โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักหวดลูกสักหลาดเบอร์ 2 ของโลกชาวสวิส เข้าไปลุ้นแชมป์วิมเบิลดัน สมัยที่ 6 ของตัวเองสำเร็จ หลังบดเอาชนะ ทอมมี ฮาส มือดีจากเยอรมนี 3-0 เซต
ศึกเทนนิสแกรนด์สแลม “วิมเบิลดัน” ชิงเงินรางวัลรวมทั้งหมด 12,550,000 ปอนด์ (ประมาณ 690 ล้านบาท) ณ สังเวียนคอร์ตหญ้าที่ ออล อิงแลนด์ คลับ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประจำคืนวันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2552
ในประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศคู่แรก โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ รองแชมป์เก่า ลงดวลแร็กเก็ตกับ ทอมมี ฮาส มือวางอันดับ 24 ของรายการ ซึ่งการแข่งขันเป็นไปอย่างสูสี ทั้งคู่รักษาเกมเสิร์ฟได้ทั้งหมดจนเซตแรกต้องมาตัดสินช่วงไทเบรก ก่อนที่ “เฟด-เอ็กซ์” เก็บไปได้ก่อน 7-6 (7/3)
ลงมาลุยต่อในเซตที่สอง เฟเดอเรอร์ อาศัยเกมเสิร์ฟที่แน่นอน ไม่เปิดโอกาสให้ ฮาส มีโอกาสเบรกเกมเสิร์ฟเลย ส่วน ฮาส เองก็พยายามยื้อเกมด้วยลูกเสิร์ฟ แต่ก็มาพลาดโดนมือ 2 ของรายการเบรกในเกมที่ 12 ขึ้นนำ 2-0 เซตที่สาม ฮาส อยู่ในสถานการณ์ลำบากอีกครั้งเมื่อเสิร์ฟเสียดับเบิล ฟอลท์ จากนั้นตัวเองก็มาพลาดหวดติดเนต เฟเดอเรอร์ ขึ้นแท่น ก่อนลงมารัวเกมเสิร์ฟปิดแมตช์ชนะไป 3-0 เซต 7-6 (7/3), 7-5, 6-3
ภายหลังการแข่งขัน เฟเดอเรอร์ ให้สัมภาษณ์ผ่าน “รอยเตอร์ส” สื่อชั้นนำ “ตอนนี้ผมรู้สึกทรงตัวแทบไม่อยู่ นี่ผมได้เข้าสู่รอบชิงอีกครั้ง ผมคิดถึงการเป็นแชมป์สมัยที่ 6 หลายสิ่งหลายอย่างกำลังจะเกิดขึ้น ผมมีโอกาสในวันอาทิตย์นี้ มันยอดเยี่ยมไปเลย การได้กลับเข้าสู่รอบชิงวิมเบิลดัน ดูเหมือนอะไรๆ มันเกิดขึ้นไวจริงๆ”
ด้าน ฮาส ออกมาให้เครดิตคู่แข่ง “โรเจอร์ (เฟเดอเรอร์) ลงมาทำงานได้ดี เขาสามารถเล่นเกมรับและก็พลิกกลับมาเล่นเกมบุกได้ไม่เหมือนนักเทนนิสคนอื่นๆ นั่นทำให้เขาเล่นได้อย่างเหนียวแน่น ผมคิดว่า โรเจอร์ เหนือกว่าทุกคน”
จากชัยชนะแมตช์นี้ส่ง เฟเดอเรอร์ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศสมัยที่ 7 ติดต่อกัน มีโอกาสทวงแชมป์คืนมาอีกครั้ง หลังจากเมื่อปีก่อนโดน ราฟาเอล นาดาล มือ 1 ของโลกชาวสเปน ดับอหังการ โดยคู่ชิงปีนี้ต้องลุ้นว่าจะพบ แอนดี เมอร์เรย์ ความหวังสูงสุดของสหราชอาณาจักร หรือ แอนดี ร็อดดิก จอมเสิร์ฟหนักจากสหรัฐฯ
ศึกเทนนิสแกรนด์สแลม “วิมเบิลดัน” ชิงเงินรางวัลรวมทั้งหมด 12,550,000 ปอนด์ (ประมาณ 690 ล้านบาท) ณ สังเวียนคอร์ตหญ้าที่ ออล อิงแลนด์ คลับ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประจำคืนวันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2552
ในประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศคู่แรก โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ รองแชมป์เก่า ลงดวลแร็กเก็ตกับ ทอมมี ฮาส มือวางอันดับ 24 ของรายการ ซึ่งการแข่งขันเป็นไปอย่างสูสี ทั้งคู่รักษาเกมเสิร์ฟได้ทั้งหมดจนเซตแรกต้องมาตัดสินช่วงไทเบรก ก่อนที่ “เฟด-เอ็กซ์” เก็บไปได้ก่อน 7-6 (7/3)
ลงมาลุยต่อในเซตที่สอง เฟเดอเรอร์ อาศัยเกมเสิร์ฟที่แน่นอน ไม่เปิดโอกาสให้ ฮาส มีโอกาสเบรกเกมเสิร์ฟเลย ส่วน ฮาส เองก็พยายามยื้อเกมด้วยลูกเสิร์ฟ แต่ก็มาพลาดโดนมือ 2 ของรายการเบรกในเกมที่ 12 ขึ้นนำ 2-0 เซตที่สาม ฮาส อยู่ในสถานการณ์ลำบากอีกครั้งเมื่อเสิร์ฟเสียดับเบิล ฟอลท์ จากนั้นตัวเองก็มาพลาดหวดติดเนต เฟเดอเรอร์ ขึ้นแท่น ก่อนลงมารัวเกมเสิร์ฟปิดแมตช์ชนะไป 3-0 เซต 7-6 (7/3), 7-5, 6-3
ภายหลังการแข่งขัน เฟเดอเรอร์ ให้สัมภาษณ์ผ่าน “รอยเตอร์ส” สื่อชั้นนำ “ตอนนี้ผมรู้สึกทรงตัวแทบไม่อยู่ นี่ผมได้เข้าสู่รอบชิงอีกครั้ง ผมคิดถึงการเป็นแชมป์สมัยที่ 6 หลายสิ่งหลายอย่างกำลังจะเกิดขึ้น ผมมีโอกาสในวันอาทิตย์นี้ มันยอดเยี่ยมไปเลย การได้กลับเข้าสู่รอบชิงวิมเบิลดัน ดูเหมือนอะไรๆ มันเกิดขึ้นไวจริงๆ”
ด้าน ฮาส ออกมาให้เครดิตคู่แข่ง “โรเจอร์ (เฟเดอเรอร์) ลงมาทำงานได้ดี เขาสามารถเล่นเกมรับและก็พลิกกลับมาเล่นเกมบุกได้ไม่เหมือนนักเทนนิสคนอื่นๆ นั่นทำให้เขาเล่นได้อย่างเหนียวแน่น ผมคิดว่า โรเจอร์ เหนือกว่าทุกคน”
จากชัยชนะแมตช์นี้ส่ง เฟเดอเรอร์ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศสมัยที่ 7 ติดต่อกัน มีโอกาสทวงแชมป์คืนมาอีกครั้ง หลังจากเมื่อปีก่อนโดน ราฟาเอล นาดาล มือ 1 ของโลกชาวสเปน ดับอหังการ โดยคู่ชิงปีนี้ต้องลุ้นว่าจะพบ แอนดี เมอร์เรย์ ความหวังสูงสุดของสหราชอาณาจักร หรือ แอนดี ร็อดดิก จอมเสิร์ฟหนักจากสหรัฐฯ
