ตำรวจ แปลงโฉมใหม่ภายใต้ชื่อ “สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ” โดยเตรียมทุ่มงบ 30 ล้านบาทในปีแรก ลั่นเลื่อนชั้นสู่ไทย พรีเมียร์ลีก ในปีเดียว พร้อมวางเป้าหมายติดท็อป 5 ของประเทศภายใน 3 ปี และเน้นส่งเสริมภาพลักษณ์เพื่อสังคม
เมื่อวันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2552 เวลา 11.00 น. สโมสรฟุตบอลตำรวจ จัดงานแถลงข่าว ณ ห้องกระดังงา ชั้น 3 โรงแรมเรดิสัน กรุงเทพฯ โดยมีการเปิดตัวเรื่องการจดทะเบียนนิติบุคคลในนาม “บริษัท สโมสรฟุตบอลโล่ห์เงิน จำกัด (มหาชน)” และปรับเปลี่ยนชื่อเป็น “สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ” (Police United Football Club)
ภายในงาน พล.ต.ท. วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ เป็นประธานในการแถลงข่าว ร่วมด้วย กมล เอี้ยวศิวิกูล กรรมการผู้จัดการสโมสร, พล.ต.ต. ภูมิรา วัฒนปาณี และ นายยรรยง อัครจินดานนท์ กรรมการบริหารสโมสร พร้อมด้วย วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นอดีตที่ปรึกษาของสโมสร และ องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา หัวเรือใหญ่ของทีมโปลิศ ยูไนเต็ด กล่าวว่า “สโมสรตำรวจได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และเปลี่ยนชื่อทีมตามระเบียบของ AFC (สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย) ซึ่งเราได้ทีมงานมืออาชีพเข้ามาพัฒนาสโมสรให้เป็นทีมระดับแนวหน้า โดยขอเลื่อนชั้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้า และก้าวขึ้นไปติด 1 ใน 5 ของประเทศในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี อีกทั้งยังมีความมุ่งหวังเพื่อให้เป็นทีมฟุตบอลที่สามารถเชื่อมโยงระหว่างตำรวจกับประชาชน รวมถึงสร้างทีมให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อประชาชนและเยาวชน สมกับชื่อ ‘สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน’ ”
ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เอ่ยต่อไปว่า "เราต้องการเห็นนักฟุตบอล โค้ช รวมไปถึงกองเชียร์ของเราทั้งในและนอกสนาม มีน้ำใจนักกีฬา สุภาพ และเป็นมิตร นอกจากนี้ เป้าหมายของสโมสรที่ควบคู่ไปกับความเป็นเลิศทางด้านกีฬา คือ การสร้างโอกาสให้แก่เยาวชน อาทิ การสนับสนุนทีมฟุตบอลสันติภาพ ซึ่งเป็นทีมเยาวชนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้การสนับสนุนและร่วมพัฒนาเยาวชนสู่ความเป็นมืออาชีพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ตลอดจนกิจกรรมเพื่อสังคมอื่นๆ ที่สามารถปฏิบัติได้ในฐานะตำรวจ"
ทั้งนี้ สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ ยังเปิดเผยอีกว่าจะมีงบประมาณหล่อเลี้ยงทีมในปีแรกสูงถึง 20-30 ล้านบาท โดยให้ พ.ต.ต.ชัยยง ขำเปี่ยม อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติไทย และดาวดังของทีมที่มีใบอนุญาตโค้ชระดับ A license เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ส่วนสนามเหย้านั้นจะใช้ศูนย์กีฬาคลองจั่นแทนสนามกีฬาบุญยะจินดาที่ปิดปรับปรุงตลอดศึกดิวิชัน 1 ทั้งฤดูกาล 2552
หลังเสร็จงานแถลงข่าว องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการส.บอลไทยได้ให้สัมภาษณ์ถึงทีมเพื่อนตำรวจกับผู้สื่อข่าว MGR Sport ว่า "ที่ผ่านมาทีมตำรวจอาจมีผลงานถดถอยลงไปบ้าง เพราะไม่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอย่างจริงจัง แต่เมื่อ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา เข้ามาเป็นประธานสโมสร ผมและคุณวรวีร์ (มะกูดี) ในฐานะที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจและเคยเล่นฟุตบอลกับผู้บริหารหลายคนในทีมก็เชื่อว่าจะนำแนวคิดที่ดีหลายอย่างมาผลักดันให้เป็นสโมสรระดับอาชีพ มีมาตรฐานไม่แพ้ทีมในเจ-ลีกของ ญี่ปุ่น หรือสโมสรดังของยุโรปได้"