"หยาง ยอง อึน" คนปราบ "เสือ"

ASTV ผู้จัดการรายวัน –หยาง ยอง อึน โปรวัย 37 ปี ชาวเกาหลีใต้กลายเป็นนักกอล์ฟจากเอเชียรายแรกที่คว้าแชมป์เมเจอร์จากรายการพีจีเอแชมเปียนชิป หลังระเบิดวงสวิง ด้วยการขึ้นนำตั้งแต่หลุม 14 จากลูกชิปอินระยะ 60 ฟุต และ ก่อนปิดท้ายด้วยการ พัตต์เบอร์ดี้ในหลุมที่ 18 ดับฝัน ไทเกอร์ วูดส์ ที่หวังจะครองถ้วยวานาเมคเกอร์เป็นสมัยที่ 5 โดยโปรหมายเลขหนึ่งโลกออกมายอมรับว่าเกมพัตต์ของตนเองในการแข่งขันวันสุดท้ายคือปัญหาสำคัญ

กอล์ฟเมเจอร์ลำดับสุดท้ายของปี 2009 รายการพีจีเอ แชมเปียนชิป ชิงเงินรางวัลรวม 7.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 262.5 ล้านบาท) ที่สนามฮาเซลไทน์ เนชันแนล กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,674 หลา พาร์ 72 ในรัฐมินเนโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันรอบสุดท้าย

โดย ไทเกอร์ วูดส์ ซึ่งขึ้นนำตั้งแต่วันแรกของการแข่งขัน ออกรอบกลุ่มเดียวกับ หยาง ยอง อึน โปรชาวเกาหลีใต้ ที่ทำสกอร์จนไล่ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่สองร่วมกับพาแดรก แฮร์ริงตัน มีสกอร์ตาราหลังผู้นำอยู่สองสโตรก และจุดพลิกผันของเกมเกิดขึ้นในหลุมที่ 14 เมื่อโปรจากเกาหลีใต้สามารถชิปอิน ขึ้นกรีน ก่อนจะพัตต์อีเกิล ทำให้เจ้าตัวพลิกขึ้นมาเป็นผู้นำด้วยสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ ส่วน วูดส์ ซึ่งสกอร์รวมเหลือ 7 อันเดอร์พาร์ ตกไปอยู่อันดับ 2

      ซึ่งการเล่นใน 4 หลุมสุดท้าย หยาง ทำ 1 เบอร์ดี และ 1 โบกี ทำให้สกอร์รวมคงเดิมที่ 8 อันเดอร์พาร์ แต่ วูดส์ พลาดเสียโบกีใน 2 หลุมสุดท้ายส่งให้โปรชาวเกาหลีคว้าแชมป์พีจีเอ แชมเปียนชิป ไปครองได้สำเร็จ พร้อมรับเงินรางวัล 1.35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 44 ล้านบาท)และกลายเป็นนักกอล์ฟจากเอเชียรายแรกที่สามารถคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์มาครองได้สำเร็จ

วูดส์ ซึ่งถูกหยาง ดับฝันที่จะครองแชมป์ยูเอสพีจีเอแชมเปียนชิปเป็นสมัยที่ 5 และ สะสมเมเจอร์ครั้งที่ 15 กล่าวถึงความสำเร็จของโปรชาวเกาหลีว่า "หากคุณมองคุณสมบัติในตัว หยาง ยอง อึน ต้องยอมรับว่าเป็นผู้เล่นที่สามารถควบคุมลูกได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังมีอาวุธเด็ดก็คือ ลูกพัตต์ที่คมกริบที่สำคัญคือการเริ่มต้นทำสกอร์ของ หยาง ในวันสุดท้ายนั้นทำได้ดีมาก เล่นได้ตามแผนที่วางไว้ แชมป์ครั้งนี้จึงตกเป็นของเขาโดยมิต้องสงสัย "

ขณะที่ วูดส์ นั้นทำผลงานในการพัตต์ได้ไม่ดีนัก กล่าวถึงความผิดพลาดของตนเองว่า “ทุกอย่างดูแย่ไปหมดบนพื้นกรีน นี่คือผลงานที่น่าผิดหวังเพราะขึ้นนำมาตั้งแต่สามวันแรก แต่วันสุดท้ายผลกลับทำทุกอย่างพังหมด ผมยอมรับว่าวันนี้ลูกไดรฟ์ของตนเองทำงานมากกว่าลูกพัตต์เสียด้วยซ้ำ

โดยผลงานวันสุดท้าย วูดส์ เริ่มต้นด้วยสกอร์ที่นำคู่แข่งอยู่ 2 สโตรก และพลาด พัตต์เบอร์ดี้ 3 ครั้ง จากระยะ 10 - 12 ฟุต ที่สำคัญ "พญาเสือ" ยังมาพลาดลูกพัตต์ ระยะ 12 หลา เพื่อเซฟพาร์ ในหลุมที่ 17 อันเป็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้สกอร์ของโปรหมายเลขหนึ่งโลกขึ้นมานำร่วมกับโปรชาวเกาหลีทันที

นอกจากจะไม่สามารถสร้างสถิติคว้าเมเจอร์พีจีเอแชมเปียนชิปได้เป็นสมัยที่ 5 แล้วนี่คือฤดูกาลแรกนับตั้งแต่ปี 2004 ที่ “พญาเสือ” ต้องปิดฤดูกาลของตนเองโดยไม่มีแชมป์เมเจอร์ ติดมือเลยแม้แต่รายการเดียว และยังทำให้สถิติเพื่อเทียบเท่า “หมีทองคำ” แจ็ก นิกคลอส ยังคงต้องรอต่อไปอีกอย่างน้อยหนึ่งฤดูกาล