ASTVผู้จัดการรายวัน - แกรนด์สแลมส่งท้ายปี "ยูเอส โอเพน 2009" เตรียมเปิดฉากรอบแรกคืนนี้(31 ส.ค.) ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน ณ สังเวียน ฟลัชชิง เมโดวส์ โดยเต็งแชมป์รายการนี้จากการวิเคราะห์ของสื่อทุกสำนักได้แก่ "คุณพ่อลูกอ่อน" โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ มือ 1 ของโลกชาวสวิสเซอร์แลนด์ ขณะที่ แอนดี เมอร์เรย์ มือ 2 ของโลกคนใหม่จากสกอตแลนด์ มีโอกาสสอดแทรกขึ้นมานับหนึ่ง "แกรนด์สแลมแรก" หลังจากผลงานในปี 2009 ยกระดับขึ้นมายอดเยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเล่นอาชีพ
ระยะเวลา 8 เดือนของฤดูกาล 2009 เฟเดอเรอร์ และ เมอร์เรย์ เป็นสองนักเทนนิสที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงที่สุด โดย "เฟดเอ็กซ์" นั้นมีสถิติชนะ 47 แพ้ 7 แมตช์และสามารถคว้าแชมป์ เฟรนช์ โอเพน สมัยแรก รวมถึง วิมเบิลดัน 2009 ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์แชมป์แกรนด์สแลมสูงสุด 15 สมัย นอกจากนี้ยังครองแชมป์ มาดริด มาสเตอร์ส และ ซินซิเนติ มาสเตอร์ส เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ด้าน เมอร์เรย์ วัย 22 ปีฟิตซ้อมมาเป็นอย่างดีในช่วงปิดซีซันจนสามารถเก็บชัยชนะได้ถึง 53 และแพ้ 8 แมตช์ คว้าแชมป์ 5 รายการรวมถึง "โรเจอร์ส คัพ" ที่ มอนทรีออล เมื่อกลางเดือนสิงหาคมซึ่งทำให้เขาแซงหน้า ราฟาเอล นาดาล ขึ้นมาเป็นมือ 2 ของโลกได้ในที่สุด
ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของ "แร็กเกตมือ 1 และ 2 ของโลก" รวมถึง นาดาล ซึ่งเข้าถึงรอบตัดเชือกเมื่อปี 2008 ได้ออกมาปัดโอกาสลุ้นแชมป์รายการนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ วิลเลียม ฮิลล์ บ่อนถูกกฎหมายของอังกฤษค่อนข้างมั่นใจว่า เมอร์เรย์ มีโอกาสสูงเข้าชิงฯกับ เฟเดอเรอร์ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ถึงขนาดเปิดอัตราต่อรองให้ร่วมสนุกไว้ที่ 11/4 คือ แทง 4 จ่าย 11 ไม่รวมทุน
โดย เฟเดอเรอร์ วัย 28 ปี ซึ่งพ่วง เมียร์กา ภรรยาและ ชาร์ลีน กับ มีร์ลา ลูกสาวฝาแฝดวัยเพียง 1 เดือนเศษมาอยู่ที่ นิวยอร์ก ด้วยกันออกมาเผยความมั่นใจก่อนลงล่าแชมป์ ยูเอส โอเพน สมัยที่ 6 ติดต่อกันว่า "การได้ลูกสาวฝาแฝดทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่และพร้อมแล้วที่จะไล่ล่าความสำเร็จอีกครั้ง ผมเชื่อว่าตนเองจะทำผลงานยอดเยี่ยมใน ยูเอส โอเพนเหมือน 5 ปีที่ผ่านมาซึ่งผมได้รับแรงสนับสนุนอย่างดีจากชาวเมืองนิวยอร์กมมาโดยตลอด"
ด้าน "รองแชมป์เก่า" เมอร์เรย์ ที่มี "เฮดทูเฮด" ชนะ 6 แพ้ 3 เหนือ "เฟดเอ็กซ์" พร้อมพกสถิติชนะ 34 แพ้ 3 แมตช์บนฮาร์ดคอร์ตในปี 2009 ยอดเยี่ยมที่สุดในบรรดาหวดเอทีพีออกมาเผยบ้างว่า "ยูเอส โอเพน ถือเป็นแกรนด์สแลมที่ผมโปรดปรานที่สุด พื้นฮาร์ดคอร์ตที่นี่ (เดโก เทิร์ฟ ทู) เข้ากับสไตล์การเล่นของผม เมื่อปี 2008 ผมทะลุเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้เพราะยังเด็กเกินไป แต่ตลอด 12 เดือนที่ผ่านมาผมได้รับประสบการณ์เพิ่มขึ้นอีกมากซึ่งคิดว่าน่าจะเพียงพอแล้วที่จะทำให้ฝันเป็นจริง"
ขณะที่ จอห์น แม็คเอนโร ตำนานอเมริกันอดีตแชมป์ ยูเอส โอเพน 4 สมัยซึ่งปัจจุบันรับงานบรรยายเทนนิสออกมาแสดงทัศนะได้อย่างสนใจว่า "เฟเดอเรอร์ จะไม่ได้แชมป์ในปีนี้ สาเหตุเพราะเขาเริ่มอิ่มตัวกับความสำเร็จหลังจากได้แชมป์ เฟรนช์ โอเพน และ วิมเบิลดัน จนทำลายสถิติ 14 สแลมของ พีต แซมพราส โดยแชมป์ในปีนี้ตามความเห็นของผมน่าจะเป็น เมอร์เรย์ เพราะหนุ่มคนนี้เชี่ยวชาญการเล่นบนฮาร์ดคอร์ตอีกทั้งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความกระหายที่จะคว้าแชมป์แกรนด์สแลมสมัยแรก"
ทั้งนี้ เฟเดอเรอร์ เตรียมลงประเดิมสนามชายเดี่ยว ยูเอส โอเพน รอบแรกคืนวันนี้(31ส.ค.) พบกับ เดวิน บริตตัน รูกกีวัย 18 ปีจากสหรัฐฯ ขณะที่ เมอร์เรย์ รอวัดฝีมือกับ เออร์เนสต์ กูลบีส คู่ปรับเก่าจาก ลัตเวีย ในวันอังคาร(1ก.ย.) หากแร็กเกตหนุ่มสกอตสามารถเก็บชัย 7 แมตช์รวดคว้าแชมป์มาครองจะเป็นการ "นับหนึ่ง" แชมป์สแลมแรกด้วยวัยเพียงแค่ 22 ปี แต่หากถ้วยชายเดี่ยว "สแลมนิวยอร์ก" ตกเป็นของ "เฟดเอ็กซ์" อีกสมัยจะทำให้หวดเทพชาวสวิสกลายเป็นนักเทนนิสคนที่ 9 ในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์หลังกลายเป็นคุณพ่อ พร้อมตอกย้ำ "ความยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล" (Greatest of All Time) ด้วยตำแหน่งแชมป์แกรนด์สแลมสูงสุด 16 สมัย
