แชมป์โลกในกำมือ “แฮมิลตัน” ?

แม้ว่า ลูอิส แฮมิลตัน ยอดนักขับฝีมือดีจากค่ายแม็คลาเรน จะเป็นบุคคลที่เข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์โลกรถสูตรหนึ่งฤดูกาลนี้มากที่สุด หลังมีคะแนนสะสมนำห่าง เฟลิเป มาสซา คู่แข่งจากเฟอร์รารีอยู่ ถึง 7 คะแนน ขณะที่เหลือการชิงชัยอีกเพียง 1 สนาม แต่กระนั้นก็ยังเป็นเครื่องหมายคำถามสำหรับคอความเร็วทั่วโลก ว่านักซิ่งขวัญใจชาวอังกฤษรายนี้จะมีดีพอกับการก้าวไปเป็น "แชมป์โลก" ได้หรือไม่

หลังจากจบศึกเจแปนนิสกรังด์ปรีซ์ ณ ฟูจิ สปีดเวย์ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา แฮมิลตัน ที่จบการแข่งขันเพียงอันดับที่ 12 ไม่มีคะแนนติดมือ ถูกสื่อมวลชนสายมอเตอร์สปอร์ตเปิดประเด็น ถึงความเป็นได้ที่จะมีประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเกิดขึ้นกับนักขับ 23 ปี อีกครั้ง หลังเคยวืดแชมป์โลกในช่วง 2 สนามสุดท้ายแบบน่าเจ็บใจเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งที่มีคะแนนนำห่าง คิมี ไรค์โคเนน จากเฟอร์รารีถึง 17 คะแนน

โดยการแข่งขันบนดินแดนปลาดิบ นักซิ่งผิวสีสร้างความผิดพลาดตั้งแต่ในช่วงสตาร์ท เมื่อออกตัวไม่ดีจนถูกรถของไรค์โคเนนแซงขึ้นหน้า แต่ยังไม่ทันจะพ้นโค้งแรก ด้วยความใจร้อนที่จะทวงตำแหน่งผู้นำคืนให้ได้เร็วที่สุด ลูอิสก็ทำเรื่องที่หลายคนไม่คาดคิด ด้วยการเบรกลึกขณะเข้าโค้ง จนทำให้รถอีกหลายคันที่ตามมาต้องหลบจนหลุดออกนอกแทร็กไปตามๆกัน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการแข่งขันต้องเรียก รถหมายเลข 22 เข้าไปปรับโทษในพิตเลน นับเป็นการถูกลงโทษครั้งที่ 6 ของแฮมิลตันในฤดูกาลนี้

หลังจบการแข่งขันในสนามดังกล่าว แฮมิลตัน ถูกเพื่อนนักขับหลายคน ทั้ง คิมี ไรค์โคเนน จากเฟอร์รารี,ยาร์โน ทรูลีย์ จากโตโยต้า,โรเบิร์ต คูบิกา ของบีเอ็มดับเบิลยู รวมถึงมาร์ค เว็บเบอร์ จากเรดบูล รุมประณามว่าขับรถอันตรายเกินความจำเป็น โดยคิมีให้ความเห็นว่า "พฤติกรรมการขับของ แฮมิลตันในการเข้าโค้งแรกที่ฟูจิบ่งบอกทุกอย่างได้ชัดเจน เขาไม่ควรที่จะเดินคันเร่งเข้าไปในจังหวะนั้น เวลาเข้าโค้งแรกไม่ว่าจะสนามไหนก็ตาม คุณควรจะอยู่ในตำแหน่งเดิมไปจนกว่าจะออกจากโค้ง ผมก็ไม่รู้จริงๆว่า ตอนที่อยู่หลังผม(รถของแฮมิลตัน)เขาคิดอะไรอยู่ มันคือการขับที่เแย่มากๆ"

