"ภราดร" เห็นใจ "คอเรีย" หมดไฟจนแขวนแร็กเกต

ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสมือ 9 ของโลกขวัญใจชาวไทยรู้สึกเห็นใจ กิลเลร์โม คอเรีย อดีตนักเทนนิสมือ 3 ของโลกชาวอาร์เจนตินาที่หมดไฟจนประกาศแขวนแร็กเกตไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

เมื่อวันอังคารที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา "เอล มาโก" กิลเลร์โม คอเรีย วัย 27 ปีออกมาประกาศเลิกเล่นเทนนิสอาชีพอย่างเป็นทางการหลังจากประสบปัญหาอาการบาดเจ็บไหล่ขวาและขาดความมั่นใจอย่างหนัก ต่อเนื่องมาตั้งแต่ครั้งพ่ายแพ้ให้กับ กาสตอง เกาดิโอ เพื่อนร่วมชาติในรอบชิงชนะเลิศ เฟรนช์ โอเพนปี 2004 โดยรายการสุดท้ายในทัวร์ของอดีตมือ 3 ของโลกคือ เอทีพี ชาลเลนเจอร์ แบงค็อก โอเพน ที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ซึ่งหลังทราบเรื่องเพื่อนร่วมอาชีพเลิกเล่นกระทันหัน "ซูเปอร์บอล" ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตมือ 9 ของโลกวัย 29 ปีได้ออกมาแสดงความเห็นใจผ่านผู้สื่อข่าว Mgr Sport

"2-3 ปีหลัง คอเรีย มีปัญหาบาดเจ็บต่อเนื่องจนต้องหยุดไปนาน ก่อนหน้านั้นเขาเป็นนักเทนนิสที่น่ากลัวมากๆ ตัวเล็กจริงแต่การตีบอลและความเหนียวแน่นก็ทำให้เขาเข้าชิงชนะเลิศ เฟรนช์ โอเพน และขึ้นเป็นมือ 3 ของโลกมาแล้ว" ภราดร กล่าว "อาการบาดเจ็บและสภาพจิตใจคงเป็นสาเหตุที่ทำให้ คอเรีย ตัดสินใจอยากไปใช้ชีวิตแบบอื่นๆที่ไม่ใช่นักกีฬา"

"เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยแต่ คอเรีย คงคิดว่าเล่นเทนนิสมามากพอแล้ว ถึงจะเล่นต่อไปก็อีกแค่ 1-2 ปีเดี๋ยวก็ต้องเลิกเล่นอยู่ดี สู้ไปตอนนี้เลยดีกว่า ผมเสียดายเเทนวงการเทนนิสจริงๆที่ต้องเสียนักเทนนิสคุณภาพไปหนึ่งคน" ซูเปอร์บอล ซึ่งประกาศจะคืนสนามใน ไทยแลนด์ โอเพน เดือนกันยายนนี้หลังพักไปนาน 2 ปีเศษ ทิ้งท้าย

สำหรับ กิลเยร์โม คอเรีย ขึ้นเป็นมือ 3 ของโลกและเข้าชิง เฟรนช์ โอเพน ในปี 2004 เคยคว้าแชมป์ทั้งหมด 9 รายการ โดย 8 รายการดังกล่าวเป็นแชมป์บนคอร์นดิน ด้าน ภราดร ศรีชาพันธุ์ เคยคว้าแชมป์ได้ 5 รายการ รวมทั้งเคยก้าวเป็นมืออันดับ 9 ของโลกในปี 2003 โดยทั้งคู่มีโอกาสดวลกัน 3 ครั้งในปี 2005 ซึ่งภราดรชนะได้ที่ร็อตเตอร์ดัมก่อนมาแพ้ คอเรีย ที่ อินเดียน เวลส์ และ ซินซิเนติ