"เราไม่เคยเจอกับสถานการณ์อันยากลำบากเช่นนี้มาก่อน นับจากนี้เป้าหมายของเราต้องตั้งอยู่บนความเป็นจริง ผมหวังเพียงให้ทีมพัฒนารถให้ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว และพยายามความแชมป์ให้ได้สักสนาม" ข้างต้นเป็นคำให้สัมภาษณ์แบบยอมรับสภาพของ คิมี ไรค์โคเนน อดีตแชมป์โลกปี 2007 หลังเฟอร์รารีต้นสังกัดออกสตาร์ทฤดูกาลรถสูตรหนึ่งได้ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 28 ปี
ในขณะที่พลพรรคบรอว์นจีพี, โตโยต้า และเรดบูลล์ เรซซิง กำลังแย่งชิงพื้นที่แถวหน้าของกริดสตาร์ทกันอย่างสนุกมือ อีกฝากหนึ่ง แชมป์โลกประเภทผู้ผลิตทีมล่าสุดอย่างเฟอร์รารีกำลังต้องดิ้นรนเพื่อที่จะให้ทีมมีคะแนนสะสมติดมือในแต่ละสนาม เมื่อผลการแข่งขันหลังผ่าน 3 สนามแรก ทีม "ม้าลำพอง" ยังเก็บคะแนนไม่ได้แม้แต่แต้มเดียว รวมถึงมีแต้มตามหลังน้องใหม่อย่างบรอว์นจีพีไปแล้ว 36 คะแนน ขณะเดียวกันยังรั้งบ๊วยในตารางแชมเปียนชิป ร่วมกับฟอร์ช อินเดีย
ย้อนกลับไปในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล เฟอร์รารี หวังโชว์ศักยภาพการกลับมารักษาแชมป์โลก ด้วยการชิงเปิดตัว F60 รถแข่งคันใหม่สำหรับปี 2009 เป็นทีมแรกในเดือนมกราคม พร้อมแหวกประเพณีการใช้ชื่อรถแข่ง เป็น F60 เพื่อฉลองการเข้าร่วมฟอร์มูลา วัน เป็นปีที่ 60 แทนที่จะใช้ชื่อ F2009 ตามที่เคยตั้งชื่อตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา โดยลูกา ดิ มอนเตเซโมโล ประธานทีมมั่นใจว่า เฟลิเป มาสซา และคิมี ไรค์โคเนน จะช่วยกันทวงบัลลังก์แชมป์โลกประเภทบุคคลคืนจาก ลูอิส แฮมิลตัน ได้อย่างไม่ยากเย็น
ทว่าจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเรื่องกฎกติกาปี 2009 ของสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) ไล่ตั้งแต่เรื่องยาง, ชุดอากาศพลศาสตร์ รวมไปถึงการเปิดโอกาสให้นำเทคโนโลยี KERS เข้ามาใช้ในรถแข่ง มีการคาดการณ์จากผู้คร่ำหวอดในวงการรวมถึงจากสื่อมวลชนสายมอเตอร์สปอร์ตว่ารถสูตรหนึ่งฤดูกาลนี้ จะขับเคี่ยวกันอย่างสูสีมากกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าผลงานของ เฟอร์รารี จะดำดิ่งได้ถึงเพียงนี้
โดยความตกต่ำของยอดทีมแข่งอิตาเลียนในครั้งนี้ ถือเป็นการออกสตาร์ทฤดูกาลที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 28 ปี นับจากปี 1981 ที่ จิลล์ วิลล์เนิร์ฟ และดิดิเยร์ เปอร์โอนี 2 นักขับประจำทีมในยุคนั้น ไม่สามารถนำรถจบการแข่งขันเลยใน 3 สนามแรกของฤดูกาล ก่อนที่ วิลล์เนิร์ฟ จะกู้หน้าให้ทีมด้วยการคว้าแชมป์สนามที่ 6 ที่โมนาโก และสนาม 7 ที่สเปน เป็นการปลอบใจ และนำทีมจบฤดูกาลในอันดับที่ 5 ของตารางแชมเปียนชิป ประเภทผู้ผลิต