ซึ่งแม้ว่าล่าสุด นักซิ่งผิวสีจะกลับมาโชว์ฟอร์มสมราคาว่าที่แชมป์โลก ด้วยการควบรถออกสตาร์ทจากตำแหน่งโพลโพซิชัน นำม้วนเดียวจบคว้าแชมป์ ไชนีส กรังด์ปรีซ์ ที่เซี่ยงไฮ้ มาได้สดๆร้อนๆ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่เรื่องน่าหวาดเสียวของแฮมิลตันในเวลานี้ก็คือ เจ้าตัวมีแต้มนำเฟลิเป มาสซา นักขับอันดับ 2 ในตารางแชมเปียนชิปอยู่ 7 คะแนน อันเป็นช่องห่างที่เท่ากับตอนที่ นำ คิมี ไรค์โคเนน ก่อนถึงสนามสุดท้ายในฤดูกาลที่แล้วไม่มีผิดเพี้ยน

เรื่องดังกล่าวฟลาบิโอ เบียร์ตอเร ทีมบอสค่ายเรโนลต์ ถึงกับออกมาฟันธงว่า เฟลิเป มาสซา น่าจะเป็นแชมป์โลกในฤดูกาลนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า แฮมิลตันยังไม่นิ่งพอกับสถานการณ์กดดันในจังหวะสำคัญที่ต้องตัดสินใจ "ในความเห็นของผม มีโอกาสสูงที่แฮมิลตันจะพลาดแชมป์โลกอีกครั้ง ในปีที่แล้วเขาและแม็คลาเรนน่าจะเป็นแชมป์ได้ไม่ยาก แต่กลับไม่สามารถรักษา ช่องห่าง 17 แต้ม ใน 2 สนามสุดท้ายไว้ได้"

"มันคือความเสียหายที่น่าจะถูกบันทึกลงกินเนสส์บุคเสียจริงๆ ซึ่งเวลานี้ช่องห่างของเขาเดินทางมาอยู่ที่ 7 แต้มอีกครั้งแล้ว เขาเป็นนักขับที่สุดยอดของวงการก็จริง แต่การที่จะเป็นแชมป์คุณต้องมีอะไรมากกว่านั้น เขาเปรียบเสมือนกองหน้าที่เล่นสวยงาม แต่ยิงชนเสาชนคาน ซึ่งมันไม่มีประโยชน์เลย" เบียร์ตอเรร่ายยาว

เช่นเดียวกับมาร์ค เว็บเบอร์ นักซิ่งออสเตรเลียนจากทีมเรดบลู ที่มองว่า "ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะออกมาโจมตีเขา แต่มันคือวิธีการของผู้ชนะที่เขาจำเป็นต้องเรียนรู้ ยอดนักกีฬาอย่างไทเกอร์ วูดส์ หรือ โรเจอร์ เฟเดอร์เรอร์ ล้วนเคยผ่านจุดนี้มาแล้ว ซึ่งลูอิสจำเป็นต้องเรียนรู้มัน"

แต่กระนั้นนักขับหมายเลข 1 จากเกาะอังกฤษ มองว่าความผิดพลาดเมื่อฤดูกาลที่แล้วทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้นและไม่มีวันที่แชมป์โลกจะหลุดมือ "ผมมักจะเข้าไปดูภาพการแข่งขันของตัวเองเมื่อปีที่แล้วทางยูทูป มันเป็นความผิดพลาดที่งี่เง่าจริงๆ โดยเฉพาะการขับตกบ่อกรวดที่เซี่ยงไฮ้ระหว่างนำรถเข้าพิต นั่นคือความผิดพลาดที่ผมได้เรียนรู้"

"ความปวดร้าวจาก 2 สนามสุดท้ายของปี 2007 สอนผมให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และชัยชนะที่จีนคืออีกก้าวที่สำคัญในการไปสู่ตำแหน่งแชมป์โลกของผม ตอนนี้เป้าหมายของทุกคนในทีมจับจ้องไปที่บราซิลอย่างเดียวเท่านั้น ผมคิดว่าเราจะลบฝันร้ายจากปีที่แล้วด้วยผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมได้แน่นอน" ลูอิสกล่าวด้วยความมั่นใจ

จาก 7 แต้มที่นำอยู่ในตารางแชมเปียนชิป อาจกล่าวได้ว่า ตำแหน่งแชมป์โลก 2008 อยู่ในกำมือของนักขับชาวเมืองผู้ดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เว้นแต่ว่า แฮมิลตัน จะก่อความผิดพลาดให้ตัวเองอีกครั้งในสนามสุดท้ายที่ประเทศบราซิล ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า