อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซนอล ยังไม่หายแค้น ออกโรงจวก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นฟุตบอลในสไตล์ที่น่ารังเกียจ คือไล่ตัดเกมทำฟาวล์เพียงอย่างเดียว บอกหน้าตาเฉยเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ยิ่งกว่าการพุ่งล้มเอาจุดโทษของ เอดูอาร์โด ดา ซิลวา กองหน้าโครแอต ในสังกัดเสียอีก
ควันหลงเกมพรีเมียร์ชิป อังกฤษ นัด “ซูเปอร์บิ๊กแมตช์” เมื่อวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พลิกชนะ อาร์เซนอล 2-1 เวนเกอร์ นายใหญ่ “ปืนโต” คาใจในหลายๆ ประเด็น โดยเฉพาะการไล่ตัดเกมของนักเตะเจ้าถิ่นรายหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะเป็น ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์
“ผมเห็นนักเตะคนหนึ่งลงไปในสนามเพื่อทำฟาวล์เพียงอย่างเดียว สำหรับผมถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าการพุ่งล้ม มีหลายคนฟาวล์แล้วไม่ถูกลงโทษเลย แน่นอนผมคิดว่าเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจมากกว่าการกระทำของ เอดูอาร์โด เสียอีก” เวนเกอร์ เผย
นายใหญ่ชาวฝรั่งเศสกล่าวเสริมอย่างหัวเสียอีกว่า “ในเกมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มีการตั้งใจทำฟาวล์เกิดขึ้นหลายครั้ง นี่ถือเป็นปัญหาใหญ่ในวงการฟุตบอล เพราะทำให้เกมหยุดชะงักขาดความต่อเนื่อง ทุกคนต้องการซื้อตั๋วเข้ามาดูเกมการเล่นที่สวยงามไม่ใช่ฟรีคิก”
เวนเกอร์มองว่า อาร์เซนอลน่าจะได้จุดโทษจากการที่ เฟลตเชอร์ ทำฟาวล์ อังเดร อาร์ชาวิน ก่อนที่แนวรุกทีมชาติรัสเซีย จะมายิงให้อาร์เซนอล นำ 1-0 จากนั้น แมนฯยู มาตีเสมอจากจุดโทษของ เวย์น รูนีย์ ที่ถูก มานูเอล อัลมูเนีย รวบล้มลง และเป็นเจ้าถิ่นที่พลิกชนะไปได้จากการทำเข้าประตูตัวเองของ อาบู ดิอาบี
ก่อนหน้านี้ในเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ นัดสอง เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมามีประเด็นเมื่อ เอดูอาร์โด กองหน้าของอาร์เซนอล ล้มในเขตโทษจนได้ประตูขึ้นนำในชัยชนะ 3-1 พร้อมผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-1 โดยมีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้ลงโทษดาวยิงโครแอต เนื่องจากตบตากรรมการ