"โลมายักษ์" พรหม มีสวัสดิ์ ก้านเหล็กมือดีจากอำเภอหัวหิน ขอทำอีก 7 อันเดอร์พาร์ในรอบสุดท้ายวันพรุ่งนี้ เพื่อกลายเป็นโปรไทยคนที่ 3 ที่ชนะเลิศกอล์ฟ ไทยแลนด์ โอเพน ตามรอยเท้าคุณพ่อ สุเทพ มีสวัสดิ์
เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา พรหม ลงเล่นรอบที่สามของศึก เอเชียน ทัวร์ รายการ "สิงห์ ไทยแลนด์ โอเพน ครั้งที่ 40" ชิงถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่สนามลากูนา ภูเก็ต กอล์ฟ คลับ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งผลปรากฎว่า โปรวัย 24 ปี สามารถทำอีเกิลได้ตั้งแต่หลุม 1 พาร์ 4 ระยะ 315 หลา ด้วยการใช้ลอบเวดจ์ตีขึ้นกรีนระยะ 83 หลาลูกตกหลังธงถอยลงหลุมไปอย่างสวยงาม ก่อนไล่เรียงเก็บเบอร์ดีต่อที่หลุม 7 กับ 9 แต่ดันมาเสียโบกีที่หลุม 17 และทำเบอร์ดีส่งท้ายที่หลุม 18 จบรอบสามทำ 4 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ ขึ้นจากที่ 30 มารั้งอันดับ 6 ร่วม ตามหลังกลุ่มผู้นำอยู่ 3 สโตรก
โดยภายหลังการแข่งขัน พรหม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าเสียดายกับโอกาสทำสกอร์ในช่วง 9 หลุมหลัง "การทำอีเกิลได้ตั้งแต่หลุมแรกก็ทำให้มีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นก่อนเล่นในหลุม 2 กับ 3 ซึ่งมีความยากอยู่พอสมควร ส่วนวันนี้ยังคงไดร์ฟและตีเหล็กได้ดีเหมือนเดิม แม้ช่วง 9 หลุมแรกมีโอกาสแล้วทำได้ แต่มาพลาดในช่วง 9 หลุมหลังที่ดันพลาดโอกาสพัตต์เบอร์ดีที่หลุม 10, 14 และ 16 ไม่อย่างนั้นก็คงมีลุ้นขึ้นนำอยู่เหมือนกัน"
"ถึงตอนนี้เชื่อว่าตนเองมีลุ้นแชมป์ แต่ขอพยายามทำให้ดีที่สุดดีกว่า ส่วนแผนการเล่นคงไม่มีบุกสู้ พยายามเล่นตามเกมของเรา เชื่อว่าหากพรุ่งนี้ทำได้สัก 6-7 อันเดอร์ก็มีลุ้น และคิดว่าแชมป์น่าจะมีสกอร์เกิน 15 อันเดอร์ แต่หากไม่ได้แชมป์ก็ขอเกาะติดกลุ่มผู้นำแบบนี้ เพื่อทำอันดับทำเงินให้ดีๆ เมื่อจบฤดูกาล" พรหม ที่เตรียมแบ่งเวลาเล่นทั้งใน เอเชียน และ เจแปน ทัวร์ ในปีนี้ กล่าว
ทั้งนี้ พรหม เพิ่งคว้าแชมป์ เอเชียน ทัวร์ ได้รายการเดียวนับตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อปี 2004 จากศึก เอสเค เทเลคอม โอเพน ที่ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 2006 ขณะที่คุณพ่อ สุเทพ มีสวัสดิ์ ถือเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์ ไทยแลนด์ โอเพน ได้เมื่อปี 1991
เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา พรหม ลงเล่นรอบที่สามของศึก เอเชียน ทัวร์ รายการ "สิงห์ ไทยแลนด์ โอเพน ครั้งที่ 40" ชิงถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่สนามลากูนา ภูเก็ต กอล์ฟ คลับ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งผลปรากฎว่า โปรวัย 24 ปี สามารถทำอีเกิลได้ตั้งแต่หลุม 1 พาร์ 4 ระยะ 315 หลา ด้วยการใช้ลอบเวดจ์ตีขึ้นกรีนระยะ 83 หลาลูกตกหลังธงถอยลงหลุมไปอย่างสวยงาม ก่อนไล่เรียงเก็บเบอร์ดีต่อที่หลุม 7 กับ 9 แต่ดันมาเสียโบกีที่หลุม 17 และทำเบอร์ดีส่งท้ายที่หลุม 18 จบรอบสามทำ 4 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ ขึ้นจากที่ 30 มารั้งอันดับ 6 ร่วม ตามหลังกลุ่มผู้นำอยู่ 3 สโตรก
โดยภายหลังการแข่งขัน พรหม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าเสียดายกับโอกาสทำสกอร์ในช่วง 9 หลุมหลัง "การทำอีเกิลได้ตั้งแต่หลุมแรกก็ทำให้มีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นก่อนเล่นในหลุม 2 กับ 3 ซึ่งมีความยากอยู่พอสมควร ส่วนวันนี้ยังคงไดร์ฟและตีเหล็กได้ดีเหมือนเดิม แม้ช่วง 9 หลุมแรกมีโอกาสแล้วทำได้ แต่มาพลาดในช่วง 9 หลุมหลังที่ดันพลาดโอกาสพัตต์เบอร์ดีที่หลุม 10, 14 และ 16 ไม่อย่างนั้นก็คงมีลุ้นขึ้นนำอยู่เหมือนกัน"
"ถึงตอนนี้เชื่อว่าตนเองมีลุ้นแชมป์ แต่ขอพยายามทำให้ดีที่สุดดีกว่า ส่วนแผนการเล่นคงไม่มีบุกสู้ พยายามเล่นตามเกมของเรา เชื่อว่าหากพรุ่งนี้ทำได้สัก 6-7 อันเดอร์ก็มีลุ้น และคิดว่าแชมป์น่าจะมีสกอร์เกิน 15 อันเดอร์ แต่หากไม่ได้แชมป์ก็ขอเกาะติดกลุ่มผู้นำแบบนี้ เพื่อทำอันดับทำเงินให้ดีๆ เมื่อจบฤดูกาล" พรหม ที่เตรียมแบ่งเวลาเล่นทั้งใน เอเชียน และ เจแปน ทัวร์ ในปีนี้ กล่าว
ทั้งนี้ พรหม เพิ่งคว้าแชมป์ เอเชียน ทัวร์ ได้รายการเดียวนับตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อปี 2004 จากศึก เอสเค เทเลคอม โอเพน ที่ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 2006 ขณะที่คุณพ่อ สุเทพ มีสวัสดิ์ ถือเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์ ไทยแลนด์ โอเพน ได้เมื่อปี 1991