คอลัมน์ ON TRACK โดย เด็กปั๊ม
ทันทีที่ได้เห็นภาพอุบัติเหตุของเฟลิเป มาสซา นักซิ่งเฟอร์รารี ที่พุ่งจนกำแพงยางอย่างจัง ในการขับรอบควอลิฟาย ของศึกฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา บอกตามตรงครับว่า ไม่คิดเลยว่าอาการของรองแชมป์โลกเอฟวันปี 2008 จะหนักหนาจนต้องรักษาตัวอยู่ในไอซียูจนถึงเวลานี้
เนื่องจากภาพที่รถเฟอร์รารี F60 ของมาสซาพุ่งชนกำแพงยาง คือภาพชินตาสำหรับแฟนๆเอฟวันในช่วง 10 ปีหลัง เพราะนั่นคือหนทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับนักขับ ดีกว่าการที่จะหักพวงมาลัยจนอาจทำให้รถเสียหลัก และที่สำคัญกำแพงที่มียางรถยนต์วางรองรับอยู่ถึง 5 ชั้น คือสิ่งที่ช่วยลดแรกกระแทกได้เป็นอย่างดี
ฉะนั้นวูบแรกที่ได้เห็นภาพอุบัติเหตุ ผมคิดว่าอาการของมาสซาอย่างเลวร้ายที่สุดก็น่าจะขาหัก เหมือนกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ที่สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ ในปี 1999 ทว่าทำไปทำมาต้นเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ใช่การพุ่งซัดกำแพงยางแต่อย่างใด
เพราะที่มาของการชนมันสยองกว่าที่คิดมาก เนื่องจากมาสซาที่ขับรถมาด้วยความเร็วร่วม 200 กม./ชม. ถูกสปริงที่หนักเกือบ 1 กิโลกรัม ที่หลุดมาจากรถของรูเบนส์ บาร์ริเคลโล ลอยมาฟาดหมวกกันน็อคจนทะลุไปถูกเบ้าตาซ้าย ซึ่งตามข่าวบอกว่าถึงขั้นกะโหลกร้าวเลยทีเดียว ก่อนที่จะเสียการควบคุมรถจนต้องปล่อยพุ่งชนกำแพงในที่สุด
ลองคิดดูว่าหากเราถูกค้อนเหล็กลอยมาด้วยความเร็ว 200 กม./ชม.อัดเข้าเต็มๆจะเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าพูดให้เห็นภาพก็ไม่ต่างอะไรกับชะตากรรมของผู้ขับขี่ที่ถูกเล่นงานจากแก็งค์ปาหินบ้านเราเลยจริงๆ เผลอๆงานนี้อาจจะหนักกว่าด้วยซ้ำไป
งานนี้นักซิ่งบราซิเลียน ได้กระความกระทบกระเทือนทางสมองแน่นอน และไม่น่าจะหายกลับมาทันแข่งสนามที่เหลือในฤดูกาลนี้ ทำให้มีข่าวลือว่าเฟอร์รารีจะไปดึง มิชาเอล ชูมัคเกอร์ กลับมาขับอีกครั้ง ทว่าในความเป็นจริงแล้วโอกาสน้อยมากครับที่ชูมีจะคัมแบ็ค เพราะม้าลำพองยังมีมาร์ค เจเน นักขับมือ 3 ที่จ่อคิวอยู่แล้วหาก 2 นักขับตัวจริงไม่พร้อม
พูดถึงเจเน นึกขึ้นมาได้ว่าผมเองเคยสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวมาแล้ว เมื่อครั้งนักขับสแปนิช เดินทางมาเปิดตัวน้ำมัน เชื้อเพลิงยี่ห้อหนึ่งในบ้านเราเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในวันนั้นเขายังพูดอยู่เลยว่าทั้งมาสซาและคิมี ไรค์โคเนน คือ 2 นักขับที่ดีที่สุดของวงการในเวลานี้
น่าเสียดายครับมากครั้งหากมาสซาจะต้องยุติเส้นทางนักขับอาชีพที่ยังไม่ถึงฝั่งฝันในวัยเพียง 28 ปี เอาเป็นว่าในฐานะแฟนเอฟวันก็ได้แต่หวังว่าการบาดเจ็บของเขาจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด และกลับคืนสู่แทร็กได้อีกครั้งในเร็ววันนี้
