เชลซี เกือบได้ล้างตากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก อยู่แล้ว ทว่าถูก อันเดรส อิเนียสตา ปล่อยทีเด็ดซัดตีเสมอช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 ส่งผลให้ บาร์เซโลนา ปาดหน้าเข้าไปชิงดำแทนอย่างเจ็บแสบ
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2552
เชลซี 1–1 บาร์เซโลนา (รวม 2 นัด เสมอ 1-1 บาร์เซโลนา เข้าชิงชนะเลิศด้วยกฎอเวย์โกล์)
นัดชี้ชะตาเข้ารอบชิงชนะเลิศถ้วยใหญ่ของยุโรป เชลซี เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับ บาร์เซโลนา โดยในเลกแรกเสมอกัน 0-0 เกมนี้เจ้าบ้านได้ แอชลีย์ โคล พ้นโทษแบนกลับมายืนแบ็กซ้ายรับมือ ลิโอเนล เมสซี ตัวจี๊ดของทีมเยือน ขณะที่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา กับ นิโกลาส์ อเนลกา เป็นความหวังในการทำสกอร์ ส่วนบาร์ซาปรับแนวรับด้วยการถอย ยายา ตูเร ลงไปยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟ และดัน อันเดรส อิเนียสตา ขึ้นไปเล่นเกมรุกเต็มตัวแทน เธียร์รี อองรี ที่ไม่ฟิตสมบูรณ์
เริ่มเกมเป็นเจ้าบุญทุ่มที่เปิดฉากโจมตีก่อน แต่ยังไม่มีจังหวะซัดให้ ปีเตอร์ เช็ก ออกแรงเซฟ กระทั่งนาทีที่ 9 สิงห์บลูส์ เป็นฝ่ายนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด เปิดไปติด ตูเร บอลกระดอนมาเข้าทาง มิชาแอล เอสเซียง จัดการวอลเลย์ด้วยซ้ายทันทีในระยะ 25 หลา ลูกพุ่งหนีมือ บิคตอร์ บัลเดส เช็ดคานเข้าประตูอย่างงดงาม
สถานการณ์เริ่มเข้าทาง เชลซี นาทีที่ 17 แลมพาร์ด จ่ายทะลุช่องให้ ฟลอร็องต์ มาลูดา หลุดขึ้นไปทางซ้ายก่อนที่ปีกชาวฝรั่งเศสจะตบคืนมาให้ แลมพาร์ด กดด้วยซ้ายในเขตโทษไม่ตรงกรอบ บาร์ซา มีโอกาสลุ้นบ้างใน 4 นาทีต่อมา แต่ ดาเนียล อัลเวส ตะบันฟรีคิกระยะกว่า 35 หลาหลุดเสาไกลออกหลังไป
เจ้าถิ่นยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ นาทีที่ 23 แลมพาร์ด หยอดให้ ดร็อกบา สลัดหนีแนวรับอาคันตุกะ แต่ บัลเดส วิ่งจากเส้นประตูออกมาเคลียร์ได้ทัน ถัดมา 2 นาที ดร็อกบา หลอกยิงฟรีคิกบริเวณเส้นหลังฝั่งซ้ายเข้าหากรอบ ทว่า บัลเดส ยังป้องกันด้วยเข่าออกหลัง จากนั้น จอห์น เทอร์รี หนุนขึ้นมาโขกลูกเตะมุมต่อเนื่องเฉี่ยวเสาสองไปแบบได้เสียว
จากนั้น บาร์เซโลนา พยายามเซตเกมบุกหาช่องเข้าทำ แต่ยังไม่แม่นยำเท่าที่ควร อีกทั้ง เชลซี ยังวางแนวรับป้องกันได้อย่างเหนียวแน่น โอกาสสุดท้ายในครึ่งแรกเกิดขึ้นในช่วงทดเจ็บ เมื่อ ชาบี เออร์นานเดซ ยิงไกลไปติดแล้วบอลมาเข้าทางให้ซัดอีกที แต่ก็หลุดกรอบออกหลัง จบ 45 นาทีแรกเจ้าถิ่นจึงนำอยู่ 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลังเพียงนาทีเดียว ทีมเยือนจากแดนกระทิงดุได้ลุ้นจากลูกฟรีคิก แต่เล่นลูกสูตรหลายจังหวะเกินไป ทำให้ ดร็อกบา เข้ามาขวาง อัลเวส จนยิงออกหลังไปเอง จากนั้นนาทีที่ 52 สิงห์บลูส์หวิดได้ประตูเพิ่ม เมื่อ อเนลกา ใส่พานให้ ดร็อกบา ในเขตโทษก่อนล็อกหลบ เคราร์ด ปิเก แล้วยิงด้วยซ้าย แต่ บัลเดส ยังล้มตัวเซฟไว้ได้ จังหวะสุดท้าย มาลูดา ตามเข้าซ้ำก็ส่งลูกปะทะข้างตาข่าย
