แอนดี เมอร์เรย์ ยังอยู่ในเส้นทางล่าแชมป์วิมเบิลดันมามอบให้กับชาวสหราชอาณาจักรเป็นหนแรกในรอบ 73 ปี หลังสยบ ฮวน คาร์ลอส เฟอร์เรโร 3 เซตรวด เข้าสู่รอบตัดเชือกไปพบกับ แอนดี ร็อดดิก ที่เฉือนชนะ เลย์ตัน ฮิววิตต์ สุดระทึก
เทนนิสแกรนด์สแลมบนคอร์ตหญ้า รายการวิมเบิลดัน ณ สังเวียน ออล อิงแลนด์ คลับ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในประเภทชายเดี่ยว รอบ 8 คนสุดท้าย ในอีก 2 คู่ที่เหลือ
เริ่มที่ แอนดี เมอร์เรย์ หมายเลข 3 ของโลกขวัญใจเจ้าถิ่นดวลกับ ฮวน คาร์ลอส เฟร์เรโร อดีตมือ 1 ของโลกจากสเปน เซตแรกทั้งคู่เล่นกันได้สูสี ก่อนที่ฝ่ายแรกจะเบียดชนะไปก่อน 7-5 จากนั้น 2 เซตที่เหลือ เมอร์เรย์ สามารถคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมดก่อนเอาชนะ 3-0 เซต 7-5, 6-3, 6-2 โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง 41 นาที และเสิร์ฟเอซไปทั้งสิ้น 18 ครั้ง
ทำให้นักหวดชาวสกอตติชผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งเจ้าตัวออกมาให้สัมภาษณ์หลังจบแมตช์ว่า “ช่วงต้นเกมทั้งผมและเขาต่างก็ตีเสียเองบ่อยครั้ง แต่พอเก็บเซตแรกได้ ทำให้ผมกลับมาเล่นได้ดีจนกระทั่งคว้าชัยชนะ ส่วนแมตช์หน้าน่าจะเป็นงานหนัก แต่ผมเชื่อลึกๆ ว่าหากผมเล่นดีก็มีสิทธิ์เป็นผู้ชนะได้”
ทั้งนี้ เมอร์เรย์ มีลุ้นเป็นนักเทนนิสสหราชอาณาจักรคนแรกที่ได้เถลิงแชมป์วิมเบิลดัน นับตั้งแต่ เฟรด เพอร์รี เคยทำได้เมื่อปี 1936
อีกคู่หนึ่ง แอนดี ร็อดดิก จอมเสิร์ฟหนัก มือ 6 ของรายการจากสหรัฐฯ เล่นกับ เลย์ตัน ฮิววิตต์ อย่างดุเดือดถึง 3 ชั่วโมง 50 นาที ก่อนที่ “เอ-ร็อด” อดีตรองแชมป์ 2 สมัยจะเบียดเอาชนะไปแบบสุดมัน 3-2 เซต 6-3, 6-7 (10/12), 7-6 (7/1), 4-6, 6-4 โดยเสิร์ฟเอซไปทั้งสิ้นถึง 43 ครั้ง ผ่านเข้าไปวัดฝีมือกับ เมอร์เรย์ ในรอบตัดเชือก