โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักเทนนิสมือ 2 ของโลกชาวสวิสเซอร์แลนด์ มั่นใจว่าจะเอาชนะ แอนดี รอดดิก มือ 6 ของรายการจากสหรัฐฯได้อีกครั้งพร้อมกลับไปครองบัลลังก์มือ 1 โลกในวันจันทร์นี้(6ก.ค.) และเดินหน้าไขว่คว้าความสำเร็จต่อไป
ก่อนหน้านี้ "เฟดเอ็กซ์" ครองความเป็นมือ 1 ของโลกเทนนิสมานานถึง 237 สัปดาห์นับตั้งแต่ปี 2004 กระทั่งถูก "คู่แค้นฟ้าลิขิต" ราฟาเอล นาดาล ปล้นแชมป์วิมเบิลดัน พร้อมกับแย่งมือ 1 โลกไปครองได้สำเร็จเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2008 ทว่าใน วิมเบิลดัน 2009 หวดดุจากสเปนบาดเจ็บถอนตัวไปส่งผลให้ เฟเดอเรอร์ ทางสะดวกในการคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 6 และกลับไปเป็นมือ 1 โลกเป็นคำรบที่ 2 ในวันจันทร์นี้(6ก.ค.) เมื่อโคจรมาพบกับ แอนดี รอดดิก "งูเหลือมกับเชือกกล้วย" ซึ่งพ่ายแพ้เเร็กเกตเทพจากสวิสมา 18 จาก 20 แมตช์ที่พบกัน
โดยก่อนการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ วิมเบิลดัน ครั้งที่ 123 ใน เซนเตอร์ คอร์ต จะเริ่มเวลา 20.00น. วันนี้(5ก.ค.) เฟดเอ็กซ์ วัย 27 ปีออกมากล่าวผ่าน "นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์" สื่อดังแดนผู้ดีว่า "ผมเล่นกับ รอดดิก มา 20 ครั้งทำให้รู้ทุกองค์ประกอบในเกมการเล่นของเขา ซึ่งต้องขอเอ่ยปากชมว่า รอดดิก พัฒนาสไตล์การเล่นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2003 เขามักจะปักหลักท้ายคอร์ตและรับลูกเสิร์ฟไกลๆ พอปี 2004 เริ่มเล่นหน้าเนตมากขึ้น ส่วนลูกเสิร์ฟของเขาสุดยอดที่สุดในโลกอยู่แล้ว แต่ผมเชื่อว่าตนเองจะเป็นฝ่ายชนะและได้กลับไปเป็นมือ 1 โลกวันจันทร์นี้ ก่อนจะมุ่งหน้าเก็บเกี่ยวความสำเร็จต่อไป"
ด้าน รอดดิก รองแชมป์ปี 2004-2005วัย 26 ปีซึ่งเพิ่งได้โค้ช ลาร์รี สเตฟานสกี มาช่วยพัฒนา ลูกแบ็คแฮนด์ และ วอลเลย์ จนมีอานุภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กล่าวว่า "ความมั่นใจของผมมากขึ้น นอกจากนี้ยังเลือกเล่นลูกได้เหมาะสมและเด็ดขาดขึ้น ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าวันนี้ผมมีโอกาสจะเป็นแชมป์เช่นกัน แม้ใครๆจะพูดถึงแต่แกรนด์สแลมที่ 15 ของ เฟเดอเรอร์ แต่ผมขอประกาศว่าจะเป็นผู้ชะลอความสำเร็จของเขาออกไป"
ทั้งนี้ เฟเดอเรอร์ และ รอดดิก จะลงปะทะกันในรอบชิงชนะเลิศ วิมเบิลดัน เป็นครั้งที่ 3 ในเวลา 20.00น.วันนี้(5.ก.ค.) ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งหาก เฟดเอ็กซ์ ชนะได้จะทำสถิติแชมป์แกรนด์สแลมสูงสุด 15 รายการแซงหน้า พีต แซมพราส ตำนานรุ่นพี่ชาวอเมริกันทันที ส่วน รอดดิก หากพลิกล็อกได้จะเป็นแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 2 ในชีวิตต่อจาก ยูเอส โอเพน ปี 2003
