ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับศึก" ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชัน คัพ 2009" ทัวนาร์เมนต์ ชิมลางก่อนศึกฟุตบอลโลก ซึ่งปีนี้ แอฟริกาใต้ รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ เตรียมความพร้อมก่อนฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่จะระเบิดขึ้นในปี 2010 ปีนี้มีความคึกคักกว่าหลายๆปีที่ผ่านๆมา โดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า ประกาศเงินรางวัลมากกว่าเดิม รวมแล้ว 17.6 ล้านเหรียญสหรัฐ(ประมาณ 563.2 ล้านบาท) โดยแชมป์จะได้รับไปประมาณ 120 ล้านบาท อีกทั้งฝ่ายจัดการแข่งขันก็ออกมาเผยว่าตอนนี้ตั๋วกว่าครึ่งถูกจำหน่ายหมดไปเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่ ช่วงเมษายนที่ผ่านมา
ประวัติความเป็นมาของทัวร์นาเมนต์นี้ เดิมใช้ชื่อว่า "คิง ฟาฮัด คัพ" หรือ "อินเตอร์คอนติเนนทัล แชมเปียนชิป" จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1992 ที่ประเทศ ซาอุดิอารเบีย แต่แล้วในปี 1997 ฟีฟ่าได้เข้ามาดำเนินการและจัดการแข่งขันอย่างเต็มตัว พร้อมปรับรูปแบบการแข่งขันจากเดิม 6 เป็น 8ทีม ซึ่งเพิ่มโควต้าของ แชมป์โลกและแชมป์จากโอเชียเนีย เข้ามาร่วมการแข่งขันด้วย แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดย บราซิล เป็นแชมป์ทีมแรก ด้วยการถล่มออสเตรเลียในนัดชิงชนะเลิศไป 6-0 สำหรับครั้งล่าสุด ทีมแซมบ้า ก็สามารถ เอาชนะอาร์เจนตินาไป 4-1 ในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อปี 2005ที่ ประเทศเยอรมัน
สำหรับ ศึก คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ 2009ในปีนี้มี 8 ชาติร่วมดวลแข้ง ประกอบด้วยเจ้าภาพ แอฟริกาใต้, อิตาลี แชมป์ฟุตบอลโลก 2006, อิรัก แชมป์เอเชียน คัพ 2007, อียิปต์ แชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2008, สหรัฐอเมริกา แชมป์โกลด์ คัพ 2007, บราซิล แชมป์โคปา อเมริกา 2007,นิวซีแลนด์ แชมป์โซน โอเชียเนียและ สเปน แชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2008 ผลการจับสลาก ซึ่งเปิดโผออกมาให้เห็นกันตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว ออกมาดังนี้
กลุ่มเอ
แอฟริกาใต้ (เจ้าภาพฟุตบอลโลก)
สเปน (แชมป์ยุโรป)
อิรัก (แชมป์เอเชีย)
นิวซีแลนด์ (แชมป์โอเชียเนีย)
กลุ่มบี
อิตาลี (แชมป์โลก)
บราซิล (แชมป์อเมริกาใต้)
สหรัฐอเมริกา (แชมป์โซนคอนคาเคฟ)
อียิปต์ (แชมป์แอฟริกา)
สถานการณ์ของทีมต่างๆทั้ง 2 กลุ่ม
กลุ่ม เอ
เแอฟริกาใต้
ทีม"บาฟานา"ได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์เป็นแน่ แต่ทีมในตอนนี้มีปัญหาที่นักเตะส่วนใหญ่ ยังขาดประสบการณ์ระดับอินเตอร์ ผู้เล่นกว่าครึ่งล้วนเล่นอยู่ในลีกของตัวเองทั้งสิ้น อีกทั้งผลงานศึกใหญ่ๆที่ผ่านมาก็ไม่ประสบความสำเร็จทั้งศึกฟุตบอลโลก 2006 และ แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ความมั่นใจของผู้เล่นจึงตกอย่างรุนแรง ปัญหายังไม่จบเท่านี้เมื่อ โจเอล ซานตานา โค้ชของทีมตัดสินใจไม่เรียกตัว เบนนี่ แม็คคาธี่ ที่เห็นว่า ศูนย์หน้าตัวเก่ง ที่ไม่เต็มใจเล่นให้ทีมชาติเท่าใดนัก มองโดยรวมแล้ว คาดว่าแอฟริกาใต้ชุดนี้น่าจะจอดเพียงรอบแรกเท่านั้น
