xs
xsm
sm
md
lg

"เฟอร์รารี" พังพาบ! "อลอนโซ" พลิกโผแชมป์สิงคโปร์ไนท์เรซ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เฟอร์นานโด อลอนโซ แชมป์สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์
เฟอร์นานโด อลอนโซ อดีตแชมป์โลก 2 สมัยจากทีมเรโนลต์ ทำผลงานสุดยอดหลังออกสตาร์ทจากกริดที่ 15 ทะลุขึ้นมาคว้าแชมป์เอฟวันไนท์เรซที่ประเทศสิงคโปร์ได้สำเร็จ ขณะที่ 2 คู่หูจากเฟอร์รารี ฟอร์มสุดบู่ไร้แต้มติดมือ

รถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลกสนามที่ 15 ของฤดูกาล เป็นคิวการแข่งขันช่วงเวลากลางคืนครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในศึกสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ ที่มารินาเบย์ สตรีทเซอร์กิต ใจกลางเมืองสิงคโปร์ซิตี โดยมีความยาวต่อรอบ 5.067 กิโลเมตร ดวลกันทั้งหมด 61 รอบสนาม

การแข่งขันในสนามนี้ เกิดเหตุการณ์พลิกผันครั้งสำคัญ เมื่อจากรถเรโนลต์ของเนลซินโญ ปิเกต์ หลุดไปฟาดกำแพงในรอบที่ 14 จนทำให้รถเซฟตีคาร์ต้องออกมานำ จากนั้นอีก 3 รอบต่อมา รถกลุ่มผู้นำทั้ง เฟลิเป มาสซา ,ลูอิส แฮมิลตัน และคิมี ไรค์โคเนน พาเหรดเข้าพิต

ซึ่งจากความผิดพลาดของป้ายอิเล็กทรอนิกส์ของทีมม้าลำพอง ส่งผลให้มาสซา ขับรถออกจากพิตทั้งที่สายเติมน้ำมันยังไม่หลุดออกจากถัง ทำให้เสียเวลาในพิต จนตกมารั้งในอันดับสุดท้ายของการแข่งขัน ขณะที่แฮมิลตัน และไรค์โคเนน ก็เสียจังหวะจากการเข้าพิตในรอบดังกล่าวเช่นกัน

ส่งผลให้แชมป์ในสนามนี้ ตกเป็นของ เฟอร์นานโด อลอนโซ จากค่ายเรโนลต์ ที่รับธงหมากรุกเป็นคันแรกด้วยเวลารวม 1 ชั่วโมง 57 นาที 19.304 วินาที ตามด้วย นิโค รอสเบิร์กดาวรุ่งจากทีมวิลเลียมส์ ในอันดับที่ 2 โดยมี ลูอิส แฮมิลตัน ผู้นำในตารางแชมเปียนชิป จากแม็คลาเรน เข้าที่ 3 ทำเวลาตามหลังผู้ชนะ 5.917 วินาที

ขณะที่ผลงานของทีม "ม้าลำพอง" ในสนามนี้นอกจากความผิดพลาดในจังหวะเติมน้ำมันของ มาสซา ที่จบเพียงอันดับ 13 แล้ว คิมี ไรค์โคเนน แชมป์โลก 2007 ยังมาพลาดชนกำแพงในช่วง 5 รอบสุดท้าย ต้องออกจากการแข่งขันพร้อมกับไร้แต้มติดมือไปอย่างน่าผิดหวัง

สำหรับชัยชนะในสนามนี้ของ ยอดนักขับชาวสเปน นอกจากจะเป็นแชมป์คนแรกของการแข่งขันเอฟวันเวลากลางคืนแล้ว ยังเป็นการกลับมาคว้าแชมป์กรังด์ปรีซ์ได้อีกครั้งในรอบกว่า 1 ปี หลังชัยชนะครั้งล่าสุดของอลอนโซ เกิดขึ้นในเดือนกันยายนปีที่แล้วที่ประเทศอิตาลี

ผลการแข่งขัน 8 อันดับแรก "สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์"
1 เฟอร์นานโด อลอนโซ (เรโนลต์) 1:57:16.304
2 นิโค รอสเบิร์ก (วิลเลียมส์) + 2.957
3 ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) + 5.917
4 ติโม กล็อก (โตโยต้า) + 8.155
5 เซบาสเตียน เวทเทล (โตโรรอสโซ) + 10.268
6 นิค ไฮฟิลด์ (บีเอ็มดับเบิลยู) + 11.101
7 เดวิด คูลธาร์ด (เรดบูล) + 16.387
8 คาซูกิ นากาจิมา (วิลลียมส์) + 18.489

สรุปคะแนน 10 อันดับแรกประเภทนักขับ
1. ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 84
2. เฟลิเป มาสซา (เฟอร์รารี) 77
3. โรเบิร์ต คูบิชา (บีเอ็มดับเบิลยู) 64
4. คิมี ไรค์โคเนน (เฟอร์รารี) 57
5. นิค ไฮฟิลด์ (บีเอ็มดับเบิลยู) 56
6. ฮิกกิ โควาไลเนน (แม็คลาเรน) 51
7. เฟอร์นานโด อลอนโซ (เรโนลต์) 38
8. เซบาสเตียน เวทเทล (โตโรรอสโซ) 27
9. ยาร์โน ทรูลี (โตโยต้า) 26
10. มาร์ค เว็บเบอร์ (เรดบูล) 20

สรุปคะแนน ประเภททีมผู้สร้าง
1. แม็คลาเรน 135
2. เฟอร์รารี 134
3. บีเอ็มดับเบิลยู 120
4. เรโนลต์ 51
5. โตโยต้า 46
6. โตโร รอสโซ 31
7. เรดบูล 28
8. วิลเลียมส์ 26
9. ฮอนด้า 14
10.ฟอร์ช อินเดีย 0
ขึ้นโพเดียมร่วมกับ รอสเบิร์ก และแฮมิลตัน
อลอนโซ ได้แชมป์แม้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 15
รถเซฟตีคาร์ต้องออกมาวิ่งถึง 2 ครั้ง
จังหวะอุบัติเหตุของเนลซินโญ ปิเกต์ ในรอบที่ 14
แฮมิลตัน เก็บ 6 แต้มสำคัญ ช่วยแม็คลาเรนขึ้นมานำเฟอร์รารีในประเภททีม
มาสซา เจ้าของตำแหน่งโพลฯ ต้องตกม้าตายเพราะสายน้ำมัน
กำลังโหลดความคิดเห็น