“ไอ้ตู่” ปากพาจน ก้าวร้าว “อำพล” ไล่พ้นองคมนตรี อ้างพูดอคติใส่ร้าย “พ่อแม้ว” แถมปากยาวลามปามไปถึง “ป๋าเปรม-สุรยุทธ์” ซัดองคมนตรีสำเหนียกคดีกล้ายางจนพ้นผิด กล่าวหาหลัง 19 ก.ย.ไม่เคยได้เข้าเฝ้าฯ เป็นการส่วนพระองค์ ลั่นนาทีนี้ยังชุมนุม 5 ก.ย.เย้ยแน่จริงให้เปิดคลิปเสียง “มาร์ค” เมินไม่จำเป็นต้องคุยกับ “จักรภพ” ไล่ “สุรชัย” ทบทวนตัวเอง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายจตุพร พรหมพันธุ์ แถลงข่าว
วันนี้ (3 ก.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.00 น.นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่ม นปช.แถลงว่า นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี ปาฐกถาหลายประเด็นลักษณะเหมือนการใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายอำพล ไม่ควรเป็นองคมนตรีอีกต่อไป เพราะพูดแบบอคติและใส่ร้าย องคมนตรีบางคนก็ชอบพูดว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง วันนี้ นายอำพล ควรไปดูว่าทำไม พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ถึงสามารถครอบครองที่ดินเขายายเที่ยงได้ เพราะที่หลวงยังไงก็เป็นที่หลวงอยู่วันยังค่ำ ป่าสงวนก็เป็นป่าสงวนอยู่ดี ส่วนกรณีที่บอกว่าไม่อยากรวยนั้น อยากถามว่า ทำไม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จึงเป็นที่ปรึกษาบริษัท ซีพี ธนาคารกรุงเทพ และบริษัท ไทยเบฟฯ ได้ และตรงนี้มีการเสียภาษีด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ เรื่องนี้ยังโยงมาถึงคดีกล้ายางที่มีข่าวหลุดออกมาว่า 8 ต่อ 1 ด้วย องคมนตรีสำเหนียกเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ เรื่องการยื่นถวายฎีกานั้น ไม่เกี่ยวกับองคมนตรี เพราะคนเสื้อแดงข้ามหัวองคมนตรีบางคนไปตั้งนานแล้ว ยิ่งองคมนตรีมาเล่นการเมือง ยิ่งมีแต่จะสร้างความระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยมีพระราชดำรัส ขณะเสด็จพระราชดำเนินเปิดทำเนียบองคมนตรี มีใจความว่า “องคมนตรีเป็นที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์ จึงมีหน้าที่ให้คำปรึกษาในทุกด้านทุกอย่าง แต่ถ้าองคมนตรีแนะนำคนอื่นเป็นการแนะนำส่วนตัว ไม่ใช่ในฐานะองคมนตรี” ดังนั้นนายอำพล ต้องระมัดระวังคำพูด วันนี้สิ่งที่ นายอำพล ทำควรเป็นหน้าที่ของพรรคที่เป็นคู่แข่งกัน ถ้าพูดแรงๆ ก็คือ นายอำพล มีอะไรแตกต่างจาก นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บ้าง วันนี้ นายอำพล ก็ยอมรับว่า เป็นอำมาตย์ และการยื่นถวายฎีกาของคนเสื้อแดง นายอำพลก็ออกมาให้ความเห็นแย้ง ทำไมไม่รอพระบรมราชวินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอำพล มีความใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน ดังนั้น การออกมาพูดเรื่องนี้เหมือนเป็นการส่งสัญญาณเรื่องการถวายฎีกาด้วยหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า องคมนตรีที่มาคลุกคลีกับการเมือง รวมทั้งทำเนียบองคมนตรีที่แตกแยกเป็นหลายฝ่ายนั้น ทำให้ไม่น่าเชื่อถือ ถ้าหากบอกว่าได้รับสั่งมาก็ขอให้พูดมา และตนรู้มาว่า หลัง 19 ก.ย.เป็นต้นมา พล.อ.เปรม ไม่เคยได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์เลย ในวันเกิดทำความดีอย่างเดียว คือ เปลี่ยนชื่อบ้านไร้กังวลเป็นบ้านแม่ทัพ เพราะเป็นการล้อตำหนักไกลกังวล
