เอ็ด ฮาร์เดสตี ผู้ควบคุมการแข่งขันจากสมาคมเทนนิสชายอาชีพ หรือ เอทีพี(ATP) กล่าวชื่นชมเมืองไทยมีศักยภาพจัดการแข่งขันเทนนิสไม่แพ้ชาติใดในโลก เพราะเพียบพร้อมทั้งโรงแรมสุดหรู อาหารรสเลิศ และ มิตรภาพที่หาไม่ได้จากที่ไหน ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ควบคุมการแข่งขันชาวอังกฤษยังออกมาแนะว่า ถ้าเอทีพี ชาลเลนเจอร์ "แบ็งคอก โอเพน" ซึ่งกำลังแข่งขันกันอยู่ในเวลานี้มีระบบไฟได้มาตรฐานกว่าที่เป็นอยู่เชื่อว่าแฟนเทนนิสชาวไทยจะเข้ามาชมเกมที่สนามแข่งขันอย่างคับคั่งแน่นอน
ศึกเทนนิสเอทีพี ชาลเลนเจอร์ รายการ "แบงค็อก โอเพน" (LTAT-SAT ATP BANGKOK OPEN) ชิงเงินรางวัล 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ( 1.85 ล้านบาท) ดำเนินการแข่งขัน ณ สนามเทนนิสโรงแรมรามาการ์เดนส์ กรุงเทพฯตั้งแต่วันที่ 14 ไปจนถึงวันที่ 21 มีนาคมนี้ ซึ่งมีนักกีฬาชั้นนำเข้าร่วมแข่งขันจำนวนมากไม่ว่าจะเป็น ลี ฮุง-เต็ก อดีตมือ 1 เอเชียชาวเกาหลี ,กิลเยร์โม คอเรีย อดีตมือ 3 ของโลกชาวอาร์เจนตินา ,ดนัย อุดมโชค มือ 1 ของไทย รวมถึง "แฝดมหัศจรรย์" สนฉัตร-สรรค์ชัย รติวัฒน์ คู่มือ 1 ของไทยและอดีตแชมป์ชายคู่เอทีพี 2 รายการ
นับเป็นอีกครั้งที่เมืองไทยได้มีโอกาสแสดงศักยภาพในการจัดแข่งขันทัวร์นาเมนต์เทนนิสระดับท็อปให้โลกเห็น แม้แต่ เอ็ด ฮาร์เดสตี ซูเปอร์ไวเซอร์หรือผู้ควบคุมการแข่งขันจาก เอทีพี เองยังอดไม่ได้ที่จะออกมาชื่นชมให้ผู้สื่อข่าว Mgr Sport ได้ฟัง
"คนไทยพิสูจน์ตนเองแล้วว่าสามารถจัดการแข่งขันเทนนิสรายการใหญ่ๆไม่แพ้ชาติใดในโลก ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาหรือในยุโรป ประเทศของคุณมีสิ่งอำนวยความสะดวกเยี่ยมยอดมากๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม สนามเทนนิส อาหาร และ มิตรภาพอันเป็นเอกลักษณ์" มร. ฮาร์เดสตี กล่าวพร้อมรอยยิ้ม "นอกจากเทนนิสระดับชาลเลนเจอร์ อย่าง แบ็งคอก โอเพน ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ ซึ่งผมทำหน้าที่กำกับดูเเลอยู่แล้ว เทนนิสเอทีพี ไทยแลนด์ โอเพน ในเดือนกันยายนก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความสมบูรณ์แบบโดยฝีมือคนไทยแท้ๆ"
อย่างไรก็ตามหลังกล่าวชมไปยกใหญ่ มร. ฮาร์เดสตี อดีตคุณครูชาวอังกฤษที่ปัจจุบันย้ายมาอยู่ที่ฮ่องกง ขอออกมาชี้ข้อด้อยของ ชาลเลนเจอร์ "แบงค็อก โอเพน" เพื่อที่ผู้เกี่ยวข้องจะได้แก้ไขให้ดีขึ้นในอนาคต
"อย่างที่ทุกคนรู้กัน อากาศเมืองไทยร้อนระอุเเละมีความชื้นสัมพัทธ์ค่อนข้างสูงทำให้บางครั้งตีเทนนิสลำบาก ซึ่งนักเทนนิสก็ยิ่งทรมานมากขึ้นเมื่อไม่สามารถลงแข่งตอนเย็นหรือตอนค่ำได้เพราะไฟสนามสว่างไม่พอ" ซูเปอร์ไวเซอร์รุ่นเก๋าของเอทีพี กล่าว "ขอพูดตรงไปตรงมา ระบบไฟสนามในไทยยังไม่ค่อยดี ทำให้ไม่สามารถจัดแมตช์แข่งขันในช่วงเย็นและค่ำได้ โดยแสงสว่างน้อยที่สุดตามกฏของเอทีพีคือ 750 ลักซ์ แต่อย่างที่โรงแรมรามาการ์เดนส์สว่างเต็มที่แค่ 600 ลักซ์"
"ถ้าแก้ไขระบบไฟให้ดีขึ้นได้ รายการนี้ก็อาจจะเริ่มแข่งจากปกติตอน 11 นาฬิกาไปเป็นตอนบ่าย 3 ซึ่งอากาศก็จะเย็นลงแล้ว และเมื่ออากาศเย็นนักเทนนิสก็จะเล่นได้ง่ายและมีความสุขมากขึ้น ด้านคนไทยก็สามารถเข้ามาชมเกมในช่วงค่ำได้เพราะตรงกับเวลาเลิกงาน ทัวร์นาเมนต์โดยรวมก็จะคึกคักและดีขึ้นกว่าเดิมอีกมาก" มร. ฮาร์เดสตี แนะนำทิ้งท้าย
สำหรับประเทศไทยได้รับความไว้วางใจจากทางเอทีพี เวิลด์ ทัวร์ จัดการแข่งขัน "ไทยแลนด์ โอเพน" มาตั้งแต่ปี 2003 อีกทั้งยังรับสิทธิ์จากทางเทนนิสหญิง ดับเบิลยูทีเอจัดทัวร์นาเมนต์เป็นประจำมานานกว่า 10 ปี นอกจากนี้ในแต่ละปีเมืองไทยยังรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเทนนิส เอทีพี ระดับ ชาลเลนเจอร์,ฟิวเจอร์ เซอร์กิต รวมทั้งเทนนิสเยาวชนของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ(ไอทีเอฟ) รวมกันอีกหลาย 10 รายการ
