ในวันพฤหัสที่จะถึงนี้(28 ก.ย.) ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน "ไทยพรีเมียร์ลีก" เตรียมปรับทีมจ่าฝูง "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด หลังปล่อยแฟนขว้างขวดลงสนาม และทีม ศรีราชา ที่แฟนบอลกลุ่มหนึ่งล้อมไม่ให้คณะผู้ตัดสินออกนอกสนาม ส่วนกุนซือทีม "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม โดนโทษ แบน 1 นัด ปรับ 10,000 บาท ด้วยข้อหาตัวจุชนวน ในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2552 ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เป็นประธานในการประชุมผู้ควบคุมการแข่งขันฟุตบอลลีกประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในที่ประชุมมีการพิจารณาปัญหา 2 คู่ที่มีปัญหา ประกอบด้วย เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ สมุทรสงคราม เอฟซี และ ศรีราชา เอฟซี กับ จุฬา ยูไนเต็ด
ซึ่งในคู่แรกที่สนามธันเดอร์โดม เมืองทองธานี มีรายงานว่าหลังเกมมีกลุ่มแฟนคลับเจ้าถิ่นขว้างระเบิดพริกไทยใส่กองเชียร์คู่แข่ง แต่ทาง "ไทยพรีเมียร์ลีก" ยืนยันว่าเมื่อได้ทำการตรวจสอบแล้วกับไม่พบหลักฐานแต่อย่างใด ซึ่งพร้อมจะประสานงานกับทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสอบสวนหาความจริงกันต่อไป อย่างไรก็ตามสโมสร "กิเลนผยอง" ยังต้องได้รับโทษปรับอยู่ดี เนื่องจากระหว่างการแข่งขันนั้นมีกองเชียร์บางส่วนขว้างปาขวดน้ำลงสู่สนาม โดยจะมีการเรียกผู้บริหารทีมเข้าชี้แจงในวันพฤหัสบดีนี้ ก่อนลงโทษปรับเป็นเงิน 5,000-30,000 บาท
ขณะเดียวกันที่ประชุมดังกล่าวได้กำหนดลงโทษ "โค้ชฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือทีม "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม ที่ปรี่เข้าหาผู้ตัดสินเกมดังกล่าวหลังจบ 90 นาทีของการแข่งขัน ด้วยการลงโทษห้ามคุมทีมข้างสนาม 1 นัด พร้อมปรับเงินอีก 10,000 บาท เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ด้านการแข่งขันระหว่าง ศรีราชา - จุฬาฯ นั้นมีการรายงานในที่ประชุมว่ากลุ่มแฟนทีมเจ้าบ้านได้ลุกฮือเข้าล้อมผู้ตัดสินหลังจากทีมแพ้ต่อ "เสือสีชมพู" 0-1 ในเกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดย ดร.วิชิต กล่าวว่า "เราพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ถ้าผู้ตัดสินทำหน้าที่ไม่ดีก็ต้องถูกลงโทษ แต่ไม่ใช่ปล่อยให้แฟนบอลไปรุมล้อมแบบนั้น เรื่องนี้จะมีการสอบสวนกันในวันพฤหัสบดีนี้เช่นกัน หากผิดจริงก็จะมีโทษปรับ 5,000-30,000 บาท และที่สำคัญสนามดังกล่าวเคยถูกตักเตือนเรื่องการควบคุมแฟนบอลมาหลายครั้งแล้ว"
นอกจากนี้ "ดร.ลูกหนัง" กล่าวถึงมาตรการป้องกันรักษาความปลอดภัยในสนามไทยลีกด้วยว่า "เวลานี้นักฟุตบอลไม่เห็นผู้ตัดสินอยู่ในสายตา ขาดความเคารพยำเกรง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่นานคงไม่มีใครอยากเป็นผู้ตัดสินอีก อีกเรื่องที่กังวลคือความรุนแรงในการเชียร์เริ่มมีมากขึ้น เราคงต้องมีการตรวจตรากระเป๋าและค้นตัวแฟนบอลให้มากกว่านี้เพื่อป้องกันเหตร้าย และฤดูกาลหน้าเราจะมีการกำหนดให้มีการล้อมรั้วห้ามแฟนบอลลงสนามเด็ดขาดเช่นกัน"