ปัญหาใหญ่ของทีม "ม้าลำพอง" ในเวลานี้คือการที่รถ F60 ไม่สามารถทำความเร็วได้เทียบเท่าทีมหัวแถวอย่างบรอว์น จีพี แม้กระทั้งเรดบูลล์ได้เลย สังเกตจากการทำเวลาต่อรอบ ในการควอลิฟายที่เซียงไฮ้ จ้าวความเร็วอย่าง คิมี ทำเวลาต่อรอบช้ากว่า เซบาสเตียน เวทเทล เจ้าของตำแหน่งโพลโพซิชัน ร่วม 2 วินาที ยิ่งไปกว่านั้น ในวันแข่ง F60 ยังถูกรถทีมรองบ่อนอย่าง โตโรรอสโซ และโตโยต้า ไล่แซงได้แบบง่ายดายชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
โดยงานหนักที่ทีมงานเฟอร์รารี ต้องรีบแก้ไขเป็นการด่วน ก่อนที่เอฟวันสนามสนามที่ 4 จะเริ่มขึ้นที่บาห์เรน ในสุดสัปดาห์นี้ คือการปรับปรุงชุดแอโรไดนามิกในรถ F60 ที่ยังไม่ลงตัว ซึ่งสเตฟาโน โดเมนิคาลี ทีมบอส ออกมายอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่ทีมจะนำช่องระบายอากาศด้านหลัง (diffusers) แบบสองชั้น ที่ใช้ในรถ บรอว์นจีพี ,โตโยต้า และวิลเลียมส์ มาปรับใช้ในรถของตัวเอง หลังศาลอุทธรณ์แห่งสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (ไอซีเอ) ไฟเขียวให้ 3 ทีมดังกล่าวติดตั้งโดยไม่ผิดกฎเอฟไอเอ
นอกจากนี้กลยุทธ์ในสนาม อันเป็นจุดแข็งของทีมในยุคที่มี ฌอง ทอดด์ เป็นทีมบอส ก็หายไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฟอร์รารีภายใต้การคุมทัพของโดเมนิคาลี แสดงความผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัยใน 2 เรซล่าสุด เริ่มจากในศึกมาเลเซียนกรังด์ปรีซ์ ที่ตัดสินใจเปลี่ยนยางสำหรับทางเปียกให้คิมี ทั้งที่ฝนยังไม่ตกลงมา จนนักขับฟินแลนด์ อันดับรูดจบการแข่งขันเพียงที่ 14 ขณะที่เรซล่าสุดที่เซี่ยงไฮ้ ทีมงานสั่งให้ เฟลิเฟ มาสซา หยุดนำรถลงควอลิฟายเซ็กชันที่ 2 ทั้งที่ขับไปได้แค่ 4 รอบ หลังมั่นใจว่าเวลาที่ทำได้ดีพอจะทำให้ผ่านเข้าไปสู่การควอลิฟายรอบสุดท้าย แต่สุดท้ายรองแชมป์โลก 2008 ได้ออกตัวจากกริดที่ 13 เท่านั้น
อย่างไรก็ดีท่ามกลางผลงานอันตกต่ำ แฟนๆม้าสีแดงเพลิง ก็ยังพอมีความหวังอยู่บ้าง เมื่อ มาสซา รองงแชมป์โลกปี 2008 มองโลกในแง่ดีว่า "ผมอยากจะบอกไปยังแฟนๆว่าอย่าเพิ่งหมดหวังในทีมของเรา จริงอยู่ที่เรากำลังตกในสถานการณ์ที่ลำบาก มันทำให้ผมผิดหวังมาก แต่หนทางการลุ้นแชมป์ยังอีกยาวไกล เรายังมีความมุ่งมั่นอยู่เต็มเปี่ยม ซึ่งทุกคนในทีมจะช่วยกันฝ่าวิกฤตินี้ไปให้ได้"
ณ เวลานี้ ของฤดูกาลที่แล้ว ไรค์โคเนน และ มาสซา ผลัดกันลุ้นว่าใครจะเป็นแชมป์ หรือใครจะขึ้นไปฉลองชัยบนโพเดียม แต่เวลานี้ทั้งคู่ต้องลุ้นเพียงติด 1 ใน 8 เพื่อเก็บแต้มให้ทีมเท่านั้น 14 สนามที่เหลือนับจากนี้ น่าติดตามว่า เฟอร์รารี จะใช้สนามใดเป็นเวทีคัมแบ็ค หรือจะปล่อยให้บรรดาทีมม้ามืดยึดครองบัลลังก์เมื่อจบฤดูกาล
