จอห์น เทอร์รี กัปตันทีม เชลซี ตั้งข้อสงสัยต่อการทำหน้าที่ของ ทอม เฮนนิง ออฟเรโบ กรรมการชาวนอร์เวย์ว่าเป็นเรื่องผิดปกติจากการไม่เป่าให้ทีมของตนได้จุดโทษหลายจังหวะทั้งที่มีความชัดเจน ในเกมยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง เมื่อคืนที่ผ่านมา
เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (6 พ.ค.) ในศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ อันเดรส อิเนียสตา มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนซัดประตูช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วย บาร์เซโลนา ไล่ตีเสมอ เชลซี 1-1 พร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศตามกฏยิงประตูทีมเยือนไปพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แต่เกมดังกล่าวมีประเด็นอื้อฉาวให้นำมากล่าวถึงหลังจบ 90 นาทีเกี่ยวกับการตัดสินของ ออฟเรโบ ผู้ตัดสินในสนามที่ไม่ยอมเป่าให้ลูกโทษแก่ เชลซี หลายจังหวะอย่างการทำแฮนด์บอลของ เคราร์ด ปิเก และ ซามูเอล เอโต เป็นต้น
หลังจบเกม ดิดิเยร์ ดร็อกบา ของเจ้าถิ่นออกมาด่ากราดการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินชาวนอร์เวย์ ขณะ เทอร์รี ตั้งข้อสังเกตเช่นกันว่า "หากมองดูภาพรวมทั้งสองนัด บาร์เซโลนา เล่นกันได้ดี แต่ความจริงสำหรับเกมวันนี้คือเรามีจังหวะที่น่าจะได้ลูกจุดโทษ 6-7 ครั้ง แต่กลับไม่ได้เลยซึ่งมันน่าประหลาดใจมาก หากเป็นที่อื่นไม่ว่าที่ใดก็ตามในโลกเรื่องแบบนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น"
“การสบรู้ร่วมคิดอาจเป็นการใช้คำที่ไม่ถูกต้องนัก มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากเมื่อผู้เล่นมีอารมณ์ร่วมอย่างสูงหลังจบเกม ผู้คนพูดกันว่าเราไม่สมควรแสดงปฏิกิริยาแบบนั้นออกมา แต่ความเป็นจริงคือการตัดสิน 6 ครั้งที่ขัดแย้งกับเราต่อหน้าผู้ชม 40,000 คน และกรรมการไม่ยอมเป่าให้เลย จึงเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจแต่อย่างใดที่เราจะลงมายังสนามและแสดงอารมณ์แบบนั้นออกมา เหตุใดกรรมการที่ผ่านการตัดสินในศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก มาเพียง 10 นัดตลอดอาชีพของเขาจึงได้รับหน้าที่ให้มาตัดสินในรอบรองชนะเลิศ ซึ่ง (ประสบการณ์เพียงเท่านี้) ยังดีไม่พอ” ปราการหลังทีมชาติอังกฤษกล่าวปิดท้าย