ทันทีที่ได้เห็นภาพอุบัติเหตุของเฟลิเป มาสซา นักซิ่งเฟอร์รารี ที่พุ่งจนกำแพงยางอย่างจัง ในการขับรอบควอลิฟาย ของศึกฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา บอกตามตรงครับว่า ไม่คิดเลยว่าอาการของรองแชมป์โลกเอฟวันปี 2008 จะหนักหนาจนต้องรักษาตัวอยู่ในไอซียูจนถึงเวลานี้
เนื่องจากภาพที่รถเฟอร์รารี F60 ของมาสซาพุ่งชนกำแพงยาง คือภาพชินตาสำหรับแฟนๆเอฟวันในช่วง 10 ปีหลัง เพราะนั่นคือหนทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับนักขับ ดีกว่าการที่จะหักพวงมาลัยจนอาจทำให้รถเสียหลัก และที่สำคัญกำแพงที่มียางรถยนต์วางรองรับอยู่ถึง 5 ชั้น คือสิ่งที่ช่วยลดแรกกระแทกได้เป็นอย่างดี
ฉะนั้นวูบแรกที่ได้เห็นภาพอุบัติเหตุ ผมคิดว่าอาการของมาสซาอย่างเลวร้ายที่สุดก็น่าจะขาหัก เหมือนกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ที่สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ ในปี 1999 ทว่าทำไปทำมาต้นเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ใช่การพุ่งซัดกำแพงยางแต่อย่างใด
เพราะที่มาของการชนมันสยองกว่าที่คิดมาก เนื่องจากมาสซาที่ขับรถมาด้วยความเร็วร่วม 200 กม./ชม. ถูกสปริงที่หนักเกือบ 1 กิโลกรัม ที่หลุดมาจากรถของรูเบนส์ บาร์ริเคลโล ลอยมาฟาดหมวกกันน็อคจนทะลุไปถูกเบ้าตาซ้าย ซึ่งตามข่าวบอกว่าถึงขั้นกะโหลกร้าวเลยทีเดียว ก่อนที่จะเสียการควบคุมรถจนต้องปล่อยพุ่งชนกำแพงในที่สุด
ลองคิดดูว่าหากเราถูกค้อนเหล็กลอยมาด้วยความเร็ว 200 กม./ชม.อัดเข้าเต็มๆจะเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าพูดให้เห็นภาพก็ไม่ต่างอะไรกับชะตากรรมของผู้ขับขี่ที่ถูกเล่นงานจากแก็งค์ปาหินบ้านเราเลยจริงๆ เผลอๆงานนี้อาจจะหนักกว่าด้วยซ้ำไป
งานนี้นักซิ่งบราซิเลียน ได้กระความกระทบกระเทือนทางสมองแน่นอน และไม่น่าจะหายกลับมาทันแข่งสนามที่เหลือในฤดูกาลนี้ ทำให้มีข่าวลือว่าเฟอร์รารีจะไปดึง มิชาเอล ชูมัคเกอร์ กลับมาขับอีกครั้ง ทว่าในความเป็นจริงแล้วโอกาสน้อยมากครับที่ชูมีจะคัมแบ็ค เพราะม้าลำพองยังมีมาร์ค เจเน นักขับมือ 3 ที่จ่อคิวอยู่แล้วหาก 2 นักขับตัวจริงไม่พร้อม
พูดถึงเจเน นึกขึ้นมาได้ว่าผมเองเคยสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวมาแล้ว เมื่อครั้งนักขับสแปนิช เดินทางมาเปิดตัวน้ำมัน เชื้อเพลิงยี่ห้อหนึ่งในบ้านเราเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในวันนั้นเขายังพูดอยู่เลยว่าทั้งมาสซาและคิมี ไรค์โคเนน คือ 2 นักขับที่ดีที่สุดของวงการในเวลานี้
น่าเสียดายครับมากครั้งหากมาสซาจะต้องยุติเส้นทางนักขับอาชีพที่ยังไม่ถึงฝั่งฝันในวัยเพียง 28 ปี เอาเป็นว่าในฐานะแฟนเอฟวันก็ได้แต่หวังว่าการบาดเจ็บของเขาจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิด และกลับคืนสู่แทร็กได้อีกครั้งในเร็ววันนี้