ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของสโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ออกมากล่าวขอโทษขอโพยบรรดา “ทูน อาร์มี” ที่ต้องชอกช้ำจากการเห็นทีมร่วงสู่ เดอะ แชมเปียนชิป โดยยอมรับว่าเกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของตน
“สาลิกาดง” มีอันต้องอำลาเวทีพรีเมียร์ชิป อังกฤษ เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี หลังจากจบฤดูกาล 2008/2009 ด้วยอันดับ 18 เก็บได้เพียง 34 คะแนน ซึ่งล่าสุด แอชลีย์ ออกมาแถลงคำขอโทษต่อสาวก เดอะ แม็กพายส์ ว่า “การเห็น นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกนับเป็นหายนะสำหรับพวกเราทุกคน”
“ผมขอน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้และฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งผมเสียใจอย่างสุดซึ้งจริงๆ เรามีแฟนบอลที่วิเศษที่พร้อมหนุนหลังทีมทั้งในบ้านและนอกบ้านนับพันนับหมื่นคน ไม่ว่าจะขึ้นเหนือล่องใต้พวกเขาก็ตามไปเชียร์ทุกที่ และต้องกล่าวคำขอโทษต่อสตาฟฟ์โค้ชที่ทำงานหนักมาตลอดด้วยเช่นกัน”
“การดึง อลัน เชียเรอร์ กลับคืนสู่สโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในฐานะผู้จัดการทีม น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดเพียงอย่างเดียว อลัน และทีมงานของเขาทุ่มเททุกสิ่งที่เขาสามารถทำเพื่อให้ทีมอยู่รอดต่อไปได้แล้ว แต่ติดข้อจำกัดเรื่องเวลาที่มีน้อยเกินไป”
พร้อมกันนี้ แอชลีย์ยังเผยอีกว่า ตนและ ดีเร็ค แลมเบียส กรรมการผู้จัดการสโมสรดังย่านไทน์ไซด์ได้เรียก “ฮอตช็อต” เข้ามาพบที่สนามซ้อมของทีมเมื่อช่วงบ่ายวันอังคารที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อพูดถึงเรื่องการมอบหมายให้อยู่ทำทีมต่อไปโดยกล่าวว่า “เราได้คุยกันแล้ว รวมถึงแผนการที่จะพาทีมกลับสู่ทิศทางที่ถูกต้องอีกครั้ง”
สำหรับซีซันที่ผ่านมา มหาเศรษฐีร่างท้วมมีปัญหาขัดแย้งกับกองเชียร์นิวคาสเซิล ทั้งการแต่งตั้ง เดนนิส ไวส์ เข้ามาเป็นผู้อำนวยการฟุตบอล จน เควิน คีแกน ทนการถูกแทรกแซงอำนาจไม่ไหวลาออกจากเก้าอี้กุนซือ ตลอดจนการขาย เจมส์ มิลเนอร์ ให้ แอสตัน วิลลา ก่อนปิดตลาดนักเตะรอบแรก และการขายสโมสรไม่สำเร็จ เนื่องจากตั้งราคาสูงเกินไปจนไม่มีใครสู้ไหว