่งหลุดเข้าไปซัดในเขตโทษ บอลพุ่งเรียดผ่านมือ ฟาเบียนสกี แต่หลุดเสาสองออกไปนิดเดียว โดยทีมเยือนยังเป็นฝ่ายเดินหน้าบุกต่อแต่ยังขาดความเด็ดขาดในจังหวะได้เสีย
เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย หงส์แดงมีการปรับเปลี่ยนแทกติกโดยส่ง ยอสซี เบนายูน และดาวเตะตัวใหม่อย่าง อัลแบร์โต อาควิลานี ลงประเดิมสนาม แต่มาถึงนาที 80 เอดูอาร์โด เกือบยิงประตูให้เจ้าถิ่นนำห่าง เมื่อพลิกหนีกองหลังทีมเยือนตรงบริเวณริมเส้นด้านซ้าย จนหลุดเข้าไปซัดในเขตโทษให้บอลหลุดโคนเสาสองออกไป
นาทีต่อมา โวโรนิน ได้ซัดตรงหน้าเขตโทษ แต่บอลพุ่งไปตรงตัว ฟาเบียนสกี รับเข้าซอง โดยหลังจากนั้นทั้งสองทีมพยายามหาโอกาสเพื่อทำประตูเพิ่มแต่ไม่สำเร็จทำให้สุดท้ายจบ 90 นาที อาร์เซนอล จึงเป็นฝ่ายเอาชนะไปพร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกคาร์ลิง คัพ
สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่น เชลซี เปิดบ้านถล่ม โบลตัน 4-0 จากการทำประตูของ ซาโลมง กาลู, ฟลอรองต์ มาลูดา, เดโก และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี ก็ไม่น้อยหน้าต้อน สคันธอร์ป 5-1 จากประตูของ สตีเฟน ไอร์แลนด์, โรเก ซานตา ครูซ, โจเลียน เลสคอตต์, คาร์ลอส เตเบซ และ ไมเคิล จอห์นสัน ส่วนทีมเยือนได้จาก โจนาธาน ฟอร์เต
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสอง
อาร์เซนอล : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี, มิคาแอล ซิลแวสตร์, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, เคอเรีย กิลเบิร์ต, เคียแรน กิบบ์ส, เคร็ก อีสต์มอนด์, ซามีร์ นาสรี, ฟราน เมริดา, อารอน แรมซีย์, เอดูอาร์โด, นิคลาส เบนด์ทเนอร์
ลิเวอร์พูล : ดิเอโก คาวาเลียรี, โซติริออส เคียร์เกียกอส, ฟิลิปป์ เดเกน, มาร์ติน สเคอร์เทล, เอมิเลียโน อินซัว, เดเมียน เปลสซิส, เจย์ สเปียริง, เดิร์ก เคาท์, อังเดร โวโรนิน, ไรอัน บาเบล, ดาวิด เอ็นกอก
ผลฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบ 4
อาร์เซนอล ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
[1-0 : ฟราน เมริดา น.19], [1-1 : เอมิเลียโน อินซัว น.26], [2-1 : นิคลาส เบนด์ทเนอร์ น.50]
เชลซี ชนะ โบลตัน 4-0
[1-0 : ซาโลมง กาลู น.15], [2-0 : ฟลอรองต์ มาลูดา น.26], [3-0 : เดโก น.67], [4-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.89]
แมนฯ ซิตี ชนะ สคันธอร์ป 5-1
[1-0 : สตีเฟน ไอร์แลนด์ น.3], [1-1 : โจนาธาน ฟอร์เต น.26], [2-1 : โรเก ซานตา ครูซ น.38], [3-1 : โจเลียน เลสคอตต์ น.56], [4-1 : คาร์ลอส เตเบซ น.71], [5-1 : ไมเคิล จอห์นสัน น.77]