คริสเตียโน โรนัลโด ปีกตัวทะลุทะลวงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับไม่ง่ายเลยกับการควบคุมอารมณ์โกรธของตนเอง หลังจากโดนคู่ต่อสู้ไล่เตะ แต่ลั่นไม่เคยกลัวเลยกับการต้องตกเป็นเป้าหมาย เพราะจะลุกขึ้นสู้และเดินหน้าต่อไป
โรนัลโด เพิ่งถูก สตีเวน เทย์เลอร์ กองหลัง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เอาแขนฟาดก่อนพักครึ่งในเกม พรีเมียร์ชิป อังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมาที่ แมนฯยูไนเต็ด เฉือนชนะไปได้ 2-1 จากนั้นทั้งคู่ยังไปปะทะอารมณ์กันต่อในอุโมงค์ ซึ่ง อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ อาร์เซนอล มองว่า ปีกทีมชาติโปรตุเกส โดนอัดบ่อย เพราะพฤติกรรมหยิ่งจองหอง จนคู่แข่งหมั่นไส้
ซึ่ง โรนัลโด ออกมายอมรับก่อนเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่จะช่วย แมนฯยู เปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด รับมือ อินเตอร์ มิลาน ในคืนวันพุธที่ 11 มีนาคมนี้ หลังนัดแรกเสมอกันมา 0-0 ว่าไม่ง่ายเลยกับการโดนไล่เตะ เนื่องจากมีอารมณ์โกรธเป็นเหมือนกัน
“ผมตกเป็นเป้าหมายของทุกคน ดังนั้น จึงยากมากที่จะหลีกเลี่ยง ผมพยายามควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเอง แต่แน่นอนมันไม่ง่ายเลย และจะต้องรับมือให้ได้ บางครั้งก็ยากที่จะควบคุมตนเองเพราะบรรยากาศในสนามและความสำคัญของเกม ผมเพิ่งอายุ 24 ปี เท่านั้น แต่ก็มีประสบการณ์ในเกมใหญ่มากมายและสิ่งนี้จะช่วยให้ผมเรียนนรู้และผ่านไปได้” นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของโลก เผย
อย่างไรก็ตาม อดีตนักเตะ สปอร์ติง ลิสบอน ออกมาเผยอีกว่า “ถ้าหากมีใครเตะผม จากนั้นผมก็จะลุกขึ้นและเดินหน้าต่อไป ผมไม่กลัวเลยกับการถูกเสียบสกัด เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งในเกมฟุตบอล เหมือนเป็นเรื่องท้าทายมากกว่าที่พวกเขาพยายามที่จะหยุดผมให้ได้”
ในฤดูกาลนี้ โรนัลโด ถูกนักเตะหลายคนไล่อัด ไม่ว่าจะเป็น สก็อตต์ บราวน์ ของ กลาสโกว์ เซลติก, แอนดี วิลกินสัน ของ สโต๊ก ซิตี, ไมเคิล ดอว์สัน ของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์, เดวิด ดันน์ ของ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส, เอ็มมานูเอล โปกาเต็ทซ์ ของ มิดเดิลสโบรช์ และล่าสุด เทย์เลอร์ ของ นิวคาสเซิล