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง : สตีเวน พีนาร์ ของเอฟเวอร์ตัน ถือเป็นตัวความหวังของทีม โดยฤดูกาลที่ผ่านมากับทีม ท็อฟฟี่ กองกลางผมสลวย โชว์ฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่อง จุดเด่นของนักเตะรายนี้อยู่ที่ การเติมเกมรุกค่อนข้างหวือหวาและมีชั้นเชิงที่ดีเยี่ยม หากเขาไปเติมเต็มเรื่องความมั่นใจมากกว่านี้ อาจส่งผลให้ทีมเจ้าภาพสู้กับทีมอื่นๆได้สนุกแน่
สเปน
ดีกรีแชมป์ยุโรป สามารถรับประกันคุณภาพของสเปนได้เป็นอย่างดี เป็นเต็งจ๋าของศึกครั้งนี้อย่างไม่มีข้อสงสัย โดยโชว์ฟอร์มเยี่ยมไม่แพ้ใครมากว่า 32 เกม นับตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ ปี 2007 "กระทิงดุ" เป็นทีมที่มีจุดเด่นเรื่องการต่อบอล เล่นเร็ว และมีเกมบุกที่น่ากลัว โดยเต็มไปด้วยผู้เล่นระดับโลก อย่าง อิเคร์ คาซิญาส, เซอร์คิโอ รามอส, ชาบี้ เออร์นานเดช และคู่หัวหอก บีญา-ตอร์เรส ซึ่งอันตรายเหลือหลายในเวลานี้ แต่น่าเสียดายที่ อันเดรียส อิเนียสตา กองกลางตัวรุก ที่ฟอร์มร้อนแรงกับ บาร์เซโลนาได้รับบาดเจ็บพักอย่างน้อย 2 เดือน แจ้งถอนตัวออกไปก่อนหน้าแล้ว อย่างไรก็ตาม สเปน ยังคงมีคุณภาพเพียงพอกับการเถลิงเป็นแชมป์รายการนี้เป็นครั้งแรกได้
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง : เฟอร์นานโด ตอร์เรส โชว์ฟอร์มเด่นให้กับ "หงส์แดง" เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาในศึกพรีเมียร์ชิป โดยทำไป 14 ประตูจากการลงเล่น 24นัด หากว่าเจ้าตัวฟิตสมบูรณ์ ดาวยิงรายนี้น่าจะยิงระเบิดให้กับทีมกระทิงเป็นแน่
อิรัก
เชื่อว่า แฟนๆยังคงจำกันได้ กับผลงานที่ผงาดเป็นแชมป์เอเชี่ยนคัพ เมื่อสองปีที่แล้วอย่างยิ่งใหญ่ ชนิดหักปากกาเซียน เมื่อสามารถโคนยักษ์อย่าง เกาหลีใต้, ซาอุดิอารเบีย หรือแม้กระทั่งทีมแกร่งจากแดน "จิงโจ้" ออสเตรเลีย อิรักชุดนี้มีจุดเด่นที่เกมรุกนำทัพโดย ยูนิส มาห์มูด หัวหอกกัปตันทีมวัย 26 ปี ปัจจุบันเล่นอยู่ในลีก กาตาร์ บวกกับ กองกลางพรสวรรค์สูงอย่าง นาชัต อัคราม และมี นาสซิม อับบาส คอยคุมแผงหลัง พร้อมได้โค้ชเลื่องชื่อ โบร่า มิลูติโนวิช ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นส่วนเติมเต็มให้ ทีมพลังหนุ่มต่อกรกับเหล่าทีมระดับโลกได้
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง :นาชัต อัคราม ถือได้ว่าเป็นผู้เล่นในแดนกลางที่มีวิสัยทรรศน์กว้างไกล ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว โดยการที่เขาเพิ่งเซ็นสัญญาย้ายร่วมทีม ทเวนเต้ เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา น่าจะรับประกันคุณภาพของ มิดฟิลด์ รายนี้ได้เป็นอย่างดี
นิวซีแลนด์
