ผองเพื่อนและสาวก เทนเนสซี ไตตันส์ แห่มาร่วมพิธีไว้อาลัย สตีฟ แม็คแนร์ อดีตควอเตอร์แบ็กจอมอึดแห่งศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตามวัน-เวลาท้องถิ่น
สตีฟ แม็คแนร์ ได้กลับมายังโบสถ์เมาท์ ซิออง บัปติสท์ ที่ซึ่งเขามักมาทำพิธีกรรมต่างๆ บ่อยครั้ง นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่แนชวิลล์ เมื่อปี 1997 แต่คราวนี้กลายเป็นเพื่อนๆ ต้องมาช่วยกันยกโลงศพของเขามาประทับต่อหน้าบาทหลวง หลังเสียชีวิตลงด้วยวัย 36 ปี จากการถูก ชาเฮล คาเซมี แฟนสาววัย 20 ปี ยิงเสียชีวิต (ก่อนที่เธอจะฆ่าตัวตายตาม) เมื่อวันชาติสหรัฐฯ (4 กรกฎาคม)
โดย บาทหลวง โจเซปห์ ดับเบิลยู.วอล์คเกอร์ พูดต่อหน้าผู้เข้าร่วมงานศพครั้งนี้หลักพันคน รวมถึงสมาชิกในครอบครัวแม็คแนร์, อดีตเพื่อนร่วมทีม และแฟนๆ “จากนี้คงต้องหยุดที่จะเขียนอะไรเกี่ยวกับ สตีฟ แม็คแนร์ หยุดที่จะมีถ้อยคำใดถึงใครบางคน หยุดที่จะทำอะไรในทวิสเตอร์ หยุดอะไรที่คุณจะนำไปคุยกันในร้านตัดผม หรือร้านเสริมสวย ตลอดทางที่คุณเดินไปทุกมุมถนน ขอให้หยุดเรื่องนี้เอาไว้ อะไรที่คุณรู้จักเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้คือ เขารักในพระเจ้า ผู้ชายคนนี้ก็เหมือนๆ กับเรา คือไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ”
ซึ่งในงานพิธีศพเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าวันพฤหัสบดี เริ่มมีการถ่ายทอดสดบรรยากาศตั้งแต่บรรจุร่างอันไร้วิญญาณของ แม็คแนร์ ลงในหีบศพสีเงินที่บ้านก่อนเดินทางมายังโบสถ์ โดยสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น 3 จาก 4 ช่องรับหน้าเสื่อในการถ่ายทอดสดครั้งนี้ด้วย ส่วนงานฝ่ายจัดได้นำรูปขนาดใหญ่ครั้ง “แอร์ แม็คแนร์” รับตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ร่วมเมื่อปี 2003 มาโชว์ตระหง่านอยู่ด้วย
ด้านครอบครัว แม็คแนร์ ส่งสาสน์แสดงความขอบคุณถึงผู้มาร่วมงาน “วันนี้เราได้สูญเสีย เราเป็นทุกข์ เราเจ็บปวด แต่เราจำในสิ่งที่ได้รับจากผองเพื่อนและคนที่เรารัก พวกเขาเต็มไปด้วยพลังและการปลอบประโลมครอบครัวของเรา ณ เวลานี้”
ในงานดังกล่าวนอกจากแฟนๆ ที่แห่แหนมาไว้อาลัยฮีโร่ของพวกเขาเป็นครั้งสุดท้ายกว่า 4,500 คนรายรอบโบสถ์ บัด อดัมส์ เจ้าของทีมไตตันส์, ฟิล เบรเดเซน ฝ่ายปกครองของเทนเนสซี รวมถึง คาร์ล ดีน นายกเทศมนตรีแนชวิลล์ ให้เกียรติมาร่วมงานด้วย เช่นเดียวกับ เจฟฟ์ ฟิสเชอร์ หัวหน้าโค้ชไตตันส์ หรือว่า เอ็ดดี จอร์จ อดีตรันนิงแบ็กคู่ใจของ แม็คแนร์
ฟิสเชอร์ เผยถึงศิษย์รัก “เท้าไม่ต้องมาปักลงสู่สนามหญ้า ไม่ต้องถูกแซ็คอีกแล้ว ไม่ต้องมาพะวงกับเรื่องอาการเจ็บที่ไหล่ กลัวโดนอินเทอร์เซปต์ หรือว่าต้องขว้างให้ได้ทัชดาวน์เท่านั้น ผมมาที่นี่เพื่อคิดถึงคุณหมายเลข 9 (เบอร์ประจำของ แม็คแนร์)”
ส่วน จอร์จ กล่าวสั้นๆ ถึงเพื่อนรัก “คุณเป็นนักสู้ที่ดี ชีวิตคุณแค่เริ่มต้นเท่านั้น”
สำหรับแฟนๆ จีน ไรอัน ซึ่งมารอก่อนประตูโบสถ์เปิดราว 2 ชั่วโมง เผยกับ “เอพี” สื่อชั้นนำ “ฉันรัก สตีฟ (แม็คแนร์) เขาเป็นบุรุษที่งดงาม ฉันจะไม่จดจำการเสียชีวิตของเขา แต่ฉันจะจำสิ่งที่เขาทำอันยอดเยี่ยมให้แก่ไตตันส์และสังคม”
สุดท้าย เดอร์ริค ลูอิส ซึ่งสวมเสื้อแข่งไตตันส์ มาเป็นเกียรติให้ผู้จากไปเผยบ้าง “ผมและครอบครัวตกตะลึงและร้องไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะคุณเกือบจะรู้สึกเลยว่า สตีฟ (แม็คแนร์) เป็นส่วนหนึ่งของเราเสมอ ผมจะจดจำเรื่องที่ดีของเขา สิ่งใดที่เขาทำไว้ให้แก่ไตตันส์และต่อสังคม ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอก”
