คริสเตียโน โรนัลโด ซัดฟรีคิกสุดสวยช่วยให้ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนชนะ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-1 รั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และก็ฉีก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ห่างเป็น 8 แต้มแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
มีเกมหนักในแชมเปียนส์ ลีก กับ อินเตอร์ มิลาน รออยู่ช่วงกลางสัปดาห์ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดทัพ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเปิดรังชน “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ด้วยการส่งตัวสำรองอย่าง โทมัสซ์ คุสซ์แซ็ค เฝ้าเสาแทน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ส่วน ราฟาเอล ดา ซิลวา และ จอนนี อีแวนส์ ช่วยเกมรับ แดนหน้าให้ เวย์น รูนีย์ ฟิตกลับมาลุย ด้าน แซม อัลลาไดซ์ ปรับหมากให้ทีมเยือนเล่นหน้าตัวเดียวทิ้ง โรเก ซานตา ครูซ เอาไว้ แต่ก็มี เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ และ มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน คอยเสริมอยู่ด้านหลัง
เริ่มเกมได้สองนาทีเศษ แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบขึ้นนำเร็วเมื่อ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ แปะต่อให้ พอล สโคลส์ เข้าไปสับด้วยขวาบริเวณหัวกะโหลกแต่บอลติดไซด์หลุดกรอบไป เกมยังเป็นไปแบบวันเวย์ นาทีที่ 16 “ผีแดง” จวนเจียนได้ประตูนำ คริสเตียโน โรนัลโด เปิดจากกราบขวาไปเสาสอง ไมเคิล คาร์ริค ก้มตัวจะโหม่งจ่อๆ แต่ ไรอัน นีลเซน เคลียร์ทิ้งไปเข้าทาง ปาทริซ เอฟรา ยิงสวนหลุดเสาหวุดหวิด
หลังบี้อยู่นานนาทีที่ 23 แฟนๆ ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เฮกันลั่นเมื่อทีมรักนำ 1-0 เมื่อ นีลเซน สกัดลูกผ่านของ หลุยส์ นานี ไม่ขาดโดน เวย์น รูนีย์ เข้าไปจิ้มจ่อๆ สวนทาง พอล โรบินสัน เข้าไป อย่างไรก็ตาม เก้านาทีถัดมา แบล็คเบิร์น ไล่เจ๊า 1-1 เมื่อเจ้าถิ่นพลาดเสียบอลแดนกลาง อังเดร ออยเยอร์ แทงให้ โรเก ซานตา ครูซ หลุดเข้าไปแตะหลบ โทมัสซ์ คูซส์แซ็ค ก่อนแปบอลเข้าไป ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูแรกในลีกรอบ 15 นัดหลังสุด และก็เป็นประตูแรกนอกบ้านของ “กุหลาบไฟ” นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาด้วย
พอโดนประตูไปขุนพล “ผีแดง” รุกเร้าเพื่อหาประตูขึ้นนำอีกครั้ง และก็ส่งลูกหนังตุงตาข่ายสำเร็จในนาทีสุดท้าย เมื่อ นานี เปิดลูกเตะมุมเข้ามาให้ จอนนี อีแวนส์ กระโดดโขกไม่เหลือ แต่ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ผู้ตัดสินเป่าฟาล์วไม่ให้ประตูเจ้าบ้าน เมื่อเห็นว่ากองหลังทีมชาติไอร์แลนด์เหนือขึ้นกดกองหลัง “กุหลาบไฟ” จบ 45 นาทีแรกยังไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบเรื่องของสกอร์ แต่รูปเกมเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เหนือกว่าค่อนข้างชัดเจน
