บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ไม่ลงโทษ บีอีซี เทโรศาสน และ ศรีราชา เอฟซี ที่เกิดเหตุแฟนบอลกระทบกระทั่งกัน ด้าน แบงค็อก ยูไนเต็ด ถูกปรับ 30,000 บาทฐานแสดงท่าทีไม่ยอมรับคำตัดสิน ส่วน ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร มีเวลาปรับปรุงสนามถึงปลายเดือนนี้ ก่อนที่สหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย จะส่งเจ้าหน้าที่มาเมืองไทย
เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันจันทร์ที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด และบรรดาผู้ควบคุมการแข่งขัน ประชุมสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งประเด็นสำคัญอยู่ที่การตัดสินบทลงโทษสโมสรที่ฝ่าฝืนกฎควบคุมการแข่งขัน และการตักเตือนสนามที่ยังไม่ได้มาตรฐาน
เริ่มจากคู่ บีอีซี เทโรศาสน เปิดสนามหนองจอกบดชนะ ศรีราชา เอฟซี 3-2 เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ โดยหลังจบเกมแฟนบอลทั้งสองทีมมีการพูดจายั่วยุซึ่งกันและกันบนอัฒจันทร์ ก่อนที่เรื่องจะลุกลามหลังกองเชียร์ “บลู มาร์ลิน” เหยียบผ้าพันคอของสาวก “มังกรไฟ” ที่ตกพื้น ทำให้เกิดการด่าทอกัน ทว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถห้ามปรามได้ทันก่อนจะมีการลงไม้ลงมือ รวมถึงปะทะคารมกันที่ลานจอดรถข้างสนาม แต่ไม่มีเหตุร้ายแรงใดๆ
กรณีนี้ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก ได้เรียกตัวแทนทั้งสองทีมมาร่วมพิจารณาคำตัดสินด้วย แม้จะมีฝั่งเทโรฯเท่านั้นที่สะดวกมาร่วมการประชุมก็ตาม ก่อนลงมติว่าแค่ตักเตือนสโมสรคู่กรณีเท่านั้น หลังจากสืบสวนจนได้ใจความว่าไม่มีการทะเลาะวิวาทรุนแรงตามที่ปรากฏบนหน้าสื่อแต่อย่างใด และได้รับหลักฐานเรื่องการจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสนามของทาง บีอีซี ว่าครบ 10 นายตามเกณฑ์ที่กำหนดจริง เพียงแต่วางกำลังกระจายตามจุดต่างๆ จนเหลือคนคุมแต่ละจุดรวมถึงจุดเกิดเหตุบนอัฒจันทร์น้อยเกินไปเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าว ไทยพรีเมียร์ลีก เตรียมวางมาตรการควบคุมสถานการณ์ระหว่างเกมสำหรับแมตช์ต่อๆ ไป ด้วยการกำชับให้ทุกสโมสรกั้นพื้นที่และจัดโซนแฟนบอลทีมเหย้า-ทีมเยือนไม่ให้เดินไปมาหากันได้ง่าย ดังเช่นที่เกิดขึ้นในคู่ บีอีซี กับ ศรีราชา ซึ่งไม่ได้วางแนวกั้นกองเชียร์หรือมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำการบนสแตนด์มากพอ โดย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานไทยพรีเมียร์ลีกระบุว่าต้องจัดการให้เรียบร้อยทุกสนามก่อนเปิดครึ่งฤดูกาลหลัง
เคสถัดมาอยู่ในเกม แบงค็อก ยูไนเต็ด เฝ้ารังเจ๊า บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-1 เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ ซึ่งปัญหาอยู่ในจังหวะตีเสมอของ “กระต่ายแก้ว” ช่วงท้ายเกม โดย วีระ เกิดพุดซา นายประตู “แข้งเทพ” ถอดเสื้อขว้างลงพื้นและประท้วงผู้ตัดสินว่าถูก นันทวัฒน์ แทนโสภา เข้าชาร์จก่อนที่ อำนาจ แก้วเขียว จะโหม่งตุงตาข่าย จากนั้นสตาฟฟ์โค้ช แบงค็อก ทำท่าจะวอล์คเอาท์จนเกมหยุดไปราว 8 นาที ก่อนกลับมาเตะกันต่อจนจบ กระนั้น หลังเกมแฟนบอลแข้งเทพก็ยังหงุดหงิดและปาขวดน้ำลงมาในสนามโดยเจตนาให้โดนผู้ตัดสิน ส่งผลให้ทีมอดีตมหาวิทยาลัยกรุงเทพถูกสั่งปรับ 30,000 บาท พร้อมกันนี้คณะกรรมการยังสรุปว่าประตูดังกล่าวไม่มีการฟาวล์ใดๆ ทั้งสิ้นตามที่ วีระ พยายามประท้วง
ขณะที่ ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ก็เตรียมได้รับหนังสือเตือนครั้งที่ 2 จาก ไทยพรีเมียร์ลีก เรื่องการปรับปรุงสภาพสนามวิทยาลัยพลศึกษา สมุทรสาคร ที่ใช้เตะนัดเหย้า เนื่องจากผู้ควบคุมการแข่งขันแจ้งว่าในนัดเสมอ จุฬา ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ มีฝนตกหนักก่อนลงสนาม เป็นผลให้หญ้าขังน้ำ แต่ก็ยังอนุโลมให้แข่งได้ตามปกติ โดยให้โอกาส “สำเภาผยอง” เร่งปรับปรุงมาตรฐานสังเวียนโดยด่วนจนถึงช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) มาอบรมเรื่องการพัฒนามาตรฐานการจัดการฟุตบอลลีกในประเทศก่อนประเมินคุณภาพในช่วงสิ้นปีนี้
ท้ายสุด ดร.วิชิต กล่าวสรุปถึงการปรับปรุงและพัฒนาการจัดการแข่งขันในส่วนต่างๆ ฝากไปยังทุกสโมสรว่า “ถ้าเราเตือนแล้วยังไม่แก้ไขให้ได้มาตรฐานก็คงต้องสั่งให้งดใช้สนามนั้น ย้ายไปเตะที่อื่นที่ตรงตามเกณฑ์แทน ที่สำคัญคือเรื่องความปลอดภัย ต้องจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอในทุกจุด เราเข้าใจและเห็นใจแต่ละทีมที่พยายามแก้ปัญหาจนอาจได้รับผลกระทบ แต่ถึงแม้จะฝืนใจและรู้สึกเจ็บปวดก็ต้องทำ ถ้าไม่แก้ไขไปในทางที่ดีขึ้นก็ไม่มีทางก้าวไปสู่ความเป็นมืออาชีพ”
นอกจากนี้ ไทยพรีเมียร์ลีก ยังได้สั่งปรับ การท่าเรือไทย เอฟซี 30,000 บาทเช่นกัน ฐานมีแฟนบอลปาขวดน้ำไปยังผู้ตัดสินในแมตช์บุกเสมอ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 2-2 เมื่อวันเสาร์ ส่วน จุฬา ยูไนเต็ด ก็โดนปรับ 5,000 บาท จากกรณีที่แฟนบอลจุดพลุในสนาม นัดเฝ้าถ้ำเฉือน ศรีราชา เอฟซี 1-0 ในสัปดาห์ที่ 11 วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา