มิชาเอล เอสเซียง มิดฟิลด์ชาวกานา มาซัดประตูชัยในนาที 18 ช่วยให้ "สิงห์บลูส์" เชลซี เฉือนเอาชนะ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-0 ณ สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ พร้อมแซงหน้า ลิเวอร์พูล ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 ของตาราง ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เชลซี 1-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี
เชลซี เตรียมส่ง ริคาร์โด คาร์วัลโญ ลงสนามอีกครั้งหลังจากหายไปนานเนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่ยังพลาดการใช้งาน โจ โคล และ เปาโล แฟร์ไรรา ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี หมดสิทธิ์ส่ง ไนเจล เดอ ยอง และ เคร็ก เบลลามี เนื่องจากมีปัญหาเจ็บเข่าทั้งคู่
เริ่มเกมครึ่งแรกเพียง 2 นาที เชลซี เกือบทำประตูออกนำอย่างรวดเร็วเมื่อ อเนลกา หลุดมาทางขวาก่อนเปิดเข้ากลาง กองหลังเคลียร์ทิ้งออกมาเข้าทาง เอสเซียง ยิงสวนจากนอกเขตโทษ ก่อนที่ แลมพาร์ด จะใช้เท้าแหย่เปลี่ยนทางเข้าประตูไป แต่ผู้กำกับเส้นยกธงเป็นลูกล้ำหน้าก่อน เจ้าถิ่นเดินเกมรุกต่อ มาถึงนาที 14 คราวนี้เป็นจังหวะเตะมุม แลมพาร์ด เปิดบอลเข้ามาให้ คาร์วัลโญ โหม่งหลุดเสาออกไปเล็กน้อย
หลังจากบดอยู่นาน "สิงห์บลูส์" มาทำประตูออกนำได้สำเร็จในนาที 18 จากจังหวะฟรีคิกบริเวณกลางสนาม แลมพาร์ด วางบอลยาวเข้ามาในเขตโทษและเป็น เอสเซียง ตวัดบอลตามน้ำข้ามตัว เชย์ กิฟเวน เข้าสู่ก้นตาข่าย สกอร์ขยับเป็น 1-0 อีกห้านาทีต่อมาทีมเยือนตอบโต้กลับเมื่อ บริดจ์ เติมเกมขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนตบบอลเข้ากลางมาถึง ไซเซโด พลิกตัวยิง แต่บอลไม่ตรงกรอบหลุดเสาออกหลังไป
เกมผ่านครึ่งชั่วโมง เอสเซียง มีโอกาสยิงอีกครั้งหน้ากรอบเขตโทษหลังจากเก็บตกบอลจากลูกเตะมุม แต่หลุดกรอบประตูออกไป อีก 5 นาทีต่อมา บัลลัค แย่งบอลได้จากคู่แข่ง หลังจากนั้นจ่ายต่อให้ แลมพาร์ด ปาดเร็วต่ออีกทอดให้ ดร็อกบา หลุดไปในเขตโทษ ก่อนตอกส้นกลับคืนมาให้กัปตันทีมชาติเยอรมนียิงตรงกลางเขตโทษแต่เหินข้ามคานออกไป
เกมมาถึงนาที 38 เป็นโอกาสของ "เรือใบ" เมื่อกองหลังเจ้าถิ่นเคลียร์บอลไม่ขาด บอลตกมาเข้าทาง โรบินโญ ที่ยืนอยู่ในเขตโทษตัดสินใจยิงไสวนปทางเสาสอง แต่ยังดีมี เทอร์รี ยืนขวางอยู่หน้าประตูเตะเคลียร์ทิ้งออกมาได้ หลังจากนั้นไม่ฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ทำให้จบ 45 นาทีแรก เชลซี นำอยู่ 1-0
เกมครึ่งหลังผ่านมา 2 นาที เอสเซียง แทงบอลทะลุช่องให้ ดร็อกบา หลุดเข้าไปในเขตโทษ เกือบได้ง้างเท้ายิง แต่ถูกกองหลังทีมเยือนถึง 2 คนตามมาบล็อกไว้ทัน อีกสองนาทีต่อมา เอสเซียง ได้บอลอีกครั้งก่อนจ่ายต่อให้ อเนลกา กลับตัวยิงตามน้ำตรงหน้าเขตโทษ บอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียว เจ้าถิ่นยังคงกดดันต่อ มาถึงนาที 51 โบซิงวา ลากลุยขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนไหลให้ ดร็อกบา โฉบมายิงมุมแคบ แต่ กิฟเวน ยังเร็วออกมาปิดมุมทัน
เอสเซียง โดดเด่นมากในเกมนี้และมีโอกาสลุ้นทำประตูอีกครั้งในนาที 53 เมื่อรับบอลได้จาก เทอร์รี ก่อนลากมายิงตรงหน้าเขตโทษ แต่ยังไม่ตรงกรอบ เจ้าถิ่นน่าทำประตูหนีห่างมากที่สุดในนาที 63 เมื่อ เอสเซียง ทำเกมขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนตบบอลเข้ากลางให้ เบลเล็ตติ ลากเขามายิงหน้ากรอบเขตโทษ บอลเรียดผ่านมือ กิฟเวน ไปแล้ว แต่โชคร้ายพุ่งไปชนโคนเสาอย่างแรงกระดอนออกมา
