ประหยัด มากแสง นักกอล์ฟหนึ่งเดียวของไทยในศึกแอคเซนเจอร์ แมตช์ เพลย์ แชมเปียนชิป จอดป้ายเพียงรอบแรก หลังพ่ายให้กับ ลี เวสต์วูด มือดีจากอังกฤษ ส่วน ไทเกอร์ วูดส์ คัมแบ็กจากอาการเจ็บเข่าด้วยการไล่ต้อน เบรนแดน โจนส์ คว้าชัย
การแข่งขัน เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิป รายการแอคเซนเจอร์ แมตช์ เพลย์ แชมเปียนชิป ที่สนามริทซ์-คาร์ลตัน กอล์ฟ คลับ เมืองมารานา รัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ชิงเงินรางวัล 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 297 ล้านบาท) เปิดฉากดวลรอบแรกกันไปเมื่อวันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
คู่แรกเป็นการลงสนามของ ประหยัด มากแสง โปรอันดับหนึ่งของไทยที่ร่วมรายการนี้เป็นครั้งแรกพบกับ ลี เวสต์วูด สมาชิกไรเดอร์คัพ ทีมยุโรปชาวอังกฤษในสายเบน โฮแกน เปิดฉากมาในหลุมที่ 2 ทั้งคู่สามารถเก็บเบอร์ดีได้ ก่อนที่ เวสต์วูด จะเป็นฝ่ายขึ้นนำ 1 อัพในหลุมที่ 4 จากการทำเบอร์ดีได้ ขณะที่ “โปรหมาย” ได้เพียงแค่เซฟพาร์
จากนั้นมือ 12 ของโลกจากแดนผู้ดีโกยหนีไปเป็น 3 อัพในหลุมที่ 7 ทว่า ประหยัด มือ 53 ของโลกไล่ตามมาเหลือ 2 อัพในหลุมที่ 8 ก่อนจะประคองตัวเรื่อยมาจนถึงหลุมที่ 15 ก้านเหล็กมือดีจากแดนสยามก็สามารถจี้จนตามหลังเพียง 1 อัพ อย่างไรก็ตาม เวสต์วูด มาดับความหวังในหลุมถัดมาด้วยการออกนำเป็น 2 อัพอีกครั้ง
กระทั่งหลุมที่ 17 ก็เป็นหลุมสุดท้ายที่ ประหยัด ได้เล่นเมื่อต่างฝ่ายต่างเซฟพาร์เหมือนกัน ทำให้ เวสต์วูด เป็นฝ่ายเอาชนะไป 2 และ 1 (นำ 2 อัพ ขณะที่เหลือ 1 หลุม) ผ่านเข้ารอบไปประชันวงสวิงกับ สจวร์ต ซิงค์ จากสหรัฐฯที่เฉือนชนะ ริชาร์ด สเติร์น นักกอล์ฟจากแอฟริกาใต้จากการเล่นถึง 19 หลุม
สำหรับผลคู่อื่นที่น่าสนใจในสายเบน โฮแกน วีเจย์ ซิงห์ (ฟิจิ) ชนะ โซเรน เคลด์เซน (เดนมาร์ก) 2 และ 1, เออร์นี เอลส์ (แอฟริกาใต้) ชนะ โซเรน แฮนเซน (เดนมาร์ก) 4 และ 2, ฟิล มิคเคลสัน (สหรัฐฯ) ชนะ อังเคล คาเบรรา (อาร์เจนตินา) 19 หลุม
ขณะที่ในสายบ็อบบี โจนส์ ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การคัมแบ็กในรอบ 8 เดือนของ ไทเกอร์ วูดส์ หมายเลข 1 ของโลกชาวอเมริกัน ดวลกับ เบรนแดน โจนส์ มือ 64 ของโลกจากออสเตรเลีย ซึ่ง “พญาเสือ” ยังโชว์ฟอร์มได้สมศักดิ์ศรีด้วยการขึ้นนำ 2 อัพตั้งแต่ 2 หลุมแรก ก่อนทิ้งห่างไปเป็น 4 อัพในหลุมที่ 13
แม้จะถูกตีตื้นเหลือ 3 อัพในหลุมที่ 15 แต่สุดท้าย ไทเกอร์ ก็เอาชนะไปได้ในหลุมต่อมาด้วยสกอร์ 3 และ 2 เข้ารอบไปเจอกับ ทิม คลาร์ก โปรแอฟริกาใต้ที่คว้าชัยเหนือเพื่อนร่วมชาติอย่าง รีทีฟ กูเซน ด้วยสกอร์ 3 และ 2 เช่นกัน