บาร์เซโลนา สำแดงประสิทธิภาพเกมรุกอีกครั้งด้วยการเปิดบ้านถล่ม เซบีญา ชนิดหมดทางสู้ 4-0 นำโด่งเป็นจ่าฝูงลา ลีกา ต่อไป ส่วน บาเลนเซีย บุกเฉือน รีล เบติส 2-1 เกาะกลุ่มลุ้นตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก อย่างเหนียวแน่น
ศึกลูกหนัง ลา ลีกา สเปน เมื่อคืนวันพุธที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา บาร์เซโลนา ทีมนำของตารางเฝ้ารังคัมป์ นู รับมือ เซบีญา ทีมอันดับ 3 เปิดฉากได้เพียง 3 นาที “เจ้าบุญทุ่ม” ก็เป็นฝ่ายทะลวงตาข่ายออกนำไปก่อน 1-0 อย่างรวดเร็วจากการปั่นโค้งนอกเขตโทษอันเหนือชั้นของ อันเดรส อิเนียสตา
จากนั้นสกอร์ก็ไหลมาเทมา นาทีที่ 17 อิเนียสตา ทำชิ่งหนึ่ง-สองกับ ชาบี เอร์นานเดซ ก่อนแตะนิ่มๆ ให้ ซามูเอล เอโต กดผ่านมือ ฆาบี บาราส ที่ปัดแล้วแต่เอาไม่อยู่ บอลทะลักเข้าซุกก้นตาข่ายเป็น 2-0 ครึ่งหลังนาทีที่ 49 บาร์ซา ต่อบอลกันอย่างไหลลื่น เริ่มจาก เธียร์รี อองรี ทางฝั่งซ้ายมาที่ เอโต ถ่ายต่อไปยัง อิเนียสตา ไหลคืนให้ ชาบี ตะบันหน้าเขตโทษเสียบใต้คานอย่างเด็ดขาด สกอร์ขยับห่างเป็น 3-0
เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 54 อิเนียสตา จ่ายให้ อองรี เลี้ยงจี้กองหลังเซบีญาก่อนโยกหนีแล้วปาดเรียดผ่านการป้องกันของ ฆาบี บาราส เข้าปะทะตาข่ายทางเสาสองแบบหน้าตาเฉย จบเกม บาร์เซโลนา ถล่มแหลก 4-0 เก็บเพิ่มเป็น 81 คะแนน ทิ้งห่างรองจ่าฝูง รีล มาดริด เป็น 6 คะแนน พร้อมทั้งยิงไปแล้วทั้งสิ้น 92 ลูก
อีกคู่ที่น่าสนใจ รีล เบติส พลาดท่าพ่ายคาถิ่นมานูเอล รูอิซ เดอ โลเปรา ให้กับ บาเลนเซีย 1-2 โดย “ค้างคาวทีมเยือน” ได้ 2 ประตูจาก ดาวิด บีญา ดาวยิงทีมชาติสเปนในนาทีที่ 66 และ 79 ส่วนเจ้าบ้านตีไข่แตกจากการหลุดเข้าไปยิงยัดเสาแรกของ ริคาร์โด โอลิเวรา ก่อนจบเกมเพียง 3 นาที
ผลนัดนี้ทำให้ เบติส ยังคงรั้งอันดับ 10 เท่าเดิม มี 37 คะแนน ส่วน บาเลนเซีย มีลุ้นไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก โดยครองอันดับ 4 ของตาราง เก็บเพิ่มเป็น 55 คะแนน
ผลฟุตบอลลา ลีกา สเปน
เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา ชนะ อัลเมเรีย 2-0 (โจน เบร์ดู 1-0 น.49), (ลาสซาด นุยอุย 2-0 น.68)
โอซาซูนา แพ้ มาลากา 2-3 (อันโตนิโอ อาโปโน 0-1 จุดโทษ น.4), (ยาโรสลาฟ พลาซิล 1-1 น.18), (ยาวัด เนคูนาม 2-1 น.33), (มานูเอล ออร์ติซ โลโล 2-2 น.72), (ซัลบาดอร์ บาเยสตา ซัลบา 2-3 น.77)
รีล เบติส แพ้ บาเลนเซีย 1-2 (ดาวิด บีญา 0-1 น.66), (ดาวิด บีญา 0-2 น.79), (ริคาร์โด โอลิเวรา 1-2 น.87)
บาร์เซโลนา ชนะ เซบีญา 4-0 (อันเดรส อิเนียสตา 1-0 น.3), (ซามูเอล เอโต 2-0 น.17), (ชาบี เอร์นานเดซ 3-0 น.49), (เธียร์รี อองรี 4-0 น.54)