เปิดฉากครึ่งหลังได้นาทีเศษ เจ้าถิ่นได้ลุ้นทันทีเมื่อ โรนัลโด แตะขึ้นมายิงด้วยซ้ายบอลหลุดกรอบแบบได้ลุ้น แต่ แบล็คเบิร์น โต้กลับมามีเสียวเมื่อ ซานตา ครูซ ป้ายบอลจ่อๆ ในกรอบโทษแต่ เอฟรา หุบมาช่วยคู่เซ็นเตอร์บล็อกได้ทันเวลา ทีมเยือนชักได้ใจโต้ขึ้นมาสวยอีกครั้ง คีธ แอนดรูว์ส ได้โขกจ่อๆ ตรงตัว คุสซ์แซ็ค เกมของ “ผีแดง” รวนเสียอย่างนั้นปล่อยให้ นีลเซน เติมขึ้นมาแปบอลชนเสา เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ ซ้ำไปติดตัวนายทวารอีก
แต่ถึงหนึ่งชั่วโมงพอดี แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมานำ 2-1 เมื่อ โรนัลโด ตะบันฟรีคิกบริเวณเส้นเขตโทษฝั่งซ้ายส่งลูกหนังแหวกอากาศผ่านมือ โรบินสัน เสียบตาข่ายอย่างสวยงาม จากนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ขยับเปลี่ยน 2 คนส่งทั้ง เนมันยา วิดิช และ คาร์ลอส เตเบซ เล่นแทน อีแวนส์ กับ นานี หกนาทีถัดมาแฟนๆ ทีมเยือนเรียกร้องเอาจุดโทษเมื่อเห็น ราฟาเอล ดา ซิลวา เอามือไปแตะไหล่ มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน ในจังหวะหลุดเข้าไปแต่เชิ้ตดำไม่มีการเป่านกหวีดยาวแต่อย่างใด
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย คาร์ริค ได้สะบัดเกือกเต็มๆ ในกรอบโทษแต่บอลพุ่งไปชนตัวผู้เล่น “กุหลาบไฟ” ออกมา จากนั้น “บิ๊กแซม” ปรับทัพให้ เบนนี แม็คคาร์ธี มาลุ้นทำประตูและก็ถอด วินเชนโซ เกรลลา ที่เป็นกองหลังออกไป นาทีที่ 85 โรนัลโด ลากตัดเข้าในก่อนไหลให้ รูนีย์ ยิงเชิดไป นาทีถัดมา รูนีย์ เปิดให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ได้โหม่งจ่อๆ สูงไปอีก หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด เบียดชัยหวิว 2-1 มีเพิ่มเป็น 62 คะแนนจากการลงสนาม 26 นัด ทิ้งห่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงเป็น 8 แต้มแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ แบล็คเบิร์น ยังอยู่ที่ 3 จากท้ายตารางจากการมี 23 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : โทมัสซ์ คุสซ์แซ็ค , ราฟาเอล ดา ซิลวา , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , จอนนี อีแวนส์ , ปาทริซ เอฟรา , คริสเตียโน โรนัลโด , ไมเคิล คาร์ริค , พอล สโคลส์ , หลุยส์ นานี , เวย์น รูนีย์ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน , อังเดร ออยเยอร์ , ไรอัน นีลเซน , กาเอล ชิเวต์ , สตีเฟน วอร์นอค , เดวิด ดันน์ , คีธ แอนดรูว์ส , วินเชนโซ เกรลลา , เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ , มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน , โรเก ซานตา ครูซ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
แอสตัน วิลลา 0-1 เชลซี
[0-1 : นิโกลาส์ อเนลกา (น.19)]
อาร์เซนอล 0-0 ซันเดอร์แลนด์
โบลตัน 2-1 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[1-0 : แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น.10) , 2-0 : เควิน เดวีส์ (น.11) , 2-1 : สกอตต์ พาร์เกอร์ (น.66)]
มิดเดิลสโบรช์ 0-0 วีแกน แอธเลติก
สโตค ซิตี 2-2 ปอร์ทสมัธ