เจ้าบุญทุ่มดาหน้าบุกไม่ยั้ง นาทีที่ 61 เซย์ดู เกอิตา ได้บอลในเขตโทษแล้วพยายามหมุนตัวตวัดยิง ทว่าไม่เข้าเป้า ถึงนาทีที่ 66 ก็มีจังหวะปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ เอริก อบิดัล วิ่งเบียดไปกับ อเนลกา จนหัวหอกเจ้าถิ่นล้มลงก่อนถึงเขตโทษ ผู้ตัดสิน ทอม เฮนนิง ออฟเรโบ จากนอร์เวย์ชักใบแดงไล่ อบิดัล โดยมองว่าเจตนาขัดขวาง อเนลกา ไม่ให้เข้าไปสับไกลุ้นประตูที่สอง
ล่วงมายังนาทีที่ 78 อัลเวส ลองส่องฟรีคิกอีกหน แต่ก็โด่งข้ามคาน 2 นาทีให้หลัง ปิเก ดันสูงขึ้นมาเก็บตกซัดหน้าเขตโทษ ทว่า ลูกบดออกข้างเสาไป กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 3 บาร์ซา มาตีเสมอ 1-1 จนได้ เมื่อ อิเนียสตา เก็บบอลซัดจากแถวสอง ลูกพุ่งแหวกแนวรับ เชลซี หนีมือ เช็ก เสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้
ทำให้ บาร์เซโลนา พลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายเข้าชิงชนะเลิศได้อย่างเหลือเชื่อด้วยสกอร์รวม 2 นัดเสมอ 1-1 แต่คว้าชัยตามกฎยิงประตูทีมเยือน โดยจะเข้าไปตัดสินแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามโอลิมปิก สเตเดียม กรุงโรม ประเทศอิตาลี ในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เชลซี – ปีเตอร์ เช็ก, โฮเซ โบซิงวา, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, มิชาแอล เอสเซียง, มิชาเอล บัลลัค, แฟรงค์ แลมพาร์ด, นิโกลาส์ อเนลกา, ฟลอร็องต์ มาลูดา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา
บาร์เซโลนา – บิคตอร์ บัลเดส, ดาเนียล อัลเวส, ยายา ตูเร, เคราร์ด ปิเก, เอริก อบิดัล, เซอร์กี บุสเกตส์, เซย์ดู เกอิตา, ชาบี เออร์นานเดซ, อันเดรส อิเนียสตา, ซามูเอล เอโต, ลิโอเนล เมสซี
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2552
เชลซี 1–1 บาร์เซโลนา (รวม 2 นัด เสมอ 1-1 บาร์เซโลนา เข้าชิงชนะเลิศด้วยกฎอเวย์โกล์)
นัดชี้ชะตาเข้ารอบชิงชนะเลิศถ้วยใหญ่ของยุโรป เชลซี เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับ บาร์เซโลนา โดยในเลกแรกเสมอกัน 0-0 เกมนี้เจ้าบ้านได้ แอชลีย์ โคล พ้นโทษแบนกลับมายืนแบ็กซ้ายรับมือ ลิโอเนล เมสซี ตัวจี๊ดของทีมเยือน ขณะที่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา กับ นิโกลาส์ อเนลกา เป็นความหวังในการทำสกอร์ ส่วนบาร์ซาปรับแนวรับด้วยการถอย ยายา ตูเร ลงไปยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟ และดัน อันเดรส อิเนียสตา ขึ้นไปเล่นเกมรุกเต็มตัวแทน เธียร์รี อองรี ที่ไม่ฟิตสมบูรณ์
เริ่มเกมเป็นเจ้าบุญทุ่มที่เปิดฉากโจมตีก่อน แต่ยังไม่มีจังหวะซัดให้ ปีเตอร์ เช็ก ออกแรงเซฟ กระทั่งนาทีที่ 9 สิงห์บลูส์ เป็นฝ่ายนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด เปิดไปติด ตูเร บอลกระดอนมาเข้าทาง มิชาแอล เอสเซียง จัดการวอลเลย์ด้วยซ้ายทันทีในระยะ 25 หลา ลูกพุ่งหนีมือ บิคตอร์ บัลเดส เช็ดคานเข้าประตูอย่างงดงาม
สถานการณ์เริ่มเข้าทาง เชลซี นาทีที่ 17 แลมพาร์ด จ่ายทะลุช่องให้ ฟลอร็องต์ มาลูดา หลุดขึ้นไปทางซ้ายก่อนที่ปีกชาวฝรั่งเศสจะตบคืนมาให้ แลมพาร์ด กดด้วยซ้ายในเขตโทษไม่ตรงกรอบ บาร์ซา มีโอกาสลุ้นบ้างใน 4 นาทีต่อมา แต่ ดาเนียล อัลเวส ตะบันฟรีคิกระยะกว่า 35 หลาหลุดเสาไกลออกหลังไป