ดูจากสถาพของทีมโดยรวมแล้ววคงจะเป็นทีมแจกแต้มทีมหนึ่งของทัวร์นาเมนต์ เพราะแชมป์จากโอเชียเนีย มีผู้เล่นอ่อนประสบการณ์เกินไป และไม่มีนักเตะเด่นๆคอยสร้างสรรค์เกม มีเพียงผู้เล่นในแดนหน้าอย่าง เชน สเมลต์ ที่พอเป็นที่รู้จักเพียงเท่านั้น ทีมส่อเค้าไม่ดีเพิ่ม เมื่อกองหลังตัวสำคัญอย่าง ไรอัน นีลเซ่น ของแบล็คเบิร์น โรเวอร์ ได้รับบาดเจ็บถอนตัวไปเรียบร้อย คาดว่าทีมจากแดนกีวี คงเล่นแบบไม่คิดอะไรมาก ให้ผู้เล่นสั่งสมประสบการณ์จากรายการนี้เพียงเท่านั้น
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง : เชน สเมลต์ ผู้เล่นเชื้อสาย เยอรมัน ดีกรีตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมใน เอ-ลีก ออสเตรเลียฤดูกาลที่ผ่านมา มีจุดเด่นคือการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม โดยปีล่าสุดทำไป 12 ประตูจากการลง 17 นัด ให้ เวลลิงตัน ฟีนิกซ์ หากไม่ตื่นสนาม 'เชน' น่าจะช่วยแบ่งเบาภาระของทีมได้ไม่น้อย
กลุ่ม บี
สหรัฐอเมริกา
นับว่าโชคร้ายพอสมควรที่ทีมมะกัน จับฉลากมาอยู่ร่วมสายกับทีมแกร่งอย่าง อิตาลี และบราซิล มาตรฐานของทีมยังคงห่างชั้นจาก 2 ยักษ์จากยุโรป และอเมริกาใต้พอสมควร แต่ถือว่าเป็นทีมที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากการตีตั๋วผ่านไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ตลอด 5 ครั้งหลังสุด และ มีผู้เล่นที่ทยอยมาค้าแข้งแดนยุโรปไม่ขาดสาย อาทิ เฟรดดี อาดู(เบนฟิกา), คาร์ลอส โบคราเนกรา (แรนส์), คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ (ฟูแล่ม) ,โจนาธาน สเปคเตอร์(เวสแฮม) ฯลฯ ด้วยขุนพลชุดที่มีอยู่นี้ถึงจะยังไม่แข็งแกร่งมากเท่าใดนัก แต่ก็ไม่น่าจะรั้งบ๊วยของกลุ่ม
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง : แลนดอน โดโนวาน จุดเด่นของสตาร์ แอลเอ แกแลกซี่รายนี้ คือเล่นได้หลายตำแหน่งในแนวรุก ติดธงกับทีมไปแล้วกว่า 100 นัด ทำไปกว่า 40 ประตูถือเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่สุดในทีมชาติ สหรัฐฯอย่างแท้จริง ประสบการณ์ของหัวหอกรายนี้น่าจะช่วยทีม 'ลุงแซม'ได้เยอะ
อิตาลี
การเข้ามาของ มาเซโล ลิปปี้ ทำให้ทีม อัซซูรี ชุดนี้ดูมีราศีขึ้นมากโข ส่วนการหนีบ ดาวิเด ซานตอน แบ็กซ้ายดาวรุ่ง ของ "งูใหญ่" อินเตอร์ ทำให้อิตาลีชุดนี้ดูคึกคักมากกว่าเก่า ประสบการณ์ของนักเตะจอมเก๋าอย่าง ฟาบิโอ คันนาวาโร, อันเดรีย ปีร์โล และลูกา โทนี ผสมกับแท็คติคของ มาเชโล ลิปปี้ น่าจะทำให้อิตาลีชุดนี้ไปได้ไกลถึงรอบชิงก็เป็นได้
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง : ลูกา โทนี สตาร์ร่างโย่ง ของบาเยิร์น มิวนิค เขามักทำผลงานได้ดีในรายการใหญ่ๆอยู่เสมอ แม้จะทำไปเพียง 13 ประตูกับต้นสังกัดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาก็ตาม ด้วยรูปร่างที่ได้เปรียบ และมักอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ ทำให้โทนี เป็นศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม"รองเท้าบู๊ต" ชุดนี้
บราซิล
