หนุ่มน้อยหัวใจสิงห์สมนามสกุลรายนี้นับเป็นพ่อค้าแข้งจาก สปป.ลาว รายแรกที่ได้โลดแล่นบนเวทีลีกอาชีพในต่างแดน หลังจาก “มนุษย์ไฟฟ้า” การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ดึงตัวมาเสริมคมแดนหน้า เพื่อป้องกันแชมป์ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 แต่กว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ เขาได้ผ่านร้อนผ่านหนาวบนเส้นทางความฝันมาไม่น้อย ทีมข่าว MGR Sport มีโอกาสได้พูดคุยชนิดเปิดใจเพื่อให้แฟนลูกหนังชาวไทยได้รู้จักกับเด็กหนุ่มจากอีกฟากฝั่งโขงผู้มีนามว่า “ลำเนา สิงโต” มากขึ้น
ย้ายมาเล่นให้กับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้อย่างไร ?
ลำเนา : ช่วงปลายปีที่แล้วผมติดทีมชาติชุดสู้ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2008 ซึ่ง ลาว สามารถผ่านรอบคัดเลือกเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้ แม้จะตกรอบแรก แต่ก็มีผู้ใหญ่ของ การไฟฟ้าฯ เห็นฟอร์มจึงติดต่อให้ผมไปร่วมทีม อันที่จริงก็มี ฮอง อันห์ ยาลาย (ทีมจาก วี-ลีก เวียดนาม) เคยให้ความสนใจแต่ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร เนื่องจากเขาไม่ได้นัดพูดคุยรายละเอียดส่วนตัว ประกอบกับทาง การไฟฟ้าฯ จริงจังมากกว่าทำให้บรรลุข้อตกลงในที่สุด
ก่อนหน้านี้เคยค้าแข้งให้กับสโมสรใดมาบ้าง ?
ลำเนา : ทีมแรกของผมคือ กระทรวงคมนาคมของลาว เล่นตั้งแต่ระดับเยาวชนจนติดทีมชุดใหญ่ จากนั้นก็ย้ายมาอยู่กับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในดิวิชัน 2 ของไทย พ.ศ.2550 ปีถัดมาก็ย้ายไปยัง ราชประชา จนกระทั่งมาเล่นที่ การไฟฟ้าฯ ในปีนี้ซึ่งผมดีใจมาก เพราะความฝันของนักฟุตบอลชาวลาวทุกคนคือการได้ค้าแข้งในลีกอาชีพ ซึ่งในประเทศลาวยังไม่มีลีกอาชีพ
กิจวัตรในแต่ละวันที่สโมสรการไฟฟ้าฯ มีอะไรบ้าง ?
ลำเนา : ตื่นเช้าขึ้นมาก็ดูโทรทัศน์ก่อนในห้องพักที่สโมสรก่อน ช่วงเช้าในวันที่ไม่มีแข่งก็เป็นการพักผ่อนตามอัธยาศัย จากนั้นช่วงบ่ายถึงเย็นจะเป็นการซ้อมทีม ในแต่ละสัปดาห์จะมีวันหยุด 1 วัน คือวันอาทิตย์ แต่อาจปรับเปลี่ยนตามโปรแกรมแข่งขัน ในวันพักผ่อนก็ไปเดินห้างบ้าง ดูหนังบ้าง ส่วนใหญ่ผมชอบดูหนังแนวตลก
ค่าตอบแทนที่ได้รับล่ะ ?
ลำเนา : สโมสรมีเงินเดือนให้ (อัตราเงินเดือนนักเตะของ สฟภ. 25,000-70,000 บาท) รวมถึงเบี้ยเลี้ยงซ้อมวันละ 500-600 บาท และโบนัสหากทีมชนะนัดละ 100,000 บาท
ทีมฟุตบอลระดับโลกในดวงใจและนักเตะที่ยึดเป็นแบบอย่างในการค้าแข้ง ?
ลำเนา : ผมเชียร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วก็ชอบ เวย์น รูนีย์ เพราะเขาเป็นศูนย์หน้าที่มีสไตล์การเล่นที่ผมประทับใจและคิดว่าตัวเองเล่นแบบเดียวกับเขา คืออาศัยความแข็งแกร่ง ความขยันเข้ากดดันคู่ต่อสู้ เก็บบอล พักบอลในแดนหน้า และหาโอกาสทำทางให้เพื่อนเข้าไปทำประตู รวมถึงหาจังหวะยิงด้วยตัวเอง ส่วนนักเตะบ้านเดียวกัน ผมชื่นชมในตัว อ.บุญลับ เคนกิตติศักดิ์ อดีตนักเตะทีมชาติซึ่งเป็นรุ่นพี่ของผมในทีมกระทรวงคมนาคม พอเลิกเล่นเขาก็ผันตัวไปเป็นโค้ชของทีม รวมถึงก้าวขึ้นไปทำทีมชาติทั้งชุดเยาวชนและชุดใหญ่
ได้ยินมาว่า ลำเนา เข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้ง่าย เป็นตัวโจ๊กในห้องแต่งตัว ไม่ทราบว่าจริงเท็จขนาดไหน ?
ลำเนา : ผมก็คุย เล่น หยอกล้อกับเพื่อนร่วมทีมได้ทุกคน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพวกนักเตะรุ่นพี่ในทีมมากกว่าที่เข้ามาแหย่ ผมก็เล่นกับพวกเขาด้วย ส่วนคนที่ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยที่สุดเป็น ภาณุพงศ์ วงศ์ษา ซึ่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
เคยมีเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกท้อแท้จนไม่อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพบ้างหรือไม่ ?
ลำเนา : ตอนอายุ 16 ปีที่ผมเล่นอยู่กับ กระทรวงคมนาคมลาว เคยโดนสไลด์สองเท้าจนได้รับบาดเจ็บหนักถึงขั้นต้องผ่าตัดหัวเข่าขวา และพักรักษาตัวนาน 8 เดือน ช่วงนั้นรู้สึกทรมานมาก แต่โชคดีที่ได้กำลังใจจากครอบครัวและเพื่อนฝูง ซึ่งบอกว่าผมอายุยังน้อย สามารถเติบโตบนเส้นทางนี้ได้อีกไกล ทำให้ผมมีกำลังใจจนกระทั่งหายเป็นปลิดทิ้งในที่สุดหลังจากเดินทางไปทำกายภาพบำบัดเพิ่มเติมที่เวียดนาม
มีบทบาทอย่างไรบ้างใน ซีเกมส์ ที่ลาวเป็นเจ้าภาพในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ?
ลำเนา : หน้าที่ที่ใกล้ตัวผมที่สุดคือการเล่นฟุตบอลให้กับทีมชาติลาว ซึ่งตอนนี้เริ่มเก็บตัวกันแล้ว หากมีโปรแกรมอุ่นเครื่องแล้วเราติดทีมก็จะกลับไปเล่นให้บ้านเกิด แต่ขึ้นอยู่กับว่าผู้หลักผู้ใหญ่ของการไฟฟ้าฯ จะอนุญาตหรือไม่ด้วย เมื่อถึงเวลาแข่งจริงก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อชื่อเสียงของประเทศและศักดิ์ศรีในฐานะเจ้าภาพที่เรารับหน้าเสื่อครั้งแรก ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น การประชาสัมพันธ์การแข่งขันหรือวิ่งคบเพลิง ต้องรอให้เวลาใกล้เข้ามาก่อนจึงจะทราบว่าประเทศลาวจะให้เราทำหน้าที่อะไรเพิ่มเติม