เจ้าถิ่นยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ นาทีที่ 23 แลมพาร์ด หยอดให้ ดร็อกบา สลัดหนีแนวรับอาคันตุกะ แต่ บัลเดส วิ่งจากเส้นประตูออกมาเคลียร์ได้ทัน ถัดมา 2 นาที ดร็อกบา หลอกยิงฟรีคิกบริเวณเส้นหลังฝั่งซ้ายเข้าหากรอบ ทว่า บัลเดส ยังป้องกันด้วยเข่าออกหลัง จากนั้น จอห์น เทอร์รี หนุนขึ้นมาโขกลูกเตะมุมต่อเนื่องเฉี่ยวเสาสองไปแบบได้เสียว
จากนั้น บาร์เซโลนา พยายามเซตเกมบุกหาช่องเข้าทำ แต่ยังไม่แม่นยำเท่าที่ควร อีกทั้ง เชลซี ยังวางแนวรับป้องกันได้อย่างเหนียวแน่น โอกาสสุดท้ายในครึ่งแรกเกิดขึ้นในช่วงทดเจ็บ เมื่อ ชาบี เออร์นานเดซ ยิงไกลไปติดแล้วบอลมาเข้าทางให้ซัดอีกที แต่ก็หลุดกรอบออกหลัง จบ 45 นาทีแรกเจ้าถิ่นจึงนำอยู่ 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลังเพียงนาทีเดียว ทีมเยือนจากแดนกระทิงดุได้ลุ้นจากลูกฟรีคิก แต่เล่นลูกสูตรหลายจังหวะเกินไป ทำให้ ดร็อกบา เข้ามาขวาง อัลเวส จนยิงออกหลังไปเอง จากนั้นนาทีที่ 52 สิงห์บลูส์หวิดได้ประตูเพิ่ม เมื่อ อเนลกา ใส่พานให้ ดร็อกบา ในเขตโทษก่อนล็อกหลบ เคราร์ด ปิเก แล้วยิงด้วยซ้าย แต่ บัลเดส ยังล้มตัวเซฟไว้ได้ จังหวะสุดท้าย มาลูดา ตามเข้าซ้ำก็ส่งลูกปะทะข้างตาข่าย
เจ้าบุญทุ่มดาหน้าบุกไม่ยั้ง นาทีที่ 61 เซย์ดู เกอิตา ได้บอลในเขตโทษแล้วพยายามหมุนตัวตวัดยิง ทว่าไม่เข้าเป้า ถึงนาทีที่ 66 ก็มีจังหวะปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ เอริก อบิดัล วิ่งเบียดไปกับ อเนลกา จนหัวหอกเจ้าถิ่นล้มลงก่อนถึงเขตโทษ ผู้ตัดสิน ทอม เฮนนิง ออฟเรโบ จากนอร์เวย์ชักใบแดงไล่ อบิดัล โดยมองว่าเจตนาขัดขวาง อเนลกา ไม่ให้เข้าไปสับไกลุ้นประตูที่สอง
ล่วงมายังนาทีที่ 78 อัลเวส ลองส่องฟรีคิกอีกหน แต่ก็โด่งข้ามคาน 2 นาทีให้หลัง ปิเก ดันสูงขึ้นมาเก็บตกซัดหน้าเขตโทษ ทว่า ลูกบดออกข้างเสาไป กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 3 บาร์ซา มาตีเสมอ 1-1 จนได้ เมื่อ อิเนียสตา เก็บบอลซัดจากแถวสอง ลูกพุ่งแหวกแนวรับ เชลซี หนีมือ เช็ก เสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้
ทำให้ บาร์เซโลนา พลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายเข้าชิงชนะเลิศได้อย่างเหลือเชื่อด้วยสกอร์รวม 2 นัดเสมอ 1-1 แต่คว้าชัยตามกฎยิงประตูทีมเยือน โดยจะเข้าไปตัดสินแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามโอลิมปิก สเตเดียม กรุงโรม ประเทศอิตาลี ในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เชลซี – ปีเตอร์ เช็ก, โฮเซ โบซิงวา, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, มิชาแอล เอสเซียง, มิชาเอล บัลลัค, แฟรงค์ แลมพาร์ด, นิโกลาส์ อเนลกา, ฟลอร็องต์ มาลูดา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา
บาร์เซโลนา – บิคตอร์ บัลเดส, ดาเนียล อัลเวส, ยายา ตูเร, เคราร์ด ปิเก, เอริก อบิดัล, เซอร์กี บุสเกตส์, เซย์ดู เกอิตา, ชาบี เออร์นานเดซ, อันเดรส อิเนียสตา, ซามูเอล เอโต, ลิโอเนล เมสซี