xs
xsm
sm
md
lg

แชมป์ของ ‘โกลเวอร์’ เสียงปรบมือของ ‘ดูวัล’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ลูคัส โกลเวอร์
5 วันอันยาวนานของ 4 รอบการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์รายการ ยูเอส โอเพ่น 2009 บนสนามที่ยากที่สุดในโลกสนามหนึ่งอย่าง เบธเพจ แบล็ค จบลงพร้อมกับชัยชนะของโปรเจ้าถิ่นอย่าง ลูคัส โกลเวอร์ โปรวัย 29 ปีจากเมืองกรีนวิลล์ ผู้มีโพรไฟล์ผลงานระดับพีจีเอทัวร์ติดตัวมาเพียงหนึ่งรายการจากฟูไน คลาสสิกฯ และตลอดระยะเวลาที่เข้ารวมยูเอส โอเพ่น ตั้งแต่ปี 2002 โกลเวอร์ ยังไม่เคยผ่านการตัดตัวจนเล่นได้จบในรอบที่สี่แม้แต่เพียงครั้งเดียว

หากแต่ชัยชนะของ ลูคัส โกลเวอร์ท่ามกลางสภาพสนามและอากาศอันเลวร้ายของ เบธเพจ แบล็ค นั้นมิได้กลายเป็นภาพแห่งความทรงจำ เท่ากับผลงานชนิดแย่งซีนของ อดีตโปรหมายเลขสองของโลก อย่าง เดวิด ดูวัล ที่เกือบจะกลับมายืนบนจุดเดิมของตนเองได้อีกครั้งหากไม่พลาดเสียโบกี้ในหลุมที่ 17

การแข่งขัน ยูเอส โอเพ่น 2009 ในครั้งต้องยอมรับว่าเป็นการแข่งขันที่เหล่านักกอล์ฟเหน็ดเหนื่อยกันมากที่สุดเพราะไม่เพียงสภาพอากาศที่ฝนกระหน่ำชนิดไม่ลืมหูลืมตาตั้งแต่วันแรกของการลงดวลวงสวิงแต่ บรรดาโปรชื่อดังอย่าง ไทเกอร์ วู้ดส์ และ ฟิล มิคเคลสัน ก็ฟอร์มหลุดเอาดื้อๆ ตั้งแต่รอบแรก

ด้วยความที่ "พญาเสือ" และ "สิงห์อีซ้าย" นั้นลงแข่งเมเจอร์ ยูเอสฯ ในครั้งนี้ชนิดมีพันธะสัญญานอกสนาม โดยรายแรกหากคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่นได้สำเร็จจะทำให้ตัวเลขการสะสมเมเจอร์ ประวัติศาสตร์ขยับเข้าไปใกล้กับตำนานอย่างแจ็ก นิกคลอสเจ้าของสถิติ 18 เมเจอร์เข้าไปทุกขณะ ส่วนฟิล มิคเคลสัน นั้นการลงสนามยูเอส โอเพ่น 2009 มิใช่เป็นเพียงแต่การสร้างผลงานให้กับตนเอง หากแต่เป็นการลงสนามเพื่อคว้าแชมป์มาเป็นกำลังใจให้กับเมียรัก "เอลี่" ที่กำลังรักษาอาการป่วยจากมะเร็งเต้านม

ทั้งสองเรื่องนี้ทำให้กองเชียร์จับตาไปที่สองโปรชื่อดัง ในขณะที่ อดีตโปรหมายเลขหนึ่งของโลกอย่าง เดวิด ดูวัล ผู้กระชากตำแหน่งดังกล่าวมาจากไทเกอร์ วู้ดส์ เมื่อเดือนมีนาคมปี 1999 ที่กลับมาลงสนามอีกครั้งยังไม่ได้รับความสนใจเท่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลงานที่เจ้าตัวไม่เคยจบได้ในอันดับที่ดีกว่าท้อป 15 ในรายการระดับเมเจอร์มาตั้งแต่ปี 2001 ที่สำคัญ มิสเตอร์ "ดับเบิ้ลดี" ในวัย 37 ปีนั้นแทบจะถูกแทงบัญชีจากวงการสวิงว่า "หมดอนาคต" จากการแข่งขันแทบจะร้อยเปอร์เซนต์