สตีฟ แม็คแนร์ ได้กลับมายังโบสถ์เมาท์ ซิออง บัปติสท์ ที่ซึ่งเขามักมาทำพิธีกรรมต่างๆ บ่อยครั้ง นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่แนชวิลล์ เมื่อปี 1997 แต่คราวนี้กลายเป็นเพื่อนๆ ต้องมาช่วยกันยกโลงศพของเขามาประทับต่อหน้าบาทหลวง หลังเสียชีวิตลงด้วยวัย 36 ปี จากการถูก ชาเฮล คาเซมี แฟนสาววัย 20 ปี ยิงเสียชีวิต (ก่อนที่เธอจะฆ่าตัวตายตาม) เมื่อวันชาติสหรัฐฯ (4 กรกฎาคม)
โดย บาทหลวง โจเซปห์ ดับเบิลยู.วอล์คเกอร์ พูดต่อหน้าผู้เข้าร่วมงานศพครั้งนี้หลักพันคน รวมถึงสมาชิกในครอบครัวแม็คแนร์, อดีตเพื่อนร่วมทีม และแฟนๆ “จากนี้คงต้องหยุดที่จะเขียนอะไรเกี่ยวกับ สตีฟ แม็คแนร์ หยุดที่จะมีถ้อยคำใดถึงใครบางคน หยุดที่จะทำอะไรในทวิสเตอร์ หยุดอะไรที่คุณจะนำไปคุยกันในร้านตัดผม หรือร้านเสริมสวย ตลอดทางที่คุณเดินไปทุกมุมถนน ขอให้หยุดเรื่องนี้เอาไว้ อะไรที่คุณรู้จักเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้คือ เขารักในพระเจ้า ผู้ชายคนนี้ก็เหมือนๆ กับเรา คือไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ”
ซึ่งในงานพิธีศพเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าวันพฤหัสบดี เริ่มมีการถ่ายทอดสดบรรยากาศตั้งแต่บรรจุร่างอันไร้วิญญาณของ แม็คแนร์ ลงในหีบศพสีเงินที่บ้านก่อนเดินทางมายังโบสถ์ โดยสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น 3 จาก 4 ช่องรับหน้าเสื่อในการถ่ายทอดสดครั้งนี้ด้วย ส่วนงานฝ่ายจัดได้นำรูปขนาดใหญ่ครั้ง “แอร์ แม็คแนร์” รับตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ร่วมเมื่อปี 2003 มาโชว์ตระหง่านอยู่ด้วย
ด้านครอบครัว แม็คแนร์ ส่งสาสน์แสดงความขอบคุณถึงผู้มาร่วมงาน “วันนี้เราได้สูญเสีย เราเป็นทุกข์ เราเจ็บปวด แต่เราจำในสิ่งที่ได้รับจากผองเพื่อนและคนที่เรารัก พวกเขาเต็มไปด้วยพลังและการปลอบประโลมครอบครัวของเรา ณ เวลานี้”
ในงานดังกล่าวนอกจากแฟนๆ ที่แห่แหนมาไว้อาลัยฮีโร่ของพวกเขาเป็นครั้งสุดท้ายกว่า 4,500 คนรายรอบโบสถ์ บัด อดัมส์ เจ้าของทีมไตตันส์, ฟิล เบรเดเซน ฝ่ายปกครองของเทนเนสซี รวมถึง คาร์ล ดีน นายกเทศมนตรีแนชวิลล์ ให้เกียรติมาร่วมงานด้วย เช่นเดียวกับ เจฟฟ์ ฟิสเชอร์ หัวหน้าโค้ชไตตันส์ หรือว่า เอ็ดดี จอร์จ อดีตรันนิงแบ็กคู่ใจของ แม็คแนร์
ฟิสเชอร์ เผยถึงศิษย์รัก “เท้าไม่ต้องมาปักลงสู่สนามหญ้า ไม่ต้องถูกแซ็คอีกแล้ว ไม่ต้องมาพะวงกับเรื่องอาการเจ็บที่ไหล่ กลัวโดนอินเทอร์เซปต์ หรือว่าต้องขว้างให้ได้ทัชดาวน์เท่านั้น ผมมาที่นี่เพื่อคิดถึงคุณหมายเลข 9 (เบอร์ประจำของ แม็คแนร์)”
ส่วน จอร์จ กล่าวสั้นๆ ถึงเพื่อนรัก “คุณเป็นนักสู้ที่ดี ชีวิตคุณแค่เริ่มต้นเท่านั้น”
สำหรับแฟนๆ จีน ไรอัน ซึ่งมารอก่อนประตูโบสถ์เปิดราว 2 ชั่วโมง เผยกับ “เอพี” สื่อชั้นนำ “ฉันรัก สตีฟ (แม็คแนร์) เขาเป็นบุรุษที่งดงาม ฉันจะไม่จดจำการเสียชีวิตของเขา แต่ฉันจะจำสิ่งที่เขาทำอันยอดเยี่ยมให้แก่ไตตันส์และสังคม”
สุดท้าย เดอร์ริค ลูอิส ซึ่งสวมเสื้อแข่งไตตันส์ มาเป็นเกียรติให้ผู้จากไปเผยบ้าง “ผมและครอบครัวตกตะลึงและร้องไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะคุณเกือบจะรู้สึกเลยว่า สตีฟ (แม็คแนร์) เป็นส่วนหนึ่งของเราเสมอ ผมจะจดจำเรื่องที่ดีของเขา สิ่งใดที่เขาทำไว้ให้แก่ไตตันส์และต่อสังคม ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอก”
