“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง พอใจที่เห็น “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ต้อนเอาชนะ อีสเทิร์น แอธเลติก 4-1 แต่รับลูกทีมน่าจะยิงได้มากกว่านี้เมื่อเทียบกับโอกาสในศึกฟุตบอลเอเอฟซี คัพ 2009 เมื่อค่ำวันอังคารที่ 9 มีนาคม 2552
ชลบุรี เอฟซี ยอดทีมจากไทยพรีเมียร์ลีก เก็บสามแต้มตุนใส่กระเป๋าหลังเปิดสนามศุภชลาศัยถล่ม อีสเทิร์น แอธเลติก รองบ่อนจากฮ่องกง 4-1 โดยเจ้าถิ่นได้จาก ไกรสร ปั้นเจริญ, มาชาโด ดาฮาร์ บาปติสตา (ทำเข้าประตูตัวเอง), พิภพ อ่อนโม้ และ ภานุวัฒน์ จินตะ ส่วนผู้มาเยือนตีไข่แตกได้จาก หว่อง ชุน หยู
ภายหลังการแข่งขัน เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือ “ฉลามชล” เอ่ยปากกับทีมข่าว MGR Sport ที่ไปเกาะติดสถานการณ์ถึงขอบสนาม “ผมยอมรับว่าไม่รู้ข้อมูลผู้เล่นของ อีสเทิร์น แอธเลติก มากนัก ตอนแรกคาดว่าเขาจะวางระบบ 4-4-2 ลงสู้กับเรา แต่เมื่อปรับมาเล่นแบบ 5-4-1 ครึ่งแรกผมจึงให้ลูกทีมเน้นบุกทางริมเส้น ซึ่งเรามีโอกาสทำประตูเยอะแต่ได้มาแค่ 2 ประตู แฟนๆ อาจผิดหวังไปบ้าง”
“อย่างไรก็ตาม ลงมาเล่นต่อในครึ่งหลังผมสั่งให้ลูกทีมเดินหน้าบุกให้มากขึ้น รวมแล้วยิงได้ 4 ประตู แต่โอกาสของเรามีมากมาย การที่ผมเป็นศูนย์หน้ามาก่อนทำให้หลายคนคิดว่า ชลบุรี น่าจะจบสกอร์ได้คมกว่านี้ ทว่าก็ไม่เป็นไรผมไม่อยากกดดันลูกทีมเกินไป แต่ก็ต้องบอกกันไม่จำเป็นว่ากองหน้าเท่านั้นที่จะทำประตู ทุกคนในทีมต้องทำประตูได้ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นเราได้สามแต้มก็ถือตามเป้า” ซิโก้ กล่าวต่อ
สุดท้าย เกียรติศักดิ์ เผยถึงการหมุนเวียนผู้เล่น “การที่เราต้องลงแข่งทั้งช่วงสุดสัปดาห์และกลางสัปดาห์ ทำให้ผมต้องหมุนเวียนนักเตะในการลงสนาม เพื่อไม่ให้ผู้เล่นเหนื่อยล้าเกินไป อยากให้ยืนระยะยาวกันให้ได้ จริงๆ แล้ว ชลบุรี ชุดนี้ถือว่ามีนักเตะฝีเท้าใกล้เคียงกันจึงไม่เป็นปัญหา”
ด้าน โล ไค วาห์ กุนซือ อีสเทิร์น แอธเลติก ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport เช่นกัน “ก็คิดไว้แต่แรกแล้วว่าต้องเป็นเกมยาก เนื่องจาก ชลบุรี เอฟซี เป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในสาย จึงวางแผนให้ลูกทีมลงมาเน้นเกมรับไว้ก่อน แต่ก็เสียประตูไปเร็วจากความผิดพลาดในแผงหลัง ผมจึงต้องปรับแผนเดินเกมบุกมากขึ้นและจึงตีไข่แตกได้ในครึ่งหลัง ก่อนจะเสียไปอีกสองประตูจากความผิดพลาดในแนวรับเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม การทำประตูได้ถือว่าพอใจแล้ว กลับไปคงต้องปรับแผนกันใหม่สำหรับนัดต่อๆ ไป ซึ่งก็คิดว่าทีมของเรายังมีโอกาสผ่านเข้ารอบได้”