[0-1 : นิโก ครันจ์ชาร์ (น.75) , 1-1 : เจมส์ บีทตี (จุดโทษ น.77) , 2-1 : เจมส์ บีทตี (น.79) , 2-2 : ไรอัน ชอว์ครอสส์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.90)]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[1-0 : เวย์น รูนีย์ (น.23) , 1-1 : โรเก ซานตา ครูซ (น.32) , 2-1 : คริสเตียโน โรนัลโด (น.60)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
มีเกมหนักในแชมเปียนส์ ลีก กับ อินเตอร์ มิลาน รออยู่ช่วงกลางสัปดาห์ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดทัพ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเปิดรังชน “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ด้วยการส่งตัวสำรองอย่าง โทมัสซ์ คุสซ์แซ็ค เฝ้าเสาแทน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ส่วน ราฟาเอล ดา ซิลวา และ จอนนี อีแวนส์ ช่วยเกมรับ แดนหน้าให้ เวย์น รูนีย์ ฟิตกลับมาลุย ด้าน แซม อัลลาไดซ์ ปรับหมากให้ทีมเยือนเล่นหน้าตัวเดียวทิ้ง โรเก ซานตา ครูซ เอาไว้ แต่ก็มี เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ และ มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน คอยเสริมอยู่ด้านหลัง
เริ่มเกมได้สองนาทีเศษ แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบขึ้นนำเร็วเมื่อ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ แปะต่อให้ พอล สโคลส์ เข้าไปสับด้วยขวาบริเวณหัวกะโหลกแต่บอลติดไซด์หลุดกรอบไป เกมยังเป็นไปแบบวันเวย์ นาทีที่ 16 “ผีแดง” จวนเจียนได้ประตูนำ คริสเตียโน โรนัลโด เปิดจากกราบขวาไปเสาสอง ไมเคิล คาร์ริค ก้มตัวจะโหม่งจ่อๆ แต่ ไรอัน นีลเซน เคลียร์ทิ้งไปเข้าทาง ปาทริซ เอฟรา ยิงสวนหลุดเสาหวุดหวิด
หลังบี้อยู่นานนาทีที่ 23 แฟนๆ ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เฮกันลั่นเมื่อทีมรักนำ 1-0 เมื่อ นีลเซน สกัดลูกผ่านของ หลุยส์ นานี ไม่ขาดโดน เวย์น รูนีย์ เข้าไปจิ้มจ่อๆ สวนทาง พอล โรบินสัน เข้าไป อย่างไรก็ตาม เก้านาทีถัดมา แบล็คเบิร์น ไล่เจ๊า 1-1 เมื่อเจ้าถิ่นพลาดเสียบอลแดนกลาง อังเดร ออยเยอร์ แทงให้ โรเก ซานตา ครูซ หลุดเข้าไปแตะหลบ โทมัสซ์ คูซส์แซ็ค ก่อนแปบอลเข้าไป ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูแรกในลีกรอบ 15 นัดหลังสุด และก็เป็นประตูแรกนอกบ้านของ “กุหลาบไฟ” นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาด้วย
พอโดนประตูไปขุนพล “ผีแดง” รุกเร้าเพื่อหาประตูขึ้นนำอีกครั้ง และก็ส่งลูกหนังตุงตาข่ายสำเร็จในนาทีสุดท้าย เมื่อ นานี เปิดลูกเตะมุมเข้ามาให้ จอนนี อีแวนส์ กระโดดโขกไม่เหลือ แต่ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ผู้ตัดสินเป่าฟาล์วไม่ให้ประตูเจ้าบ้าน เมื่อเห็นว่ากองหลังทีมชาติไอร์แลนด์เหนือขึ้นกดกองหลัง “กุหลาบไฟ” จบ 45 นาทีแรกยังไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบเรื่องของสกอร์ แต่รูปเกมเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เหนือกว่าค่อนข้างชัดเจน
เปิดฉากครึ่งหลังได้นาทีเศษ เจ้าถิ่นได้ลุ้นทันทีเมื่อ โรนัลโด แตะขึ้นมายิงด้วยซ้ายบอลหลุดกรอบแบบได้ลุ้น แต่ แบล็คเบิร์น โต้กลับมามีเสียวเมื่อ ซานตา ครูซ ป้ายบอลจ่อๆ ในกรอบโทษแต่ เอฟรา หุบมาช่วยคู่เซ็นเตอร์บล็อกได้ทันเวลา ทีมเยือนชักได้ใจโต้ขึ้นมาสวยอีกครั้ง คีธ แอนดรูว์ส ได้โขกจ่อๆ ตรงตัว คุสซ์แซ็ค เกมของ “ผีแดง” รวนเสียอย่างนั้นปล่อยให้ นีลเซน เติมขึ้นมาแปบอลชนเสา เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ ซ้ำไปติดตัวนายทวารอีก