ทีม"แชมป์เก่า" หมายมั่นปั้นมือว่าจะป้องกันแชมป์รายการนี้ให้ได้ โดยปรับแผงหลังให้ดูแน่นขึ้น นำโดย อเล็กซ์ ของเชลซี และดานี่ อัลเวส ของบาร์เซโลนา ส่วนในแนวรุก มีริคาโด กาก้า, อเล็กซานเดร ปาโต้ และโรบินโญ่ เป็นตัวชูโรง แต่น่าเสียดายที่ คาร์ลอส ดุงกา ไม่ได้เรียกตัว "เหยินน้อย" โรนัลดินโญ่ มาติดทีมโดยให้เหตุผลว่าลงเล่นกับมิลาน น้อยเกินไป แต่ด้วยพรสวรรค์ของเหล่านักเตะและชื่อชั้นของทีม บราซิล จึงยังเป็นทีมที่มองข้ามไม่ได้ คาดหมายว่าน่าจะทำผลงานเข้าชิงชนะเลิศเป็นอย่างน้อย
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง : อเล็กซานเดร ปาโต้ หลังจากโชว์ฟอร์มได้ดีให้มิลาน เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยทำไป 18ประตู จากการลงเล่น 38 นัด ดาวยิงรายนี้แสดงให้เห็นพัฒนาการอย่างต่อ
เนื่อง โดยทัวนาเมนต์นี้จะเป็นการพิสูจน์ตัวเอง ว่า 'ปาโต้' พร้อมที่จะก้าวขึ้นมาแทนศูนย์หน้ารุ่นพี่ระดับพระกาฬ อย่างโรนัลโด้ แล้วหรือยัง
อียิปต์
ทีม"ฟาโรห์"นับได้ว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดในทวีปแอฟริกาในขณะนี้ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก โค้ช ฮันซัน เชฮาตาซึ่งเป็นผู้รวบรวมสปิริตในทีมให้เป็นหนึ่งและสามารถคุมผู้เล่นได้อยู่หมัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตัดสินใจดร็อปศูนย์หน้าจอมเกเร"มิโด" ออกจากทีมในนัดชิงเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา แต่น่าเสียดายที่ อามอร์ ซากี หัวหอกตัวเก่งของวีแกนได้รับบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายถอนตัวไปเรียบร้อย อย่างไรก็ดี เชื่อว่าทีมจากแดน "ไอยคุปต์" จะเป็นม้ามืดร่วมกับ อิรัก สร้างสีสันให้กับ คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ คราวนี้ได้แน่
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง :โมฮัมเหม็ด อบูทริกา เป็นนักเตะพรสวรรค์สูงและมีเทคนิคอันยอดเยี่ยม ช่วยทีมเอาชนะแคเมอรูน ผงาดเป็นแชมป์กาฬทวีปสำเร็จ จนได้รับฉายาว่า "ซีดานแห่งทวีปอัฟริกา"
จากการรีวิวในแต่ละทีมที่ผ่านมาเห็นได้ว่าศึกคอนเฟดฯครั้งนี้ ทุกทีมล้วนมีทีเด็ดเฉพาะตัวด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะทีมเต็งอย่าง สเปน บราซิล และอิตาลี ส่วนทีมที่ประมาทไม่ได้อาทิเช่น อิรัก และ อิยิปต์ 2ทีมนี้พร้อมจะสร้างเซอไพรซ์ในศึกครั้งนี้อยู่ทุกเมื่อ
โดยโปรแกรมการแข่งขันในวันแรกจะเริ่มระเบิดศึกในวันอาทิตย์ที่ 14 มิ.ย.นี้ คู่เปิดสนามเป็นการพบกันระหว่าง "เจ้าภาพ"แอฟริกาใต้ พบกับ อิรัก ที่สนามโคคา-โคลา พาร์ค กรุง โยฮันเนสเบิร์ก และคู่ถัดมาจะเป็นการพบกันระหว่าง สเปน กับ นิวซีแลนด์
ทั้งนี้ การแข่งขันทั้งสองกลุ่ม,รอบรอง และรอบชิงชนะเลิศ จะใช้เพียงแค่ 4 สนาม จากทั้งหมด 10 สนามที่ใช้จริงในฟุตบอลโลก2010 โดยได้แก่ โคคา-โคลา พาร์ก ในโยฮันเนสเบิร์ก,บลอฟตัส เฟอร์สเฟลส์ สเตเดียม ,ฟรี สเตท สเตเดียม และสนาม รอยัล บาโฟเค็ง ซึ่งในนัดชิงชนะเลิศจะจัดที่สนามโคคา โคลา พาร์กในวันที่ 28 มิถุนายน 2009
