แคทริโอนา แม็ทธิว กลายเป็นโปรหญิงชาวสกอตติชคนแรกที่ผงาดคว้าแชมป์รายการเมเจอร์มาครอง หลังประสบความสำเร็จสูงสุดในการแข่งขันกอล์ฟ ริโกห์ วีเมนส์ บริทิช โอเพน
กอล์ฟเมเจอร์ลำดับสุดท้ายของแอลพีจีเอทัวร์ รายการริโกห์ วีเมนส์ บริทิช โอเพน ชิงเงินรางวัลรวม 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 77 ล้านบาท) ที่สนามรอยัล ไลแธม แอนด์ เซนต์ แอนน์ส ระยะ 6,492 หลา พาร์ 72 ในแคว้นแลงคาเชียร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์เป็นการดวลวงสวิงในรอบสุดท้าย
ปรากฏว่า แคทริโอนา แม็ทธิว ในตำแหน่งผู้นำหลังจบรอบที่สาม เจอกับความกดดันเสียไปก่อนถึง 3 โบกี้ (หลุม 1, 3 และ 10) แต่มาได้เบอร์ดี้สำคัญ 3 หลุมติดตั้งแต่หลุมที่ 13 แม้จะเสียอีกหนึ่งโบกี้ในหลุมที่ 17 เท่ากับวันนี้เกินไป 1 โอเวอร์พาร์ แต่สกอร์รวม 4 วัน ก้านเหล็กวัย 39 ปี ทำมาได้ 3 อันเดอร์พาร์ ดีพอสำหรับการขึ้นไปคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ รับเงินรางวัลไป 335,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 11 ล้านบาท)
โดย แม็ทธิว ทิ้ง แคร์รี เว็บ อดีตแชมป์เมื่อปี 2002 สามสโตรกด้วยกัน ซึ่งรอบนี้โปรชาวออสเตรเลียนทำผลงานดีที่สุดประจำวัน 4 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมกลับมาจบที่อีเวนพาร์ กระโดดขึ้นมาจบอันดับ 2 พร้อมได้เงินติดกระเป๋ากลับบ้านไป 210,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7 ล้านบาท)
ภายหลังการแข่งขัน แม็ทธิว ซึ่งเมื่อ 11 สัปดาห์ก่อนได้ให้กำเนิด โซฟี บุตรคนที่สอง ออกมาสัมภาษณ์ผ่าน “รอยเตอร์ส” สื่อชั้นนำ “ฉันยังรู้สึกตกตะลึงกับทั้งหมดที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้มันเหลือเชื่อที่ฉันกลายเป็นแชมป์ระดับเมเจอร์”
นอกจากนี้ แม็ทธิว ที่ได้ฉลองวันเกิดล่วงหน้าครบ 40 ปี (วันที่ 25 ส.ค.นี้) กล่าวถึงกุญแจสำคัญในรอบสุดท้าย “ด้วยความสัตย์จริง ฉันเล่นได้ไม่ดีเลยในวันนี้ แต่การพัตต์เบอร์ดี้ในหลุมที่ 13 และ 14 รวมถึงสองช็อตอันยอดเยี่ยมจนไปถึงกรีนบนหลุม 15 ทำให้ฉันชนะได้ในวันนี้”
ก่อนหน้านี้ แม็ทธิว เขยิบใกล้ตำแหน่งแชมป์เมเจอร์ที่สุด คือปี 2007 ที่ได้รองแชมป์คราฟท์ นาบิสโก แชมเปียนชิป ซึ่งตอนนั้นเธอเพิ่งให้กำเนิด เคที บุตรสาวคนแรกในวัยเพียง 3 เดือน
ส่วนผลงานของก้านเหล็กรายอื่นๆ “พิงค์ แพนเธอร์” พอลลา เครเมอร์ ดาวรุ่งชาวอเมริกันจบ 1 โอเวอร์พาร์ ได้อันดับ 3 ร่วมกับโปรชั้นนำอย่าง ฮาน ฮี วอน (เกาหลีใต้), ไอ มิยาซาโตะ (ญี่ปุ่น) และ คริสตินา คิม สาวร่างท้วม ด้าน ชิน จีไย แชมป์เก่าจากเกาหลีใต้ คว้าอันดับ 8 ร่วมไปครองกับ คริสตี เคอร์ และ ชอย นา ยอน ที่สกอร์ 3 โอเวอร์พาร์
ขณะที่ มิเชล วี ขวัญใจหนุ่มๆ ขุนฟอร์มในวันสุดท้ายเก็บมา 3 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมกลับมาเป็น 4 โอเวอร์พาร์ กระโดดขึ้นมาจบที่ 11 ร่วมกับ มาเรีย ฮยอร์ธ (สวีเดน), กิอูเลีย เซอร์กาส (อิตาลี), มิกะ มิยาซาโตะ (ญี่ปุ่น) รวมถึงสองก้านเหล็กจากแดนกิมจิอย่าง ปาร์ค ฮี ยอง และ คิม ซอง ฮี สำหรับโปรดังอย่าง เจิง หยานี, ปัก เซ รี หรือว่า แองเจลา สแตนฟอร์ด จบที่ 20 ร่วม สกอร์ 6 โอเวอร์พาร์ ลอเรนา โอชัว มือ 1 ของโลกจากเม็กซิโก สกอร์เกิน 10 โอเวอร์พาร์ จบที่ 28 ร่วม