เชลซี ครองบอลเหนือกว่าโดยตลอดจนปิดโอกาสการเข้าทำของ แมนฯ ซิตี แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เด็ดขาดพอจึงเจาะตาข่ายเพิ่มไม่ได้ โอกาสลุ้นทำประตูอย่างใกล้เคียงเกิดขึ้นอีกครั้งต้องรอจนถึงนาที 86 จากจังหวะเตะมุมเมื่อ แลมพาร์ด เปิดบอลเข้ามาให้ เทอร์รี โหม่งแต่เหินข้ามคานออกไป
เกมเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ "สิงห์บลูส์" ได้โต้กลับขึ้นมาจาก อเนลกา ลากหนีกองหลังทีมเยือนก่อนจ่ายต่อให้ แลมพาร์ด ได้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่บอลแฉลบกองหลังข้ามคานออกไปเหมือนเดิม หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ทำให้จบ 90 นาที เชลซี เฉือนเอาชนะไป 1-0 เก็บสามคะแนนเต็มพร้อมแซง ลิเวอร์พูล ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เชก, จอห์น เทอร์รี, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, มิชาเอล เอสเซียง, แอชลีย์ โคล, โฮเซ โบซิงวา, แฟรงค์ แลมพาร์ด, เดโก, มิชาเอล บัลลัค, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, นิโกลาส์ อเนลกา
แมนฯ ซิตี : เชย์ กิฟเวน, เนดัม โอนูโอฮา, ริชาร์ด ดันน์, เวย์น บริดจ์, มิกาห์ ริชาร์ดส, เอลาโน, สตีเฟน ไอร์แลนด์, พาโบล ซาบาเลตา, โรบินโญ, ชอน ไรท์ ฟิลลิปส์, เฟลิเป ไซเซโด
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เชลซี ชนะ แมนฯ ซิตี 1-0 [1-0 : มิชาเอล เอสเซียง น.17]
แอสตัน วิลลา แพ้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-2 [0-1 : เจอร์แมน เจนาส น.5], [0-2 : ดาร์เรน เบนท์ น.50], [1-2 : จอห์น คาร์ริว น.85]
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เชลซี 1-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี
เชลซี เตรียมส่ง ริคาร์โด คาร์วัลโญ ลงสนามอีกครั้งหลังจากหายไปนานเนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่ยังพลาดการใช้งาน โจ โคล และ เปาโล แฟร์ไรรา ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี หมดสิทธิ์ส่ง ไนเจล เดอ ยอง และ เคร็ก เบลลามี เนื่องจากมีปัญหาเจ็บเข่าทั้งคู่
เริ่มเกมครึ่งแรกเพียง 2 นาที เชลซี เกือบทำประตูออกนำอย่างรวดเร็วเมื่อ อเนลกา หลุดมาทางขวาก่อนเปิดเข้ากลาง กองหลังเคลียร์ทิ้งออกมาเข้าทาง เอสเซียง ยิงสวนจากนอกเขตโทษ ก่อนที่ แลมพาร์ด จะใช้เท้าแหย่เปลี่ยนทางเข้าประตูไป แต่ผู้กำกับเส้นยกธงเป็นลูกล้ำหน้าก่อน เจ้าถิ่นเดินเกมรุกต่อ มาถึงนาที 14 คราวนี้เป็นจังหวะเตะมุม แลมพาร์ด เปิดบอลเข้ามาให้ คาร์วัลโญ โหม่งหลุดเสาออกไปเล็กน้อย
หลังจากบดอยู่นาน "สิงห์บลูส์" มาทำประตูออกนำได้สำเร็จในนาที 18 จากจังหวะฟรีคิกบริเวณกลางสนาม แลมพาร์ด วางบอลยาวเข้ามาในเขตโทษและเป็น เอสเซียง ตวัดบอลตามน้ำข้ามตัว เชย์ กิฟเวน เข้าสู่ก้นตาข่าย สกอร์ขยับเป็น 1-0 อีกห้านาทีต่อมาทีมเยือนตอบโต้กลับเมื่อ บริดจ์ เติมเกมขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนตบบอลเข้ากลางมาถึง ไซเซโด พลิกตัวยิง แต่บอลไม่ตรงกรอบหลุดเสาออกหลังไป
