บิเซนเต เดล บอสเก กุนซือทีมชาติสเปน ออกมายกเครดิตให้บรรดานักเตะที่ค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีส่วนช่วยให้ทัพ “กระทิงดุ” เดินหน้าโชว์ฟอร์มอย่างแข็งแกร่ง
นับตั้งแต่เข้ามาสานงานต่อจาก หลุยส์ อราโกเนส ที่พาทีมชาติสเปนครองแชมป์ยูโร 2008 บิเซนเต เดล บอสเก นำทัพ “กระทิงดุ” ขวิดชัยมา 11 นัดติดต่อกัน (สเปนคว้าชัยรวมมาแล้ว 13 นัดติดต่อกัน) มีลุ้นลบสถิติของ บราซิล และ ฝรั่งเศส ที่คว้าชัยนานเป็นสถิติ 14 นัด
อีกทั้งการที่ สเปน ไม่แพ้ใครมา 33 นัดติดต่อกัน ทำให้แชมป์ยุโรปทีมล่าสุดมีโอกาสทาบสถิติอันเกรียงไกรซึ่ง “แซมบ้า” บราซิล เคยไร้พ่ายมา 35 นัดติด โดยโปรแกรมลงเตะของ “กระทิงดุ” สองนัดถัดจากนี้ได้แก่การเจอกับ อิรัก กับ “เจ้าภาพ” แอฟริกาใต้ ในศึกลูกหนังฟีฟา คอนเฟดเดอเรชันส์ คัพ 2009 รอบแรก
ผลงานอันยอดเยี่ยมเหล่านี้ทำให้ เดล บอสเก ยกเครดิตส่วนหนึ่งให้บรรดาผู้เล่นที่ลุยแข้งอยู่ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง เชส ฟาเบรกาส (อาร์เซนอล) รวมถึง 5 นักเตะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะเป็น โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, ชาบี อลอนโซ, อัลเบิร์ต ริเอรา แล เฟอร์นานโด ตอร์เรส
เดล บอสเก เผย “แน่นอนว่าในความจริงแล้วพวกเขาที่ไปเล่นยังต่างแดนเป็นอีกหนึ่งเหตุผลในความสำเร็จของสเปน นักเตะเหล่านี้มีส่วนมากมายจากสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้จากที่นั่น (อังกฤษ) เมื่อคุณไปเล่นในสไตล์ที่แตกต่างออกไป มันก็ทำให้คุณได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แท็คติกต่างๆ พวกเขาพัฒนาขึ้นมาก เติบโตอย่างเต็มที่มากกว่าตอนที่พวกเขายังเป็นเมล็ดพันธุ์เม็ดเล็กๆ นี่เป็นการปลูกสร้างให้ขุนพลทีมชาติสเปนชุดนี้ไปสู่ชัยชนะ”
นอกจากนี้ กุนซือหน้าติดหนวดไม่ลืมชมเชยแข้งจากสโมสรในสเปน “สโมสรในสเปนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่เสมอ ในหลายปีมานี้ทีมชาติยังทำผลงานเทียบกับพวกเขาไม่ได้ อย่างไรก็ตาม โปรแกรมการพัฒนาบุคลากรในสเปนช่วยให้เราสร้างผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะวงการกีฬา ฟุตบอล ก็เป็นหนึ่งในนั้น”
สุดท้าย เดล บอสเก สงวนท่าทีนำทีมเทียบสถิติ บราซิล “แน่นอนว่าเรามีแรงจูงใจพิเศษสำหรับการขึ้นไปเทียบชั้นบราซิล แต่เป้าหมายของเรา ณ ตอนนี้คือ การผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ (คอนเฟดเดอเรชันส์ คัพ) ให้ได้เสียก่อน”
นับตั้งแต่เข้ามาสานงานต่อจาก หลุยส์ อราโกเนส ที่พาทีมชาติสเปนครองแชมป์ยูโร 2008 บิเซนเต เดล บอสเก นำทัพ “กระทิงดุ” ขวิดชัยมา 11 นัดติดต่อกัน (สเปนคว้าชัยรวมมาแล้ว 13 นัดติดต่อกัน) มีลุ้นลบสถิติของ บราซิล และ ฝรั่งเศส ที่คว้าชัยนานเป็นสถิติ 14 นัด
อีกทั้งการที่ สเปน ไม่แพ้ใครมา 33 นัดติดต่อกัน ทำให้แชมป์ยุโรปทีมล่าสุดมีโอกาสทาบสถิติอันเกรียงไกรซึ่ง “แซมบ้า” บราซิล เคยไร้พ่ายมา 35 นัดติด โดยโปรแกรมลงเตะของ “กระทิงดุ” สองนัดถัดจากนี้ได้แก่การเจอกับ อิรัก กับ “เจ้าภาพ” แอฟริกาใต้ ในศึกลูกหนังฟีฟา คอนเฟดเดอเรชันส์ คัพ 2009 รอบแรก
ผลงานอันยอดเยี่ยมเหล่านี้ทำให้ เดล บอสเก ยกเครดิตส่วนหนึ่งให้บรรดาผู้เล่นที่ลุยแข้งอยู่ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง เชส ฟาเบรกาส (อาร์เซนอล) รวมถึง 5 นักเตะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะเป็น โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, ชาบี อลอนโซ, อัลเบิร์ต ริเอรา แล เฟอร์นานโด ตอร์เรส
เดล บอสเก เผย “แน่นอนว่าในความจริงแล้วพวกเขาที่ไปเล่นยังต่างแดนเป็นอีกหนึ่งเหตุผลในความสำเร็จของสเปน นักเตะเหล่านี้มีส่วนมากมายจากสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้จากที่นั่น (อังกฤษ) เมื่อคุณไปเล่นในสไตล์ที่แตกต่างออกไป มันก็ทำให้คุณได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แท็คติกต่างๆ พวกเขาพัฒนาขึ้นมาก เติบโตอย่างเต็มที่มากกว่าตอนที่พวกเขายังเป็นเมล็ดพันธุ์เม็ดเล็กๆ นี่เป็นการปลูกสร้างให้ขุนพลทีมชาติสเปนชุดนี้ไปสู่ชัยชนะ”
นอกจากนี้ กุนซือหน้าติดหนวดไม่ลืมชมเชยแข้งจากสโมสรในสเปน “สโมสรในสเปนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่เสมอ ในหลายปีมานี้ทีมชาติยังทำผลงานเทียบกับพวกเขาไม่ได้ อย่างไรก็ตาม โปรแกรมการพัฒนาบุคลากรในสเปนช่วยให้เราสร้างผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะวงการกีฬา ฟุตบอล ก็เป็นหนึ่งในนั้น”
สุดท้าย เดล บอสเก สงวนท่าทีนำทีมเทียบสถิติ บราซิล “แน่นอนว่าเรามีแรงจูงใจพิเศษสำหรับการขึ้นไปเทียบชั้นบราซิล แต่เป้าหมายของเรา ณ ตอนนี้คือ การผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ (คอนเฟดเดอเรชันส์ คัพ) ให้ได้เสียก่อน”
