ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด แสดงความคิดเห็นส่วนตัวว่าเหล่าสิงห์เชิ้ตดำที่ลงเป่าในไทยลีกไม่มีการลำเอียงหรือเข้าข้างใครเป็นพิเศษ เพียงแต่ยังต้องปรับปรุงมาตรฐานในการวินิจฉัยเกมให้ดีกว่านี้
การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินนับเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางมากสำหรับศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ตลอด 6 นัดที่ผ่านมา โดยบรรดาเฮดโค้ช สตาฟฟ์โค้ช ตัวผู้เล่น รวมถึงแฟนบอลหลายสโมสรต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข หากต้องการให้วงการฟุตบอลไทยพัฒนา มีมาตรฐานทัดเทียมสากล
ซึ่งจากการที่ผู้สื่อข่าว MGR Sport ได้ไปเกาะติดการแข่งขันถึงขอบสนามในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีเหตุการณ์ค้านสายตาทั้งในคู่วันเสาร์ที่ เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด เฉือน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1-0 ซึ่ง วิศรุต พันนาสี กับ ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ทั้งที่ผลักอกกันเล็กน้อยหลังปะทะหนักกันในเกมจนมีอาการฮึดฮัด
อีกกรณีหนึ่งอยู่ในเกมระหว่าง โอสถสภา เอ็ม-150 กับ การท่าเรือไทย เอฟซี ซึ่งฝ่ายแรกบดคว้าชัย 2-1 โดยจุดที่เป็นที่ถกเถียงคือการให้ “พลังเอ็ม” ได้จุดโทษถึง 2 หน และการเป่าฟาวล์บ่อยครั้งโดยไม่จำเป็น
ด้าน ดร.วิชิต ออกมาพูดถึงประเด็นดังกล่าวว่า “โดยภาพรวมผมคิดว่าบรรดาผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้ค่อนข้างดี แต่ก็มีบางจังหวะที่ตัดสินผิดพลาดบ้าง อย่างไรก็ตาม ผมนั่งดูอยู่บนอัฒจันทร์ซึ่งอาจมองเห็นเหตุการณ์ไม่ชัด ต้องดูจากวิดีโอเทปอีกทีหนึ่งถึงจะรู้ว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน แต่ฟุตบอลเป็นเกมที่เร็ว ยิ่งคู่ที่สูสียิ่งยากที่จะดูได้ทัน”
ประธานใหญ่ไทยลีกชี้ชัดถึงแนวทางการแก้ปัญหาเบื้องต้นว่า “ถ้าผู้ตัดสินทำการบ้านว่าคู่ไหนมีแนวโน้มว่าจะเป็นเกมที่เล่นเร็ว มีความสามารถใกล้เคียงกัน พวกเขาก็ต้องตัดสินให้เฉียบคมเด็ดขาดมากขึ้น เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและสามารถปรามผู้เล่นได้โดยไม่มีใครกล้าเถียง ที่ผ่านมาผู้เล่นบางคนไม่ค่อยเคารพการตัดสินเพราะภาพลักษณ์เดิมๆ ของกรรมการมันยังฝังใจอยู่”
ดร.วิชิต กล่าวสรุปถึงมาตรฐานนกหวีดของสิงห์เชิ้ตดำในไทยลีกในภาพรวมว่า “ผมเชื่อว่ากรรมการตัดสินไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่สิ่งที่ยังต้องแก้ไขคือเรื่องการมองเกม ซึ่งบางจังหวะก็มองไม่ทัน หรือการใช้วิจารณญาณในบางจังหวะก็รุนแรงเกินไป เช่น จังหวะแจก 2 ใบแดงในเกมเมืองทองฯ กับการไฟฟ้าฯ ที่อาจให้แค่ใบเหลืองเตือนก่อนก็ได้”