สตีฟ สตริกเกอร์ เร่งเครื่องคว้าแชมป์ดอยช์ท แบงก์ แชมเปียนชิป มาครอง พร้อมกับทำคะแนนในตารางเฟดเอ็กซ์ คัพ แซงหน้า “พญาเสือ” ไทเกอร์ วูดส์ ขึ้นไปรั้งอันดับ 1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การแข่งขันกอล์ฟรายการ “ดอยช์ท แบงก์ แชมเปียนชิป” ทัวร์นาเมนท์ที่ 2 ของศึกเพลย์ออฟ เฟดเอ็กซ์ คัพ ชิงเงินรางวัล 7 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 255 ล้านบาท) ณ สนาม ทีพีซี บอสตัน ระยะ 7,304 หลา พาร์ 71 รัฐแมสซาชูเซตต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อคืนวันจันทร์ดำเนินมาถึงการดวลวงสวิงตัดสินกันในรอบสุดท้าย
ปรากฏว่าวันสุดท้ายเต็มไปด้วยความสนุกตื่นเต้นเมื่อมีนักกอล์ฟผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นมานำบนลีดเดอร์บอร์ดถึง 8 คนด้วยกัน ด้วยสกอร์ที่ขึ้นหน้ากันเพียงแค่สโตรกเดียว แต่สุดท้ายเป็น สตีฟ สตริกเกอร์ โปรวัย 42 ปีชาวอเมริกัน มาโชว์ทีเด็ดสองหลุมสุดท้ายทำให้ เจสัน ดัฟเนอร์ และ สกอตต์ เวอร์แพลงค์ ที่จบไปก่อนรออยู่ในคลับเฮาส์ไม่ต้องออกมาดวลเพลย์ออฟให้เปลืองแรง
โดย สตริกเกอร์ ซึ่งเก้าหลุมหลังเงียบฉี่มาได้เบอร์ดี้ถูกที่ถูกเวลาในหลุมที่ 17 จากการพัตต์ระยะ 15 ฟุตลงไปอย่างแข็งแรงทำให้สกอร์รวมขยับเป็น 16 อันเดอร์พาร์ เท่ากับทั้ง ดัฟเนอร์ และ เวอร์แพลงค์ (ที่จบไปก่อนหน้านี้) ในหลุมสุดท้าย พาร์ 5 สตริกเกอร์ ตีช็อตที่สองแรงไปนิดลูกตกไปจมมิดอยู่ที่ขอบกรีน แต่ยอดโปรจากวิสคอนซิน โชว์การชิปมาตกห่างจากหลุมแค่ 2 ฟุต ก่อนเก็บเบอร์ดี้ง่ายที่สุดของวันลงไป พร้อมกับผงาดคว้าแชมป์ไปครองด้วยสกอร์ 17 อันเดอร์พาร์
จากชัยชนะรายการนี้ทำให้ สตริกเกอร์ รับเงินรางวัลไป 1.35 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 46 ล้านบาท) เป็นแชมป์รายการที่ 3 ของปี ขยับขึ้นมือ 2 ของโลกซึ่งเป็นอันดับสูงสุดในอาชีพที่เคยมาถึง ที่สำคัญแซงหน้า ไทเกอร์ วูดส์ ขึ้นอันดับ 1 ในตารางเฟดเอ็กซ์ คัพ มีคะแนนเหนือกว่าก้านเหล็กเบอร์ 1 ของโลก 909 แต้ม
ภายหลังการแข่งขัน สตริกเกอร์ ให้สัมภาษณ์ในเบื้องต้นกับ “เอพี” สื่อชั้นนำ “มันเป็นวันที่ยากลำบากทีเดียว นักกอล์ฟหลายคนสลับกันขึ้นมานำ และผมแค่ต้องหาทางทำอะไรให้ได้ ผมรู้ดีว่าต้องได้เบอร์ดี้ทั้งสองหลุมสุดท้าย ซึ่งมันก็มีความหมายมากจริงๆ”
ด้านของ ดัฟเนอร์ รอบสุดท้ายฟอร์มดีเก็บไปถึง 6 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมเป็น 16 อันเดอร์พาร์ จบเท่ากับ เวอร์แพลงค์ ซึ่งวันนี้มีโชว์ชิปอีเกิ้ลจากขอบฟริงก์ และก็ได้เบอร์ดี้ใน 4 หลุมสุดท้ายทั้งหมด โดยทั้งคู่รับเงินรางวัลไปคนละ 660,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 22 ล้านบาท) ส่วน ดัสติน จอห์นสัน, อังเคล คาเบร์รา (อาร์เจนตินา) และ พาแดรก แฮร์ริงตัน (ไอร์แลนด์) เก็บไปคนละ 15 อันเดอร์พาร์ จบในอันดับ 4 ร่วม
สำหรับ จอห์น โอแฮร์, รีทีฟ กูเซน (แอฟริกาใต้) อีกสองผู้นำร่วมหลังจบวันที่สาม หล่นมาจบอันดับ 8 ร่วมกับ จิม ฟิวริก ที่สกอร์ 13 อันเดอร์พาร์ ขณะที่ ไทเกอร์ รอบสุดท้ายเค้นฟอร์มสุดฤทธิ์เก็บไปถึง 8 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมมี 12 อันเดอร์พาร์ ได้ที่ 11 ร่วมกับ จอห์น เซนเดน, เจอร์รี เคลลี และ เควิน นา ภายหลัง “พญาเสือ” รับสภาพกับ “เอพี” สื่อชั้นนำทำนองรู้ตัวว่ามาช้าเกินไป “แน่นอน จุดที่ผมยืนอยู่ไม่สามารถขึ้นไปเป็นแชมป์ได้ แม้ถ้าผมทำสกอร์ได้ 60 หรืออะไรก็เถอะ”