ชลบุรี เอฟซี ยอดทีมจากไทยพรีเมียร์ลีก เก็บสามแต้มตุนใส่กระเป๋าหลังเปิดสนามศุภชลาศัยถล่ม อีสเทิร์น แอธเลติก รองบ่อนจากฮ่องกง 4-1 โดยเจ้าถิ่นได้จาก ไกรสร ปั้นเจริญ, มาชาโด ดาฮาร์ บาปติสตา (ทำเข้าประตูตัวเอง), พิภพ อ่อนโม้ และ ภานุวัฒน์ จินตะ ส่วนผู้มาเยือนตีไข่แตกได้จาก หว่อง ชุน หยู
ภายหลังการแข่งขัน เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือ “ฉลามชล” เอ่ยปากกับทีมข่าว MGR Sport ที่ไปเกาะติดสถานการณ์ถึงขอบสนาม “ผมยอมรับว่าไม่รู้ข้อมูลผู้เล่นของ อีสเทิร์น แอธเลติก มากนัก ตอนแรกคาดว่าเขาจะวางระบบ 4-4-2 ลงสู้กับเรา แต่เมื่อปรับมาเล่นแบบ 5-4-1 ครึ่งแรกผมจึงให้ลูกทีมเน้นบุกทางริมเส้น ซึ่งเรามีโอกาสทำประตูเยอะแต่ได้มาแค่ 2 ประตู แฟนๆ อาจผิดหวังไปบ้าง”
“อย่างไรก็ตาม ลงมาเล่นต่อในครึ่งหลังผมสั่งให้ลูกทีมเดินหน้าบุกให้มากขึ้น รวมแล้วยิงได้ 4 ประตู แต่โอกาสของเรามีมากมาย การที่ผมเป็นศูนย์หน้ามาก่อนทำให้หลายคนคิดว่า ชลบุรี น่าจะจบสกอร์ได้คมกว่านี้ ทว่าก็ไม่เป็นไรผมไม่อยากกดดันลูกทีมเกินไป แต่ก็ต้องบอกกันไม่จำเป็นว่ากองหน้าเท่านั้นที่จะทำประตู ทุกคนในทีมต้องทำประตูได้ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นเราได้สามแต้มก็ถือตามเป้า” ซิโก้ กล่าวต่อ
สุดท้าย เกียรติศักดิ์ เผยถึงการหมุนเวียนผู้เล่น “การที่เราต้องลงแข่งทั้งช่วงสุดสัปดาห์และกลางสัปดาห์ ทำให้ผมต้องหมุนเวียนนักเตะในการลงสนาม เพื่อไม่ให้ผู้เล่นเหนื่อยล้าเกินไป อยากให้ยืนระยะยาวกันให้ได้ จริงๆ แล้ว ชลบุรี ชุดนี้ถือว่ามีนักเตะฝีเท้าใกล้เคียงกันจึงไม่เป็นปัญหา”
ด้าน โล ไค วาห์ กุนซือ อีสเทิร์น แอธเลติก ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport เช่นกัน “ก็คิดไว้แต่แรกแล้วว่าต้องเป็นเกมยาก เนื่องจาก ชลบุรี เอฟซี เป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในสาย จึงวางแผนให้ลูกทีมลงมาเน้นเกมรับไว้ก่อน แต่ก็เสียประตูไปเร็วจากความผิดพลาดในแผงหลัง ผมจึงต้องปรับแผนเดินเกมบุกมากขึ้นและจึงตีไข่แตกได้ในครึ่งหลัง ก่อนจะเสียไปอีกสองประตูจากความผิดพลาดในแนวรับเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม การทำประตูได้ถือว่าพอใจแล้ว กลับไปคงต้องปรับแผนกันใหม่สำหรับนัดต่อๆ ไป ซึ่งก็คิดว่าทีมของเรายังมีโอกาสผ่านเข้ารอบได้”