นายจตุพร ยังกล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 5 ก.ย.ด้วยว่า ขณะนี้มติของที่ประชุมยังคงให้มีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 5 ก.ย.โดยในวันที่ 4 ก.ย.เวลา 13.00 น.จะแถลงข่าวเรื่องความพร้อม เมื่อรัฐบาลพยายามจะเล่นเกมชิงไหวชิงพริบเราก็จะรอดูอาการของรัฐบาลก่อน ส่วนคนที่จะมาร่วมชุมนุมด้วยนั้น ยืนยันว่า มีวิธีการติดต่อแบบฉับพลันได้แน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะนำคลิปเสียงของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไปเปิดในวันชุมนุมด้วยหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ถ้า นายอภิสิทธิ์ ไม่มีวาระซ่อนเร้นจริง ก็ควรให้เปิดในสภา เพราะจะได้เป็นการชี้แจงไปด้วย แต่หากเป็นความจริงนายกฯจะต้องถูกดำเนินคดีฐานสั่งฆ่าประชาชน วันนี้ยิ่งไม่ให้เปิดประชาชนก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้น ดังนั้น เมื่ออ้างว่าเป็นการตัดต่อแล้วเหตุใดจึงไม่ให้เปิด เพราะคำพูดแบบนี้ออกจากปากคนเป็นนายกฯไม่ได้ ต้องออกมาจากปากฆาตกรฆ่าประชาชน
ส่วนหากรัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงในวันที่ 4 ก.ย.จะทำอย่างไร นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าประกาศวันที่ 4 ก.ย.เราก็จะเลื่อนไปอีก ยกเว้นว่ารัฐบาลประกาศวันที่ 5 ก.ย.ก็ต้องดูอีกทีจะทำอย่างไร เพราะว่าเรามากันแล้ว
นายจตุพร กล่าวถึงกรณีที่ นายจักรภพ เพ็ญแข ระบุว่า ต้องการคุยเพื่อทำความเข้าใจกับ 3 เกลอ เพื่อให้การเคลื่อนไหวเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ว่า ตนไม่รู้ว่าเป้าหมายเดียวกันของนายจักรภพคืออะไร แต่การวิพากษ์วิจารณ์ผ่านบทความ 8 ครั้งนั้น มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยหรือ ง่ายไปหรือเปล่า ไม่ใช่ใส่ร้ายเสร็จก็เคลียร์กันทีเดียว ตราบใดที่คุณก็ยังไม่หยุดแล้วจะมาคุยอะไร ตนเล่นลิเกเหมือนใครเขาไม่ได้ ตนไม่ใช่นักแสดง การต่อสู้นั้น ถ้าประชาชนไม่เอาด้วยก็กลับบ้านก็จบ มาอภิปรายดัดจริตในที่สาธารณะแล้วจะมาบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถามว่าแล้ว 8 ครั้งนั้นคืออะไร บอกว่า การถวายฎีกาเหมือนเล่นละครลิง หลอก พ.ต.ท.ทักษิณ ให้กลับมาตาย ตรงนี้คุณต้องหยุดให้เห็นก่อน ตนเป็นคนที่ไม่ใช่อะไรก็ได้ จริงอยู่วันนี้นายจักรภพเป็นน้อง แต่ตนก็เป็นคนเหมือนกัน วันหนึ่งตบหัวพรุ่งนี้จะมาบอกไม่มีอะไรมาดีกัน ซึ่งเท่าที่คุยกับ นายวีระ และ นายณัฐวุฒิ นั้น ต่างเห็นว่าขณะนี้ไม่มีความจำเป็น
สำหรับกรณีที่ นายสุรชัย ระบุว่า ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มานำคนเสื้อแดงเองนั้น นายจตุพร กล่าวว่า นายสุรชัย เคยพูดว่า เอา พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นแกนนำโค่นล้มอำมาตย์ เสร็จแล้วก็โค่น พ.ต.ท.ทักษิณ อีกที ยังจำได้หรือไม่ นายสุรชัย ต้องทบทวนตัวเองก่อน และไม่มีใครจะไปหลอกใคร พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ใหญ่พอ รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร วันนี้ขอให้นายสุรชัยหาความสำราญขายหมวกต่อไปเถอะ ขอให้ตั้งกลุ่มแดงสยามให้เสร็จก่อน ส่วนกรณีที่ระบุว่า กลุ่ม 3 เกลอนั้น ไม่เคยฟังใคร ตรงนั้นเป็นส่วนเฉพาะรายการความจริงวันนี้ แต่ในส่วนของกลุ่ม นปช.มีการสัมมนาพูดคุยกันเพียงแต่ นายสุรชัย ไม่อยู่ด้วย จึงไม่รู้ว่าเราคิดอะไรกัน ส่วนที่ท้าให้ฟ้องก็จะสนองให้ ไม่มีปัญหา