เกมผ่านครึ่งชั่วโมง เอสเซียง มีโอกาสยิงอีกครั้งหน้ากรอบเขตโทษหลังจากเก็บตกบอลจากลูกเตะมุม แต่หลุดกรอบประตูออกไป อีก 5 นาทีต่อมา บัลลัค แย่งบอลได้จากคู่แข่ง หลังจากนั้นจ่ายต่อให้ แลมพาร์ด ปาดเร็วต่ออีกทอดให้ ดร็อกบา หลุดไปในเขตโทษ ก่อนตอกส้นกลับคืนมาให้กัปตันทีมชาติเยอรมนียิงตรงกลางเขตโทษแต่เหินข้ามคานออกไป
เกมมาถึงนาที 38 เป็นโอกาสของ "เรือใบ" เมื่อกองหลังเจ้าถิ่นเคลียร์บอลไม่ขาด บอลตกมาเข้าทาง โรบินโญ ที่ยืนอยู่ในเขตโทษตัดสินใจยิงไสวนปทางเสาสอง แต่ยังดีมี เทอร์รี ยืนขวางอยู่หน้าประตูเตะเคลียร์ทิ้งออกมาได้ หลังจากนั้นไม่ฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ทำให้จบ 45 นาทีแรก เชลซี นำอยู่ 1-0
เกมครึ่งหลังผ่านมา 2 นาที เอสเซียง แทงบอลทะลุช่องให้ ดร็อกบา หลุดเข้าไปในเขตโทษ เกือบได้ง้างเท้ายิง แต่ถูกกองหลังทีมเยือนถึง 2 คนตามมาบล็อกไว้ทัน อีกสองนาทีต่อมา เอสเซียง ได้บอลอีกครั้งก่อนจ่ายต่อให้ อเนลกา กลับตัวยิงตามน้ำตรงหน้าเขตโทษ บอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียว เจ้าถิ่นยังคงกดดันต่อ มาถึงนาที 51 โบซิงวา ลากลุยขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนไหลให้ ดร็อกบา โฉบมายิงมุมแคบ แต่ กิฟเวน ยังเร็วออกมาปิดมุมทัน
เอสเซียง โดดเด่นมากในเกมนี้และมีโอกาสลุ้นทำประตูอีกครั้งในนาที 53 เมื่อรับบอลได้จาก เทอร์รี ก่อนลากมายิงตรงหน้าเขตโทษ แต่ยังไม่ตรงกรอบ เจ้าถิ่นน่าทำประตูหนีห่างมากที่สุดในนาที 63 เมื่อ เอสเซียง ทำเกมขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนตบบอลเข้ากลางให้ เบลเล็ตติ ลากเขามายิงหน้ากรอบเขตโทษ บอลเรียดผ่านมือ กิฟเวน ไปแล้ว แต่โชคร้ายพุ่งไปชนโคนเสาอย่างแรงกระดอนออกมา
เชลซี ครองบอลเหนือกว่าโดยตลอดจนปิดโอกาสการเข้าทำของ แมนฯ ซิตี แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เด็ดขาดพอจึงเจาะตาข่ายเพิ่มไม่ได้ โอกาสลุ้นทำประตูอย่างใกล้เคียงเกิดขึ้นอีกครั้งต้องรอจนถึงนาที 86 จากจังหวะเตะมุมเมื่อ แลมพาร์ด เปิดบอลเข้ามาให้ เทอร์รี โหม่งแต่เหินข้ามคานออกไป
เกมเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ "สิงห์บลูส์" ได้โต้กลับขึ้นมาจาก อเนลกา ลากหนีกองหลังทีมเยือนก่อนจ่ายต่อให้ แลมพาร์ด ได้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่บอลแฉลบกองหลังข้ามคานออกไปเหมือนเดิม หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ทำให้จบ 90 นาที เชลซี เฉือนเอาชนะไป 1-0 เก็บสามคะแนนเต็มพร้อมแซง ลิเวอร์พูล ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เชก, จอห์น เทอร์รี, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, มิชาเอล เอสเซียง, แอชลีย์ โคล, โฮเซ โบซิงวา, แฟรงค์ แลมพาร์ด, เดโก, มิชาเอล บัลลัค, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, นิโกลาส์ อเนลกา
แมนฯ ซิตี : เชย์ กิฟเวน, เนดัม โอนูโอฮา, ริชาร์ด ดันน์, เวย์น บริดจ์, มิกาห์ ริชาร์ดส, เอลาโน, สตีเฟน ไอร์แลนด์, พาโบล ซาบาเลตา, โรบินโญ, ชอน ไรท์ ฟิลลิปส์, เฟลิเป ไซเซโด
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เชลซี ชนะ แมนฯ ซิตี 1-0 [1-0 : มิชาเอล เอสเซียง น.17]
แอสตัน วิลลา แพ้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-2 [0-1 : เจอร์แมน เจนาส น.5], [0-2 : ดาร์เรน เบนท์ น.50], [1-2 : จอห์น คาร์ริว น.85]