การแข่งขันกอล์ฟรายการ “ดอยช์ท แบงก์ แชมเปียนชิป” ทัวร์นาเมนท์ที่ 2 ของศึกเพลย์ออฟ เฟดเอ็กซ์ คัพ ชิงเงินรางวัล 7 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 255 ล้านบาท) ณ สนาม ทีพีซี บอสตัน ระยะ 7,304 หลา พาร์ 71 รัฐแมสซาชูเซตต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อคืนวันจันทร์ดำเนินมาถึงการดวลวงสวิงตัดสินกันในรอบสุดท้าย
ปรากฏว่าวันสุดท้ายเต็มไปด้วยความสนุกตื่นเต้นเมื่อมีนักกอล์ฟผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นมานำบนลีดเดอร์บอร์ดถึง 8 คนด้วยกัน ด้วยสกอร์ที่ขึ้นหน้ากันเพียงแค่สโตรกเดียว แต่สุดท้ายเป็น สตีฟ สตริกเกอร์ โปรวัย 42 ปีชาวอเมริกัน มาโชว์ทีเด็ดสองหลุมสุดท้ายทำให้ เจสัน ดัฟเนอร์ และ สกอตต์ เวอร์แพลงค์ ที่จบไปก่อนรออยู่ในคลับเฮาส์ไม่ต้องออกมาดวลเพลย์ออฟให้เปลืองแรง
โดย สตริกเกอร์ ซึ่งเก้าหลุมหลังเงียบฉี่มาได้เบอร์ดี้ถูกที่ถูกเวลาในหลุมที่ 17 จากการพัตต์ระยะ 15 ฟุตลงไปอย่างแข็งแรงทำให้สกอร์รวมขยับเป็น 16 อันเดอร์พาร์ เท่ากับทั้ง ดัฟเนอร์ และ เวอร์แพลงค์ (ที่จบไปก่อนหน้านี้) ในหลุมสุดท้าย พาร์ 5 สตริกเกอร์ ตีช็อตที่สองแรงไปนิดลูกตกไปจมมิดอยู่ที่ขอบกรีน แต่ยอดโปรจากวิสคอนซิน โชว์การชิปมาตกห่างจากหลุมแค่ 2 ฟุต ก่อนเก็บเบอร์ดี้ง่ายที่สุดของวันลงไป พร้อมกับผงาดคว้าแชมป์ไปครองด้วยสกอร์ 17 อันเดอร์พาร์
จากชัยชนะรายการนี้ทำให้ สตริกเกอร์ รับเงินรางวัลไป 1.35 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 46 ล้านบาท) เป็นแชมป์รายการที่ 3 ของปี ขยับขึ้นมือ 2 ของโลกซึ่งเป็นอันดับสูงสุดในอาชีพที่เคยมาถึง ที่สำคัญแซงหน้า ไทเกอร์ วูดส์ ขึ้นอันดับ 1 ในตารางเฟดเอ็กซ์ คัพ มีคะแนนเหนือกว่าก้านเหล็กเบอร์ 1 ของโลก 909 แต้ม
ภายหลังการแข่งขัน สตริกเกอร์ ให้สัมภาษณ์ในเบื้องต้นกับ “เอพี” สื่อชั้นนำ “มันเป็นวันที่ยากลำบากทีเดียว นักกอล์ฟหลายคนสลับกันขึ้นมานำ และผมแค่ต้องหาทางทำอะไรให้ได้ ผมรู้ดีว่าต้องได้เบอร์ดี้ทั้งสองหลุมสุดท้าย ซึ่งมันก็มีความหมายมากจริงๆ”
ด้านของ ดัฟเนอร์ รอบสุดท้ายฟอร์มดีเก็บไปถึง 6 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมเป็น 16 อันเดอร์พาร์ จบเท่ากับ เวอร์แพลงค์ ซึ่งวันนี้มีโชว์ชิปอีเกิ้ลจากขอบฟริงก์ และก็ได้เบอร์ดี้ใน 4 หลุมสุดท้ายทั้งหมด โดยทั้งคู่รับเงินรางวัลไปคนละ 660,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 22 ล้านบาท) ส่วน ดัสติน จอห์นสัน, อังเคล คาเบร์รา (อาร์เจนตินา) และ พาแดรก แฮร์ริงตัน (ไอร์แลนด์) เก็บไปคนละ 15 อันเดอร์พาร์ จบในอันดับ 4 ร่วม
สำหรับ จอห์น โอแฮร์, รีทีฟ กูเซน (แอฟริกาใต้) อีกสองผู้นำร่วมหลังจบวันที่สาม หล่นมาจบอันดับ 8 ร่วมกับ จิม ฟิวริก ที่สกอร์ 13 อันเดอร์พาร์ ขณะที่ ไทเกอร์ รอบสุดท้ายเค้นฟอร์มสุดฤทธิ์เก็บไปถึง 8 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมมี 12 อันเดอร์พาร์ ได้ที่ 11 ร่วมกับ จอห์น เซนเดน, เจอร์รี เคลลี และ เควิน นา ภายหลัง “พญาเสือ” รับสภาพกับ “เอพี” สื่อชั้นนำทำนองรู้ตัวว่ามาช้าเกินไป “แน่นอน จุดที่ผมยืนอยู่ไม่สามารถขึ้นไปเป็นแชมป์ได้ แม้ถ้าผมทำสกอร์ได้ 60 หรืออะไรก็เถอะ”