แต่ในระหว่างทางของการแข่งขันเมื่อหนึ่งในสองตัวเต็งอย่าง ไทเกอร์ วู้ดส์ กลายเป็นดาวร่วง ขณะที่ฟิล มิคเคลสันเองก็อยู่ในอันดับที่ลุ้นลำบาก เพราะรุกกี้อย่าง ริกกี้ บาร์น ผู้นำในวันที่สองและสามนั้นสกอร์พุ่งสูงไปถึง 7 อันเดอร์พาร์ พลันชื่อของ เดวิด ดูวัล ก็ปรากฏชัดขึ้นอย่างเงียบๆในลีดเดอร์บอร์ด และยิ่งชัดเจนขึ้นในการแข่งขันวันสุดท้าย ที่ผู้นำจากรอบสองและสามหากอ่อนประสบการณ์ทำสกอร์หลุดลุ่ย ขณะที่ ดูวัล ไล่ตามมาชนิดหายใจรดต้นคอ

หลุมที่ 8 พาร์ 3 เดวิด ดูวัล พัตต์ ระยะ 50 ฟุตลงหลุมไปอย่างสวยงามพร้อมกับเก็บเบอร์ดี้ทำสกอร์ไล่ตาม โกลเวอร์ มาเรื่อยๆ จนเมื่อถึงหลุมที่ 17 เจ้าของฉายา "ดับเบิ้ลดี" มีสกอร์อยู่ที่ 3 อันเดอร์พาร์ตามหลังผู้นำและเป็นช่วงเวลาที่ ดูวัล ได้เข้าไปใกล้ ลูคัส โกลเวอร์ มากที่สุด เวลานั้นทุกลมหายใจ ทุกแรงเชียร์ จากทั้งในสนามและผู้ที่ชมการถ่ายทอดสดทั่วโลก รวมไปถึงนักกอล์ฟที่ร่วมก๊วนเดียวกับดูวัล อย่าง รอสส์ ฟิสเชอร์ นั้นต่างเอาใจช่วยให้อดีตโปรหมายเลขหนึ่งของโลกประสบความสำเร็จ

หากแต่โบกี้ในหลุมดังกล่าว ทำให้เสียงเชียร์ต้องเปลี่ยนเป็นเสียงร้องอื้ออึงด้วยความเสียดาย ดูวัล พลาดโอกาสที่จะไล่ตาม โกลเวอร์ไปแล้ว และ มิคเคลสันที่ออกโบกี้แล้วโบกี้เล่าในวันสุดท้าย ส่งให้ตาอยู่อย่าง ลูคัส โกลเวอร์ ที่มีต้นทุนสกอร์ที่ดีกว่าได้ครองแชมป์ไปในที่สุด

แม้จะครองอันดับที่สองร่วมหากแต่ก็เป็นอันดับที่สองร่วมที่บดบังรัศมีแชมป์อย่าง ลูคัส โกลเวอร์ เสียมิดชิด เพราะนี่คือการกลับมาที่ดีที่สุดของ อดีตแชมป์ดิโอเพ่น ปี 2001 ที่ครั้งหนึ่งชื่อของเขาแทบจะกลายเป็นแค่ความทรงจำ แต่ความรักในเกมกอล์ฟ ทำให้ ดูวัล กลับมาอีกครั้ง หากแต่เป็นดูวัลที่ต่างไปจากเมื่อ 8 ปีที่แล้วด้วยสไตล์การเล่นที่สุขุมขึ้น และ ทัศนคติต่อการแข่งขันที่เจ้าตัวเผยหลังครองตำแหน่งที่สองร่วมด้วยรอยยิ้มว่า

“10 ปีที่แล้วเมื่อครั้งที่ผมได้ขึ้นเป็นมือหนึ่งของโลกตอนนั้นผมคิดว่าผมมีความสุขมากที่สุดบนสนามแข่ง หากแต่ชีวิตส่วนตัวกลับกลายเป็นเรื่องตรงกันข้าม ทุกวันนี้เมื่อผมนึกถึงช่วงเวลาดังกล่าวแล้วเอามาเปรียบเทียบกับอันดับ 882 ของโลกของตนเองในเวลานี้ผมบอกด้วยความสัจจริงเลยว่านี่คือช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมากที่สุด ทัศนคติในการเล่นกอล์ฟของผมเปลี่ยนไป ผมเล่นด้วยความรักในอาชีพลงแข่งด้วยความรู้สึกต้องการเห็นผลงานที่ดีที่สุดของตนเองบนสนามการแข่งขัน”
เดวิด ดูวัล
ไทเกอร์ วูดส์
ฟิล มิกเคลสัน
กำลังโหลดความคิดเห็น