กอล์ฟเมเจอร์ลำดับสุดท้ายของแอลพีจีเอทัวร์ รายการริโกห์ วีเมนส์ บริทิช โอเพน ชิงเงินรางวัลรวม 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 77 ล้านบาท) ที่สนามรอยัล ไลแธม แอนด์ เซนต์ แอนน์ส ระยะ 6,492 หลา พาร์ 72 ในแคว้นแลงคาเชียร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์เป็นการดวลวงสวิงในรอบสุดท้าย
ปรากฏว่า แคทริโอนา แม็ทธิว ในตำแหน่งผู้นำหลังจบรอบที่สาม เจอกับความกดดันเสียไปก่อนถึง 3 โบกี้ (หลุม 1, 3 และ 10) แต่มาได้เบอร์ดี้สำคัญ 3 หลุมติดตั้งแต่หลุมที่ 13 แม้จะเสียอีกหนึ่งโบกี้ในหลุมที่ 17 เท่ากับวันนี้เกินไป 1 โอเวอร์พาร์ แต่สกอร์รวม 4 วัน ก้านเหล็กวัย 39 ปี ทำมาได้ 3 อันเดอร์พาร์ ดีพอสำหรับการขึ้นไปคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ รับเงินรางวัลไป 335,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 11 ล้านบาท)
โดย แม็ทธิว ทิ้ง แคร์รี เว็บ อดีตแชมป์เมื่อปี 2002 สามสโตรกด้วยกัน ซึ่งรอบนี้โปรชาวออสเตรเลียนทำผลงานดีที่สุดประจำวัน 4 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมกลับมาจบที่อีเวนพาร์ กระโดดขึ้นมาจบอันดับ 2 พร้อมได้เงินติดกระเป๋ากลับบ้านไป 210,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7 ล้านบาท)
ภายหลังการแข่งขัน แม็ทธิว ซึ่งเมื่อ 11 สัปดาห์ก่อนได้ให้กำเนิด โซฟี บุตรคนที่สอง ออกมาสัมภาษณ์ผ่าน “รอยเตอร์ส” สื่อชั้นนำ “ฉันยังรู้สึกตกตะลึงกับทั้งหมดที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้มันเหลือเชื่อที่ฉันกลายเป็นแชมป์ระดับเมเจอร์”
นอกจากนี้ แม็ทธิว ที่ได้ฉลองวันเกิดล่วงหน้าครบ 40 ปี (วันที่ 25 ส.ค.นี้) กล่าวถึงกุญแจสำคัญในรอบสุดท้าย “ด้วยความสัตย์จริง ฉันเล่นได้ไม่ดีเลยในวันนี้ แต่การพัตต์เบอร์ดี้ในหลุมที่ 13 และ 14 รวมถึงสองช็อตอันยอดเยี่ยมจนไปถึงกรีนบนหลุม 15 ทำให้ฉันชนะได้ในวันนี้”
ก่อนหน้านี้ แม็ทธิว เขยิบใกล้ตำแหน่งแชมป์เมเจอร์ที่สุด คือปี 2007 ที่ได้รองแชมป์คราฟท์ นาบิสโก แชมเปียนชิป ซึ่งตอนนั้นเธอเพิ่งให้กำเนิด เคที บุตรสาวคนแรกในวัยเพียง 3 เดือน
ส่วนผลงานของก้านเหล็กรายอื่นๆ “พิงค์ แพนเธอร์” พอลลา เครเมอร์ ดาวรุ่งชาวอเมริกันจบ 1 โอเวอร์พาร์ ได้อันดับ 3 ร่วมกับโปรชั้นนำอย่าง ฮาน ฮี วอน (เกาหลีใต้), ไอ มิยาซาโตะ (ญี่ปุ่น) และ คริสตินา คิม สาวร่างท้วม ด้าน ชิน จีไย แชมป์เก่าจากเกาหลีใต้ คว้าอันดับ 8 ร่วมไปครองกับ คริสตี เคอร์ และ ชอย นา ยอน ที่สกอร์ 3 โอเวอร์พาร์
ขณะที่ มิเชล วี ขวัญใจหนุ่มๆ ขุนฟอร์มในวันสุดท้ายเก็บมา 3 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมกลับมาเป็น 4 โอเวอร์พาร์ กระโดดขึ้นมาจบที่ 11 ร่วมกับ มาเรีย ฮยอร์ธ (สวีเดน), กิอูเลีย เซอร์กาส (อิตาลี), มิกะ มิยาซาโตะ (ญี่ปุ่น) รวมถึงสองก้านเหล็กจากแดนกิมจิอย่าง ปาร์ค ฮี ยอง และ คิม ซอง ฮี สำหรับโปรดังอย่าง เจิง หยานี, ปัก เซ รี หรือว่า แองเจลา สแตนฟอร์ด จบที่ 20 ร่วม สกอร์ 6 โอเวอร์พาร์ ลอเรนา โอชัว มือ 1 ของโลกจากเม็กซิโก สกอร์เกิน 10 โอเวอร์พาร์ จบที่ 28 ร่วม
