คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
การชิงชัยศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) นอกจากภารกิจหักหาญคู่แข่งให้ศิโรราบ บางครั้งอยู่ทีมเดียวกันยังต้องชิงดีชิงเด่นเพื่อผลักดันให้ตัวเองเป็น “เบอร์ 1” ในตำแหน่งนั้นๆ ซึ่งขึ้นชื่อว่า “การแข่งขัน” ย่อมมีทั้งผลดีและร้าย นี่แหละวิถีทางแห่งความเป็นกีฬาอาชีพ
เหลือแค่สองสัปดาห์กีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุดแดนมะกันอย่าง NFL จะระเบิดศึกฤดูกาล 2009/10 กันแล้ว แต่ช่วงนี้นอกจากนำทีมลงซ้อมแผนปรับจูนความเข้าใจ เค้นความฟิตในพรีซีซัน หัวหน้าโค้ชหลายคนยังมีภารกิจสำคัญให้ตัดสินใจ นั่นก็คือการเลือกว่าใครจะเป็น “ควอเตอร์แบ็กตัวจริง” นำทีมลงสู่สนาม
ในแคมป์ มินเนโซตา ไวกิงส์ การมาของ เบร็ตต์ ฟาร์ฟ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า แบรด ชิลเดรสส์ วางไว้แล้วว่าจะให้ควอเตอร์แบ็กกระดูกเหล็กวัย 39 ปี ลงนำทัพ นั่นเป็นการบั่นทอนกำลังใจของ ทาร์วาริส แจ็คสัน และ เซจ โรเซนเฟลส์ ไม่น้อย อุตส่าห์มุ่งมั่นแข่งกันแทบตาย สุดท้ายโดน ฟาร์ฟ ซึ่งเข้าเทรนนิงแคมป์ล่าช้า 2 อาทิตย์ชิงงานตัวจริงไปซะงั้น แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อ ชิลเดรสส์ มีภารกิจใหญ่ในการนำทีมขยับถึง “ซูเปอร์โบว์ล” ให้จงได้ภายในระยะเวลา 2 ปี
ส่วนทีมที่มีการชิงชัยหา “จอมทัพ” เริ่มทยอยประกาศชื่อเบอร์ 1 ในทีมบุกกันแล้ว โดย ไมค์ ซิงเกิลแทรี ยังคงไม่ไว้วางใจ อเล็กซ์ สมิธ อดีต “นัมเบอร์วัน ดราฟท์” ปี 2005 อยู่ดี จึงยื่นโอกาสให้ ชอน ฮิลล์ นำทัพ ขณะที่ ทอม เคเบิล เชื่อมั่นในพลังแขน จามาร์คัส รัสเซลล์ มากกว่าความเก๋าของ เจฟฟ์ การ์เซีย ในการพา โอคแลนด์ เรดเดอร์ส สลัดฝันร้ายในรอบ 10 ปีให้หลุดไปเสียที
ขณะที่หลายทีมยังขอใช้เวลาถึงเฮือกสุดท้ายในการวางเดิมพันไว้กับใครสักคน โดย จิม ชวาร์ตซ กำลังชั่งใจว่าจะเสี่ยงส่ง แม็ทธิว สแตฟฟอร์ด ดราฟท์คนแรกปี 2009 ลงลุยกันเลย หรือเลือกประสบการณ์ของ ดันเต คัลเพพเพอร์ ผู้เล่นเข่าเปราะไปพลางๆ ก่อน ด้าน นิวยอร์ก เจ็ตส์ เรียกได้ว่า เคลเลน คลีเมนส์ กับ มาร์ค ซานเชซ ใครเด่นกว่ากันในพรีซีซันคงชนะใจ เร็กซ์ ไรอัน ในท้ายที่สุด
แต่ที่น่าคิดหนักเห็นจะหนีไม่พ้น ราฮีม มอร์ริส โค้ชคนหนุ่ม แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส เพราะตัวเลือกอย่าง บายรอน เลฟท์วิช, จอช ฟรีแมน หรือว่า ลุค แม็คคาวน์ ไม่น่าพิสมัยสักคน เช่นเดียวกับสถานการณ์ในถิ่น “ม้าป่า” เดนเวอร์ บรองโกส์ การขาดหายไปของ เจย์ คัตเลอร์ ที่ถูกเทรดไปอยู่กับ ชิคาโก แบร์ส ทิ้งรอยโหว่ให้ จอช แม็คแดเนียลส์ ต้องเร่งประสานเป็นการด่วน ทว่า ไคล์ ออร์ตัน เริ่มต้นกับต้นสังกัดใหม่ก็โดนแฟนโห่เสียแล้ว ขณะที่ คริส ซิมม์ส ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ตามประวัติไม่เคยมีอะไรโดดเด่นในอาชีพเลย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจบพรีซีซันวีคที่ 3 สุดสัปดาห์นี้ เฟรนไชส์ข้างต้นเหล่านี้คงต้องรู้แล้วว่าใครจะเป็นผู้นำทีมบุกลงแข่งฤดูกาลใหม่ ถ้าขืนยังเก็บงำความลับเอาไว้ ไขปัญหาไม่ออกว่าจะเอาอย่างไรดี นอกจากความลงตัวที่ล้าหลังกว่าชาวบ้าน มันยังกัดกร่อนโอกาสปีนป่ายขึ้นไปประสบความสำเร็จสูงสุดของทีมด้วย
การชิงชัยศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) นอกจากภารกิจหักหาญคู่แข่งให้ศิโรราบ บางครั้งอยู่ทีมเดียวกันยังต้องชิงดีชิงเด่นเพื่อผลักดันให้ตัวเองเป็น “เบอร์ 1” ในตำแหน่งนั้นๆ ซึ่งขึ้นชื่อว่า “การแข่งขัน” ย่อมมีทั้งผลดีและร้าย นี่แหละวิถีทางแห่งความเป็นกีฬาอาชีพ
เหลือแค่สองสัปดาห์กีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุดแดนมะกันอย่าง NFL จะระเบิดศึกฤดูกาล 2009/10 กันแล้ว แต่ช่วงนี้นอกจากนำทีมลงซ้อมแผนปรับจูนความเข้าใจ เค้นความฟิตในพรีซีซัน หัวหน้าโค้ชหลายคนยังมีภารกิจสำคัญให้ตัดสินใจ นั่นก็คือการเลือกว่าใครจะเป็น “ควอเตอร์แบ็กตัวจริง” นำทีมลงสู่สนาม
ในแคมป์ มินเนโซตา ไวกิงส์ การมาของ เบร็ตต์ ฟาร์ฟ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า แบรด ชิลเดรสส์ วางไว้แล้วว่าจะให้ควอเตอร์แบ็กกระดูกเหล็กวัย 39 ปี ลงนำทัพ นั่นเป็นการบั่นทอนกำลังใจของ ทาร์วาริส แจ็คสัน และ เซจ โรเซนเฟลส์ ไม่น้อย อุตส่าห์มุ่งมั่นแข่งกันแทบตาย สุดท้ายโดน ฟาร์ฟ ซึ่งเข้าเทรนนิงแคมป์ล่าช้า 2 อาทิตย์ชิงงานตัวจริงไปซะงั้น แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อ ชิลเดรสส์ มีภารกิจใหญ่ในการนำทีมขยับถึง “ซูเปอร์โบว์ล” ให้จงได้ภายในระยะเวลา 2 ปี
ส่วนทีมที่มีการชิงชัยหา “จอมทัพ” เริ่มทยอยประกาศชื่อเบอร์ 1 ในทีมบุกกันแล้ว โดย ไมค์ ซิงเกิลแทรี ยังคงไม่ไว้วางใจ อเล็กซ์ สมิธ อดีต “นัมเบอร์วัน ดราฟท์” ปี 2005 อยู่ดี จึงยื่นโอกาสให้ ชอน ฮิลล์ นำทัพ ขณะที่ ทอม เคเบิล เชื่อมั่นในพลังแขน จามาร์คัส รัสเซลล์ มากกว่าความเก๋าของ เจฟฟ์ การ์เซีย ในการพา โอคแลนด์ เรดเดอร์ส สลัดฝันร้ายในรอบ 10 ปีให้หลุดไปเสียที
ขณะที่หลายทีมยังขอใช้เวลาถึงเฮือกสุดท้ายในการวางเดิมพันไว้กับใครสักคน โดย จิม ชวาร์ตซ กำลังชั่งใจว่าจะเสี่ยงส่ง แม็ทธิว สแตฟฟอร์ด ดราฟท์คนแรกปี 2009 ลงลุยกันเลย หรือเลือกประสบการณ์ของ ดันเต คัลเพพเพอร์ ผู้เล่นเข่าเปราะไปพลางๆ ก่อน ด้าน นิวยอร์ก เจ็ตส์ เรียกได้ว่า เคลเลน คลีเมนส์ กับ มาร์ค ซานเชซ ใครเด่นกว่ากันในพรีซีซันคงชนะใจ เร็กซ์ ไรอัน ในท้ายที่สุด
แต่ที่น่าคิดหนักเห็นจะหนีไม่พ้น ราฮีม มอร์ริส โค้ชคนหนุ่ม แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส เพราะตัวเลือกอย่าง บายรอน เลฟท์วิช, จอช ฟรีแมน หรือว่า ลุค แม็คคาวน์ ไม่น่าพิสมัยสักคน เช่นเดียวกับสถานการณ์ในถิ่น “ม้าป่า” เดนเวอร์ บรองโกส์ การขาดหายไปของ เจย์ คัตเลอร์ ที่ถูกเทรดไปอยู่กับ ชิคาโก แบร์ส ทิ้งรอยโหว่ให้ จอช แม็คแดเนียลส์ ต้องเร่งประสานเป็นการด่วน ทว่า ไคล์ ออร์ตัน เริ่มต้นกับต้นสังกัดใหม่ก็โดนแฟนโห่เสียแล้ว ขณะที่ คริส ซิมม์ส ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ตามประวัติไม่เคยมีอะไรโดดเด่นในอาชีพเลย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจบพรีซีซันวีคที่ 3 สุดสัปดาห์นี้ เฟรนไชส์ข้างต้นเหล่านี้คงต้องรู้แล้วว่าใครจะเป็นผู้นำทีมบุกลงแข่งฤดูกาลใหม่ ถ้าขืนยังเก็บงำความลับเอาไว้ ไขปัญหาไม่ออกว่าจะเอาอย่างไรดี นอกจากความลงตัวที่ล้าหลังกว่าชาวบ้าน มันยังกัดกร่อนโอกาสปีนป่ายขึ้นไปประสบความสำเร็จสูงสุดของทีมด้วย