แต่ถึงหนึ่งชั่วโมงพอดี แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมานำ 2-1 เมื่อ โรนัลโด ตะบันฟรีคิกบริเวณเส้นเขตโทษฝั่งซ้ายส่งลูกหนังแหวกอากาศผ่านมือ โรบินสัน เสียบตาข่ายอย่างสวยงาม จากนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ขยับเปลี่ยน 2 คนส่งทั้ง เนมันยา วิดิช และ คาร์ลอส เตเบซ เล่นแทน อีแวนส์ กับ นานี หกนาทีถัดมาแฟนๆ ทีมเยือนเรียกร้องเอาจุดโทษเมื่อเห็น ราฟาเอล ดา ซิลวา เอามือไปแตะไหล่ มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน ในจังหวะหลุดเข้าไปแต่เชิ้ตดำไม่มีการเป่านกหวีดยาวแต่อย่างใด
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย คาร์ริค ได้สะบัดเกือกเต็มๆ ในกรอบโทษแต่บอลพุ่งไปชนตัวผู้เล่น “กุหลาบไฟ” ออกมา จากนั้น “บิ๊กแซม” ปรับทัพให้ เบนนี แม็คคาร์ธี มาลุ้นทำประตูและก็ถอด วินเชนโซ เกรลลา ที่เป็นกองหลังออกไป นาทีที่ 85 โรนัลโด ลากตัดเข้าในก่อนไหลให้ รูนีย์ ยิงเชิดไป นาทีถัดมา รูนีย์ เปิดให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ได้โหม่งจ่อๆ สูงไปอีก หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด เบียดชัยหวิว 2-1 มีเพิ่มเป็น 62 คะแนนจากการลงสนาม 26 นัด ทิ้งห่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงเป็น 8 แต้มแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ แบล็คเบิร์น ยังอยู่ที่ 3 จากท้ายตารางจากการมี 23 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : โทมัสซ์ คุสซ์แซ็ค , ราฟาเอล ดา ซิลวา , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , จอนนี อีแวนส์ , ปาทริซ เอฟรา , คริสเตียโน โรนัลโด , ไมเคิล คาร์ริค , พอล สโคลส์ , หลุยส์ นานี , เวย์น รูนีย์ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน , อังเดร ออยเยอร์ , ไรอัน นีลเซน , กาเอล ชิเวต์ , สตีเฟน วอร์นอค , เดวิด ดันน์ , คีธ แอนดรูว์ส , วินเชนโซ เกรลลา , เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ , มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน , โรเก ซานตา ครูซ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
แอสตัน วิลลา 0-1 เชลซี
[0-1 : นิโกลาส์ อเนลกา (น.19)]
อาร์เซนอล 0-0 ซันเดอร์แลนด์
โบลตัน 2-1 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[1-0 : แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น.10) , 2-0 : เควิน เดวีส์ (น.11) , 2-1 : สกอตต์ พาร์เกอร์ (น.66)]
มิดเดิลสโบรช์ 0-0 วีแกน แอธเลติก
สโตค ซิตี 2-2 ปอร์ทสมัธ
[0-1 : นิโก ครันจ์ชาร์ (น.75) , 1-1 : เจมส์ บีทตี (จุดโทษ น.77) , 2-1 : เจมส์ บีทตี (น.79) , 2-2 : ไรอัน ชอว์ครอสส์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.90)]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[1-0 : เวย์น รูนีย์ (น.23) , 1-1 : โรเก ซานตา ครูซ (น.32) , 2-1 : คริสเตียโน โรนัลโด (น.60)]
