xs
xsm
sm
md
lg

ถึงเวลา "เดอะ ง้วน" พิสูจน์ตัวเองกับทัพ "กระต่ายแก้ว"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทัพนักเตะกระต่ายแก้ว
ก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2009 ของศึกไทยพรีเมียร์ลีก เชื่อว่าทุกสายตาต่างจับจ้องผลงานของทีมเต็งอย่าง "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี รองแชมป์เก่า , "มนุษย์ไฟฟ้า" การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แชมป์เก่า รวมถึง "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ทีมยักษ์หลับแห่งทุ่งหนองจอก ทว่าเมื่อเริ่มฤดูกาลจนจวนเจียนจะจบเลกแรกของการแข่งขันทีมที่กลับขึ้นผงาดครองบัลลังก์ไทยลีกดันกลายเป็นทัพ "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส เอฟซี สโมสรซึ่งดูเหมือนจะมีปัญหาตั้งแต่ช่วงปิดฤดูกาล เนื่องจากเพิ่งมีการโอนสิทธิ์เข้าแข่งขัน รวมถึงตัวผู้เล่นมาจากสโมสรธนาคารกรุงไทย

ซึ่งการก้าวขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงของ "กระต่ายแก้ว" นั้นต้องยกเครดิตให้กับทีมผู้บริหารไฟแรงอย่าง ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสร และศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผู้จัดการทีม รวมถึง ฮานส์ อาร์.เอ็มเซอร์ หัวหน้าโค้ชชาวเยอรมนีที่ถูกดันขึ้นมาเป็นกุนซือขัดตาทัพจากทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 11 ปี ของสโมสรแห่งนี้

ทว่าเมื่อถึงเวลาอันสมควรก็นำมาสู่การปรับเปลี่ยนเก้าอี้ภายในสโมสร ด้วยการดึงตัว "เดอะ ง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ สตาฟฟ์โค้ชของสโมสร โฮม ยูไนเต็ด จากสิงคโปร์ กลับมาทำงานในบ้านเกิดในฐานะโค้ชของ บางกอกกล๊าส พร้อมกับส่ง "มิสเตอร์ฮานส์" กลับไปนั่งทำงานในทีมเยาวชนอย่างเดิม

โดยการมาร่วมงานกับสโมสร "กระต่ายแก้ว" ในครั้งนี้ สุรชัย ที่ไม่เคยนั่งตำแหน่งเฮดโค้ชมาก่อนยอมรับว่ารู้สึกกดดันกับการทำงานครั้งนี้ไม่น้อย "ยอมรับตามตรงว่ากดดันจริงๆ หากทีมไม่ใช่ทีมที่มีผลงานผมอาจจะไม่คิดอะไรมาก แต่ บางกอกกล๊าส อยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงไทยลีก หากทำทีมแล้วผลงานแย่กว่าเดิมคงไม่ได้"

"ผมทราบว่าผู้บริหารทีมวางเป้าหมายไว้ที่การไม่ตกชั้น แต่ไม่ใช่เป้าหมายสำหรับผม เพราะถ้าไม่โกหกกันก็คงจะทราบดีว่าตอนนี้จะมามองว่าทีมนี้ดีเกินกว่าจะตกชั้น ดังนั้นสำหรับตัวผมเป้าหมายคือต้องทำให้ทีมดีกว่าเดิม นั่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการคว้าแชมป์"

สำหรับ "เดอะ ง้วน" แม้จะไม่ได้โด่งดังในฐานะโค้ชมากนัก แต่ก็ได้รับการอบรมจนได้รับการรับรองระดับ "เอ ไลเซนส์" นอกจากนี้ในฐานะนักเตะแล้วกุนซือวัย 40 ปีรายนี้ได้รับการยอมรับในวงกว้างด้วยผลงานการลงเล่นให้กับทีมชาติไทยมาแล้วถึง 120 เกม พร้อมกับนำทีมคว้าแชมป์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไทเกอร์ คัพ 1996, 1998, 2000 และ 2003, แชมป์ซีเกมส์ 1991, 1993, 1995, 1997 และ 1999 อีกทั้งยังเคยนำทัพทีมชาติไทยลุยศึกเอเชียนเกมส์ เข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายในปี 1998

ขณะเดียวกันยอดมิดฟิลด์รายนี้ยังเคยสร้างชื่อระดับสโมสรจนเป็นที่คุ้นชินของแฟนลูกหนัง อาทิ คว้าแชมป์ไทยลีกได้ถึง 4 ครั้ง , แชมป์เอเอฟซี แชมเปียน ลีก 1 ครั้งในปี 1994 , แชมป์เอสลีก 1 สมัย รวมถึงแชมป์สิงคโปรคัพ 2 สมัย

จากนี้ไปในฐานะแฟนลูกหนัง คงต้องมาติดตามดูผลงานของ "เดอะ ง้วน" ว่าจะทำผลงานเข้าตาชาวกระต่ายแดนปทุมธานีกันหรือไม่?
เดอะ ง้วน สุรชัย จตุรภัทรพงศ์
กำลังโหลดความคิดเห็น