ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผู้จัดการทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี ยิ้มแก้มปริหลังจากลูกทีมคว้าชัยชนะอันล้ำค่ามาฉลองวันเกิดของตนย้อนหลังได้สำเร็จ ขณะที่ สมชาย ชวยบุญชุม เฮดโค้ชสมุทรสงคราม เอฟซี ตำหนิสิงห์เชิ้ตดำที่ตัดสินไม่ยุติธรรมกับฝ่ายตน
ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา “กระต่ายแก้ว” เปิดบ้านคว้าชัยชนะเหนือ “ปลาทูคะนอง” 2-1 ทั้งที่ถูก แลปเป โรเจอร์ สอยประตูขึ้นนำก่อน ทว่าได้ ธนัตถ์ วงค์ศุภลักษณ์ กับ นันทวัฒน์ แทนโสภา ช่วยกันยิงคนละลูกพลิกสถานการณ์กลับมาเก็บ 3 คะแนนในบั้นปลาย
ด้าน ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผู้จัดการทีมบีจีที่ฉลองวันเกิดย้อนหลัง 2 วันในช่วงจบเกมให้สัมภาษณ์ด้วยความปลื้มใจว่า “เกมช่วงแรกของเราดูเนือยไปหน่อยแต่ยังสามารถกลับมาได้ก่อนจบครึ่งแรก ชัยชนะวันนี้ถือว่าเป็น 3 แต้มที่สำคัญมาก ซึ่งก่อนลงสนามผู้เล่นในทีมบอกว่าจะเอาชนะให้ได้เพื่อฉลองวันเกิดย้อนหลังให้ผมในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผมก็ขอขอบคุณนักเตะทุกคนด้วย”
ส่วนเรื่องลุ้นแชมป์ซึ่งตอนนี้ เดอะ กลาส แร็บบิท รั้งอันดับ 3 มี 43 คะแนน ตามหลัง ชลบุรี เอฟซี จ่าฝูงชั่วคราวอยู่ 3 แต้ม ศุภสิน กล่าวว่า “เราจะพยายามเกาะกลุ่มไปเรื่อยๆ แต่จะไปถึงตำแหน่งแชมป์หรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับผลงาน อย่างไรก็ดี เราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด แม้ช่วงนี้จะมีโปรแกรมเตะสิงคโปร์ คัพ ซึ่งวันจันทร์ต้องเดินทางเพื่อลงเตะในวันพุธ แต่รายการนี้ใช้ตัวสำรองเล่นเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว และเราก็จัดลำดับความสำคัญให้ไทยลีกมาก่อน ตามด้วย เอฟเอ คัพ และสิงคโปร์ คัพ จึงไม่น่ามีผลกระทบกับทีม”
ขณะที่ สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือทีมเมืองแม่กลองกล่าวหลังเกมโดยพูดถึงจังหวะที่เสียจุดโทษอันเป็นลูกตัดสินเกมว่า “แม้ศักยภาพของเราจะมีไม่มากเท่าพวกเขา แต่เราก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทีมระดับ 6 ล้านบาทสามารถสู้กับทีมระดับ 30 ล้านบาทได้อย่างสูสี น่าเสียดายที่มาแพ้เพราะลูกจุดโทษ ซึ่งหลายเกมก่อนหน้านี้ผมแทบไม่เคยโทษผู้ตัดสินแต่วันนี้ผมขอตำหนิบ้าง ช่วงที่เรานำผู้ตัดสินก็แทบไม่เป่าให้ แต่พอเราตามหลังถึงเริ่มเป่าให้เรา จังหวะที่เราฟาวล์แล้วโดนใบเหลืองแต่พอเขาฟาวล์บ้างกลับไม่ให้ ผมคิดว่ามันไม่ค่อยยุติธรรม”
พร้อมกันนี้ “น้าฉ่วย” ยังพูดถึงระบบตลาดนักเตะที่ปิดตัวลงตั้งแต่ก่อนเริ่มเลกสองจนไม่สามารถเสริมทัพแก้ปัญหาของทีมได้ว่า “บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ไม่เปิดโอกาสให้สโมสรได้เสริมทัพในช่วงเลกสองซึ่งถือว่าเป็นข้อผิดพลาด เท่าที่เห็นไม่มีลีกไหนเป็นอย่างนี้เลย ความจริงแล้วควรจะยืดช่วงเวลาปิดตลาดออกไปหลังเข้าสู่เลกสองได้หนึ่งเดือน ซึ่งหากเราได้งบมาหลังจากนี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว”
